Blockchain คือ ? รู้จักและเข้าใจก่อนเริ่มลงทุน

คุณอาจเห็นคำว่า "Blockchain" กระจายอยู่ตามพาดหัวสื่อการเงินและการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก และเป็นพื้นฐานในการทำธุรกรรมของคริปโตหรือ Cryptocurrency อย่าง Bitcoin และ Ethereum แต่เทคโนโลยีบล็อกเชน คือ อะไร มีประโยชน์ต่อคนทั่วไปอย่างไร และเราจะลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่นี้ได้อย่างไร ติดตามพร้อมกันที่นี่!

บล็อกเชน หรือ Blockchain คือ ?

คำถามที่ว่าบล็อกเชน หรือ Blockchain คือ อะไรนั้น สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่า Blockchain คือ วิธีการบันทึกข้อมูลที่เชื่อมโยงกันหรือใช้ฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกันในธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งจะบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในสถานที่แตกต่างกัน โดยใช้กระบวนการเข้ารหัส ซึ่งฐานข้อมูลจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการเพิ่มธุรกรรมหรือบล็อกใหม่ และจะสร้างห่วงโซ่ข้อมูลที่ต่อเนื่องโดยการบันทึกข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณะและสามารถตรวจสอบได้ ฐานข้อมูลเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการเพิ่มธุรกรรมใหม่หรือ "บล็อก" เข้าไป ซึ่งเป็นการสร้างห่วงโซ่ข้อมูลที่ต่อเนื่อง ด้วยการบันทึกที่เปิดเผยต่อสาธารณะและตรวจสอบได้ และเนื่องจากไม่มีที่ตั้งศูนย์กลาง จึงยากต่อกการแฮ็กข้อมูล เนื่องจากข้อมูลมีอยู่ในสถานที่ต่างๆ นับล้านแห่งนั่นเอง

เทคโนโลยีของ Blockchain คือ ? 

เทคโนโลยีใน Blockchain คือ เทคโนโลยีหลายอย่างที่รวมกันเพื่อสร้างเป็นบล็อกเชนโดยมีจุดเด่นอย่างการเข้าถึงด้วยรหัสส่วนตัว เครือข่ายการแจกจ่ายที่มีบัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกัน และเครือข่ายการแจกจ่ายที่มีบัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนกลายระบบที่สามารถกระจายอำนาจ ปลอดภัย และโปร่งใส และไม่เปลี่ยนรูป 

1. บัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (Decentralisation)

จากรูปแบบการชำระเงินแบบเดิมที่ดำเนินการจากศูนย์กลาง เช่น ธนาคารจะเก็บเงินฝากของคุณไว้ในบัญชีไว้ โดยหากคุณต้องการการโอนเงินก็ต้องทำธุรกรรมผ่านธนาคาร ซึ่งมีจุดอ่อนหลายอย่าง เช่น

1. การเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในส่วนกลาง (เช่นกับธนาคาร) ซึ่งจะทำให้เป็นเป้าหมายในการโจมตีของแฮกเกอร์ได้ง่าย
2. หากหน่วยส่วนกลางถูกปิดหรือเสียหายก็จะไม่มีใครเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ได้เลย

กล่าวได้ว่าข้อมูลในระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย ที่สร้างขึ้นโดย Blockchain นั้นจะไม่ถูกจัดเก็บโดยหน่วยงานเดียว และใครๆ ก็สามารถใช้ข้อมูลและเข้าถึงประวัติการทำธุรกรรมต่างๆได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปแก้ไขอะไรได้นี้จึงเป็นคุณสมบัติหลักที่สำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชน

2. ความปลอดภัยสูง

ข้อมูลใน Blockchain จะไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก เนื่องจากเทคโนโลยี Blockchain คือ มีเทคโนโลยีที่ใช้การเข้ารหัสแบบ Cryptographic Hash หรือเรียกสั้นๆ ว่า "Hash"

โดยในบริบทของการชำระเงินใน Blockchain การทำธุรกรรมจะถูกนำมาใช้เป็นอินพุตและรันผ่านอัลกอริทึมแฮชที่ให้เอาต์พุตที่มีความยาวและขนาดที่คงที่ และหมายความว่าแต่ละแฮชสามารถระบุการคำนวณจำนวนมากหรือช่วงของข้อมูลได้

3. โปร่งใสและตรวจสอบได้

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของ Blockchain คือ ความโปร่งใสและการให้ความเป็นส่วนตัวในระดับสูง จากการที่ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกซ่อนอยู่หลังการเข้ารหัสที่ซับซ้อน แต่ในการเข้าถึงจะต้องเข้าถึงได้จากแอดเดรสแบบสาธารณะเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลของผู้ใช้จะเป็นความลับ แต่เรายังสามารถดูธุรกรรมทั้งหมดที่ดำเนินการได้โดยใช้แอดเดรสแบบสาธารณะได้ ความโปร่งใสระดับนี้ไม่มีอยู่ในระบบการเงินปัจจุบัน นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ Blockchain เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงโลกทางการเงิน

ความสำคัญของ Blockchain ในโลกการเงิน 

หากคุณต้องการโอนเงินผ่านทาง Blockchain การทำธุรกรรมนี้จะแสดงตามแหล่งเก็บข้อมูลต่าง ๆ หรือเป็นบล็อกออนไลน์ของ Blockchain ซึ่งจะกระจายผ่านเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งเป็นเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer) แบบพิเศษที่มีการแชร์ภาระงานระหว่างผู้เข้าร่วมใช้งานและไม่ได้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง ณ ที่ใดที่หนึ่ง

เมื่อเครือข่าย Blockchain ตรวจสอบแล้วว่าธุรกรรมนั้นถูกต้อง ก็จะมีการเพิ่ม "บล็อก" (Block) เข้าไปในแหล่งเก็บข้อมูลต่างๆ และเข้าไปในเครือข่าย และสร้างการบันทึกข้อมูลที่ถาวรได้ ดังนั้นการบันทึกการครอบครองเงินของคุณสามารถส่งไปถึงผู้รับได้ด้วยโดยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านศูนย์กลาง (อย่างธนาคาร) จึงมีความโปร่งใสและให้ความเป็นส่วนตัวในการดำเนินการอย่างมาก 

การใช้ Blockchain กับการเทรดคริปโต

การใช้เทคโนโลยี Blockchain ในโลกแห่งความจริง คือ การทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลหรือที่เรานิยมเรียกกันว่าคริปโต เช่น Bitcoin และ Ethereum โดยการดำเนินการในคริปโตนี้จะใช้เทคโนโลยีที่อนุญาตให้มีการเผยแพร่ข้อมูลดิจิทัลและไม่มีการคัดลอก ซึ่งข้อมูลแต่ละชิ้นจะสามารถมีเจ้าของได้เพียงรายเดียว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเมื่อใช้ในการชำระเงิน จนเป็นจุดเริ่มต้นของบัญชีแยกประเภทดิจิทัล

ทั้งนี้ การซื้อขาย CFD คริปโตจะช่วยให้คุณสามารถคาดเดาทิศทางราคาของสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขาย CFD คริปโตใน Bitcoin, Ethereum และเหรียญอื่นๆ กับAdmirals ได้ในบัญชีเดียว และหากต้องการศึกษาข้อมูลของ CFD คริปโต และเริ่มเทรดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หรือรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

Bitcoin กับ Blockchain 

Bitcoin นำเสนอต่อสาธารณะในปี 2008 และคือสิ่งที่ทำให้เกิด Blockchain ภายใต้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto เนื่องจากบล็อกเชนของบิทคอยน์มีการกระจายบัญชีกันไป ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินดั้งเดิมที่ออกโดยธนาคารกลางจึงไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานส่วนกลางใด

Blockchain จะมีการดูแลโดยเครือข่ายนักขุด (Miner) ซึ่งเป็นชื่อเรียกอาสาสมัครที่ทำหน้าที่ถอดรหัสและคอยตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม โดยเป็นผู้ลงทุนในการซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการถอดรหัส คนเหล่านี้เรียกว่า "โหนด" (Node) ในเครือข่าย โหนดเหล่านี้เป็นคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกรรมได้

กล่าวได้ว่า หากคุณต้องการทำธุรกรรม Bitcoin ธุรกรรมนี้จะมาจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณเอง ซึ่งจะมีรหัสส่วนตัวหรือคีย์ซึ่งเป็นลายเซ็นดิจิทัลของคุณเอง และจะแสดงหลักฐานทางคณิตศาสตร์ว่าธุรกรรมนั้นมาจากกระเป๋าเงินของคุณ

และหากมีคนทำธุรกรรมมากขึ้นธุรกรรมเหล่านี้ก็จะถูกจัดกลุ่มเข้าด้วยกันเป็นบล็อกซึ่งจะถูกจัดระเบียบตามกฎการเข้ารหัสที่เข้มงวดของ Blockchain และบล็อกนี้ก็จะถูกส่งออกไปยังเครือข่าย Bitcoin โดยหลังจากตรวจสอบความถูกต้องแล้วก็จะถูกเพิ่มลงในบล็อกก่อนหน้า ซึ่งจะเป็นการสร้างบล็อกเชน

การทำธุรกรรมนี่อาจฟังดูเป็นวิธีที่ยาวและซับซ้อน แต่สิ่งสำคัญ คือ ธุรกรรมเหล่านี้มีความโปร่งใสและแสดงอยู่ในบัญชีแยกประเภทของ Bitcoin (ซึ่งสามารถค้นหาโดยใช้ Bitcoin explorer) นอกจากนี้ ยังต้องใช้หลายฝ่ายในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม และแม้จะมีส่วนใดส่วนหนึ่งของเครือข่ายล่ม เครือข่ายนี้ก็ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้

Ethereum กับ Blockchain

หลังจากการโฆษณาและความสำเร็จของ Bitcoin บริษัทต่างๆ ก็ได้สร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่เป็นมิตรต่อการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเหรียญดิจิทัลที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Bitcoin คือ Ethereum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Blockchain ที่เชี่ยวชาญในสัญญาอัจฉริยะและมีเหรียญดิจิทัลในชื่อ "Ether"

ระบบ Blockchain ของ Ethereum ก็จะคล้ายๆ กับ Bitcoin คือเป็นแบบสาธารณะและอนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาใช้ระบบบัญชีแยกประเภทแบบกระจายบนแพลตฟอร์มของตนที่เชี่ยวชาญและนำมาใช้กับสมาร์ทคอนแทรค สัญญาเหล่านี้จะดำเนินการโดยอัตโนมัติเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ระบบอัตโนมัติระดับนี้ช่วยเร่งกระบวนการนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี

Blockchain wallet

Blockchain Wallet เปรียบเสมือน "กระเป๋าเงิน" เป็นซอฟต์แวร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อขายและตรวจสอบยอดคงเหลือสำหรับสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum แต่กระเป๋านี้ "ไม่ได้เป็นที่เก็บเงินคริปโตหรือเงินดิจิทัลใดๆ " แต่จะใช้เพื่อเก็บบันทึกธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน (ทั้งรหัสคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัวของเราเอง) และจัดเก็บไว้ในบล็อกเชน

นอกจากนี้ ยังมีกระเป๋าเงินบล็อคเชนอื่นๆ ซึ่งเป็นอุปกรณ์กระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์ เช่น ปากกา USB ที่เก็บคีย์ส่วนตัวสำหรับผู้ใช้ นอกจากนี้ ยังมีกระเป๋าซอฟต์แวร์ เช่น เดสก์ท็อป แอปพลิเคชันออนไลน์และมือถือที่เก็บคีย์ส่วนตัวสำหรับทำธุรกรรม

หุ้น Blockchain

กล่าวได้ว่าเทคโนโลยี Blockchain เอง นั้นสามารถรองรับใช้งานและการบริการในธุรกิจขนาดใหญ่ได้ จึงทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนา อย่างไรก็ตาม มีหุ้น Blockchain ที่โดดเด่นกว่าหุ้นอื่นๆ 

การต้องการตรวจสอบรายการของนักลงทุนที่สนใจหุ้น Blockchain คุณสามารถตรวจสอบจาก Riot Blockchain ซึ่งเป็นหุ้นเพนนี (Penny Stock) หรือ หุ้นของบริษัทขนาดเล็กที่ซื้อขายกันโดยทั่วไปในราคาไม่กี่ดอลลาร์ต่อหุ้น และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ในระดับตํ่า (Low Market Capitalization) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ หุ้นราคาถูกของบริษัทขนาดเล็ก หรือเมืองไทยเรียกว่า "หุ้นต่ำบาท" นั่นเองซึ่งหุ่นนี้ของบริษัท Riot Blockchain เดิมราคาอยู่แค่ 8 เหรียญต่อหุ้นเท่านั้น และกลับมาสูงขึ้นเป็น 40 เหรียญต่อหุ้นในปี 2017 เมื่อบริษัทเปลี่ยนชื่อจาก Bioptix Inc. เป็น Riot

ส่วนการเริ่มต้นในหุ้น blockchain ก็มาจากการที่บริษัทเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในการวินิจฉัยสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ หลังจากเปลี่ยนชื่อและรีแบรนด์ตัวเองเพื่อมุ่งเน้นไปที่การซื้อธุรกิจ cryptocurrency และ หุ้น blockchain ก็พุ่งขึ้นตามความสนใจของนักลงทุน ต่อมาบริษัทถูกสำนักงาน ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ตรวจสอบ

ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีว่าทำไมนักลงทุนต้องรีเสิร์ชข้อมูลบริษัทก่อนที่จะซื้อหุ้นตามแนวโน้มในเทคโนโลยีบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม ก็มีบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่ลงทุนหลายพันล้านในเทคโนโลยีที่นักลงทุนควรรู้

หุ้น Blockchain ที่คุณต้องรู้!

จากรายงานของ World Economic Forum สถิติประมาณ 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะถูกจัดเก็บในบล็อกเชนภายในปี 2027 ทำให้บริษัทชั้นนำที่ให้บริการบล็อกเชนจะอยู่ในรายชื่อที่นักลงทุนควรจับตามอง เนื่องจากหุ้นตัวเล็กนั้นมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง หากเน้นระยะยาวอาจเลือกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่กำลังเบนเข็มมาทำธุรกิจด้าน Blockchain โดยอาจรอจังหวะที่ตลาดหุ้นโดนเทขาย ซึ่งมีบริษัทที่น่าสนใจ ดังนี้

หุ้น Blockchain - หุ้น IBM

IBM เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน จากการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้มากกว่า 1,500 คน นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในโครงการบล็อกเชนมากกว่า 500 โครงการ หนึ่งในโครงการเหล่านี้คือแพลตฟอร์ม IBM Food Trust ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับ Walmart ในปี 2018 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการปรับปรุงกระบวนการด้านความปลอดภัยของอาหารผ่านบล็อกเชนด้านอุปทานแบบบูรณาการ

จากข้อมูลของ Forbes บริษัท IBM เป็น "บริษัทที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในกลุ่มบล็อกเชน" หนึ่งในเหตุผลนี้คือบริษัทช่วยพัฒนา Hyperledger Fabric ซึ่งเป็นแกนหลักของบล็อกเชนใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้นและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น Hyperledger Fabric ถือเป็นมาตรฐานทองคำสำหรับโครงการบล็อกเชนในองค์กรขนาดใหญ่

โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาหุ้น IBM ได้รับผลกระทบเนื่องจากขาดนวัตกรรมของคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Apple แต่ IBM ก็ยังเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา blockchain อย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนจะมองหาสัญญาณที่จะช่วยสร้างกำไรของบริษัทและส่งสัญญาณถึงการพลิกผันของราคาหุ้น IBM

ที่มา: Admirals MetaTrader 4, กราฟราคาหุ้น IBM รายเดือน - วันที่: 1 มิถุนายน 2008 ถึง 4 ธันวาคม 2019 เข้าใช้งานวันที่ 4 ธันวาคม 2019 เวลา 15:31 น. GMT. หมายเหตุ: ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

จากกราฟระยะยาวรายเดือนของราคาหุ้น IBM ด้านบน เห็นได้ชัดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มขาลงตั้งแต่กลางปี ​​2013 ถึงสิ้นปี 2018 ตอนนี้นักลงทุนสนใจที่จะดูว่าราคาหุ้น IBM จะ สามารถสร้างโมเมนตัมที่สูงขึ้นตลอดปี 2019 ได้หรือไม่ และเมื่อเข้าสู่ปี 2020 แม้ว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะยังใหม่ แต่ก็ช่วยให้อยู่แถวหน้าและเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาได้

การลงทุนใน Blockchain นั้น แม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพเองก็นิยมเข้าไปฝึกฝนในระบบบัญชีทดลองเทรดหรือที่เรียกว่า "Demo Account" อยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นระบบที่จำลองเงินขึ้นมาเพื่อใช้เทรด

• สามารถเทรดได้เหมือนตลาดจริงทุกประการ
• สามารถใช้เครื่องมือเทรดและสัมผัสถึงสภาพแวดล้อมแบบบัญชีจริงทุกประการ
• คำนวณกำไรขาดทุนเหมือนเงินจริงทุกประการ และคำนวณตามราคาตลาดจริงๆ

และคุณก็สามารถฝึกเทรดได้เรื่อยๆ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงระบบเทรด Blockchain ขั้นสูง โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ ผ่าน MT5 ที่จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบประสบการณ์การเทรดของคุณเองได้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเปิดบัญชีเงินจำลองได้แล้ววันนี้ ฟรี!

หุ้น Blockchain - หุ้น Alibaba

Alibaba เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของจีน นอกจากนี้ยังมีการจดทะเบียนสิทธิบัตรสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนไปแล้วกว่า 90 ฉบับ โดยในเดือนพฤศจิกายน Ant Financial ซึ่งเป็นหน่วยงานด้าน fintech ของ Alibaba Group ได้เริ่มขั้นตอนการทดสอบเครือข่ายบล็อกเชนซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง

Alibaba Group ยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนเพื่อปรับใช้ blockchain ในการดูแลสุขภาพ รัฐบาลจีนได้ประกาศแล้วว่าจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีมาตรฐานโลก Alibaba ก็มีแนวโน้มที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้โดยไม่เพียงแต่สร้างไลบรารีสิทธิบัตรบล็อกเชนขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังใช้เทคโนโลยีนี้ในบริษัทย่อยด้านอีคอมเมิร์ซอย่าง Lynx และ T-Mall ทำให้พวกเขาได้เปรียบจริงและใช้งานได้จริง

ที่มา: Admirals MetaTrader 4, กราฟราคารายสัปดาห์ของ BABA - วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2016 ถึง 4 ธันวาคม 2019 เข้าใช้งานวันที่ 4 ธันวาคม 2019 เวลา 15:07 น. GMT. หมายเหตุ: ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

จากกราฟระยะยาวรายสัปดาห์ของราคาหุ้น Alibaba ข้างต้น เห็นได้ชัดว่าบริษัทมีการดำเนินงานที่ดี แม้ว่าจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม ความสำเร็จของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้การสนับสนุนอย่างมากแก่นักลงทุนที่ยังคงระแวดระวังศักยภาพของ blockchain และจากความสำเร็จในทั้ง 2 ด้านนี้ อาจเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีของราคาหุ้น Alibaba ต่อไป

หุ้น Blockchain - หุ้น Mastercard

Mastercard เป็นบริษัทเป็นอันดับ 3 ในบรรดาผู้คิดค้นนวัตกรรมบล็อกเชนชั้นนำของโลกที่มีสิทธิบัตร blockchain ที่รอการอนุมัติมากกว่า 100 รายการ ความก้าวหน้าของ Mastercard ในเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นสิ่งที่น่าสนใจเนื่องจากเทคโนโลยีนี้มุ่งเน้นไปที่การไม่ต้องผ่านส่วนกลาง

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อลดต้นทุนการทำธุรกรรมและเพิ่มการป้องกันการฉ้อโกง ด้วยความสูญเสียจากการฉ้อโกงกว่า 21,000 ล้านดอลลาร์ที่เกิดขึ้นโดยธนาคารในปี 2015 ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในการใช้เทคโนโลยีที่นอกเหนือจากการที่ไม่สามารถดัดแปลงข้อมูลได้แล้ว ยังช่วยให้เกิดความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน

วิธีที่ Mastercard ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นสัญญาณของบริษัทที่มีความคิดก้าวหน้าและมีนวัตกรรมที่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนจะต้องให้ความสนใจ

ที่มา: Admirals MetaTrader 5, กราฟราคารายเดือนของ MA - วันที่: 1 พฤษภาคม 2006 ถึง 4 ธันวาคม 2019 เข้าใช้งานวันที่ 4 ธันวาคม 2019 เวลา 17:07 น. GMT หมายเหตุ: ระสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

จากกราฟราคาระยะยาวของราคาหุ้น Mastercard แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ดีมากด้วยราคาหุ้นที่ซื้อขายในระดับสูงมาตั้งแต่ปี 2006 วิธีการที่บริษัทปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่นี้อาจสร้างความตื่นตัวทางธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลที่ดีต่อแนวโน้มขาขึ้น

อยากลงทุนในหุ้น Blockchain ทำอย่างไร ?

การซื้อและขายหุ้นในหุ้น blockchain อย่าง IBM, Alibaba และ Mastercard สามารถทำได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. เปิดบัญชีซื้อขาย
2. ดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้น
3. เปิดตั๋วซื้อขายและทำการซื้อขายได้เลย!

วิธีเปิดบัญชี Invest.MT5 และดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขาย

หากต้องการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น เพียงไปที่หน้าแรกของAdmirals และคลิกที่ปุ่มสีเขียวที่มีข้อความว่า "ลงทะเบียน"

สมัครบัญชีเทรดจริงหรือบัญชีทดลองเทรด เพียงกรอกรายละเอียดที่จำเป็น เช่น ชื่อ อีเมล และรหัสผ่านของคุณ

หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึง Dashboard ได้ทันที! เพื่อเปิดบัญชีจริงหรือบัญชีทดลองเทรดได้ตามต้องการ

หลังจากคลิกปุ่มสีเขียวที่มีข้อความว่า "เปิดบัญชีจริง" คุณสามารถเลือกบัญชีที่คุณต้องการเปิดได้ สำหรับการลงทุนในหุ้น เลือก Invest.MT5

จากที่นี่ คุณสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น Invest.MT5 หลังจากกรอกใบสมัคร อัปโหลดเอกสารที่จำเป็น และผ่านกระบวนการตรวจสอบ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นและใบสมัครของคุณได้รับการอนุมัติ คุณก็พร้อมที่จะดาวน์โหลดแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้น MT5 

วิธีดาวน์โหลดแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้น MetaTrader 5 

จากหน้าแรกของ Dashboard จากนั้นเลื่อนลงไปด้านล่างและเลือกลิงก์ดาวน์โหลด MetaT5 สำหรับ PC หรือ MetaTrader 5 สำหรับ Mac

ทำตามคำแนะนำในการติดตั้งเพื่อดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้น MetaTrader 5 ให้เสร็จสิ้น

ตัวอย่างของแพลตฟอร์มการซื้อขาย Admirals MetaTrader 5 ที่แสดงกราฟราคาของหุ้น Apple, MACD และ Stochastic, รายการสัญลักษณ์ที่แสดงภูมิภาคต่างๆ ของตลาดหุ้นที่มีและตั๋วเปิดคำสั่งซื้อขาย

Disclaimer: กราฟของตราสารทางการเงินในบทความนี้ มีไว้เพื่อจุดประสงค์ในการอธิบาย และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ที่จัดทำโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในอนาคต

วิธีการซื้อขายในแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นใน MetaTrader 5

เปิดแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้น MT5 และทำตามขั้นตอน ดังนี้

1. เปิดหน้าต่าง Market Watch โดยเลือกมุมมองจากเมนูที่ด้านบนของแพลตฟอร์มหรือกด Ctrl+M ซึ่งจะเป็นการเปิดรายการสัญลักษณ์ที่สามารถซื้อขายได้ทางด้านซ้ายของกราฟ
   
   
2. คลิกขวาที่หน้าต่าง Market Watch แล้วเลือก Symbols หรือกด Ctrl+U 
   
   
3. จากนั้นจะเปิดหน้าต่างที่แสดงด้านล่าง ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับตลาดทั้งหมดที่คุณสามารถซื้อขายได้ จากที่นี่ คุณสามารถเพิ่มหุ้นที่ต้องการลงในหน้าต่าง Market Watch ของคุณได้โดยเลือกหุ้นหรือประเทศที่เกี่ยวข้อง แล้วคลิก แสดงสัญลักษณ์

ตัวอย่าง หน้าต่าง Symbols ของแพลตฟอร์มการซื้อขาย Admirals MetaTrader 5 

Disclaimer: กราฟของตราสารทางการเงินในบทความนี้ มีไว้เพื่อจุดประสงค์ในการอธิบาย และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ที่จัดทำโดยAdmirals (CFDs, ETFs, Shares) ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในอนาคต

หลังจากคลิกปุ่มตกลงในหน้าต่าง Symbols คุณสามารถดูตราสารต่างๆ ในหน้าต่าง Market Watch ได้แล้ว หากต้องการดูกราฟราคาของราคาหุ้นของบริษัท เพียงคลิกซ้ายที่สัญลักษณ์หุ้นตัวใดตัวหนึ่งในหน้าต่าง Market Watch แล้วลากไปยังพื้นที่กราฟ จากที่นี่ คุณสามารถเปิดตั๋วซื้อขายได้แล้ว

1. คลิกขวาที่กราฟ
2. เลือก "Trading"
3. เลือก "New Order" หรือกด F9 
4. ในตั๋วซื้อขายคุณสามารถป้อนราคาเข้า stop loss และ ราคา take profit และขนาด (ปริมาณ) การซื้อขายหุ้นที่ต้องการ 

ตั๋วการซื้อขายของแพลตฟอร์มการซื้อขาย Admirals MetaTrader 5

Disclaimer: กราฟของตราสารทางการเงินในบทความนี้ มีไว้เพื่อจุดประสงค์ในการอธิบาย และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ที่จัดทำโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในอนาคต

สามารถศึกษาการใช้งาน MetaTrader 5 เพิ่มเติม ได้จากวิดีโอด้านล่างนี้

ทำไมต้องเทรด Forex กับ Admirals?

• เทรดกับบริษัทที่มีชื่อเสียงและดำเนินการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลอย่างสูง รวมถึงกฎระเบียบจาก FCA จากสหราชอาณาจักร, ASIC จากออสเตรเลีย, CySEC จากไซปรัส และ EFSA จากเอสโตเนีย
  
  
• ซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำที่สุดและโปร่งใสในตลาด
  เข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรดที่รวดเร็วและปลอดภัยที่สุดจาก MetaTrader สำหรับ PC, Mac, Android และ iOS
  
  
• เปิดบัญชี Invest.MT5 ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง €1 และลงทุนเริ่มต้นเพียง $0.01 ต่อหุ้น และมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมขั้นต่ำเพียง $1 สำหรับหุ้นสหรัฐฯ

ทั้งนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ได้ฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างพอร์ตหุ้นที่จ่ายเงินปันผล เพื่อสร้างกระแสรายได้แบบพาสซีฟได้ในบัญชีเดียว รายละเอียดเพิ่มเติมหรือเปิดบัญชีคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน