Ripple คืออะไร และเหรียญ XRP คืออะไร : น่าลงทุนไหม?

Admirals
15 นาที

คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ Cryptocurrency มาบ้าง เช่น Bitcoin, Ethereum หรือ Polkadot แต่สกุลเงินดิจิทัลที่ยังติด 10 อันดับแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดมาตลอดหลายปีที่อาจโดนมองข้าม คือ Ripple โดยมูลค่าของ Ripple ก่อร่างสร้างฐานมาจากการเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีระบบการชำระเงินที่รวดเร็ว

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Ripple ให้มากยิ่งขึ้น อธิบายประเด็นสำคัญ รวมถึงลักษณะการทํางานของสกุลเงิน Ripple ว่ามีความแตกต่างกับเหรียญอื่น ๆ หรือ 'พี่ใหญ่' อย่าง Bitcoin อย่างไรบ้าง รวมถึงช่องทางการลงทุนในเหรียญ XRP อีกด้วย

เหรียญ XRP คืออะไร?

เหรียญ XRP คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้ในเครือข่ายการชำระเงินของ Ripple โดยเหรียญ XRP มีมูลค่าตลาดสูงสุดติด 10 อันดับแรกของ Cryptocurrency มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเคยเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในช่วงปี 2015 - 2016 เป็นรองแค่เพียง Bitcoin เท่านั้น

ด้วยความนิยมของ XRP ทำให้มันสามารถซื้อขายผ่านเหรียญ Stablecoin ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น USDT, USDC, BUSD หรือซื้อขายกันได้โดยตรงผ่านเงินแบบ XRP/USD ด้วยเงิน Fiat ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เชื่อมกับระบบการเงินโดยทั่วไป

Ripple คืออะไร?

Ripple คือเครือข่ายการชำระเงินที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการจัดเก็บข้อมูล โดย Ripple เป็นทั้งชื่อของบริษัท และเป็นชื่อที่ใช้เรียกเครือข่ายที่ Ripple พัฒนาขึ้นมา โดย Ripple บริษัทร่วมทุนจากซานฟรานซิสโก ได้ออกแบบระบบการชำระเงินที่ใช้ Blockchain เป็นฐานในการจัดเก็บข้อมูล โดยมี Token เป็นเหรียญ XRP เป็นสื่อกลางในเครือข่ายการชำระเงินของ Ripple ในทางเทคนิคเราอาจพูดว่า Ripple เป็น Payment Protocol แบบหนึ่ง

เครือข่าย Ripple คือ เครือข่ายการชำระเงินของตัวเองที่สามารถใช้งานร่วมกับสกุลเงิน Fiat, ซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงแลกเปลี่ยนเป็น Cryptocurrency อื่น ๆ ได้ และด้วยคุณสมบัติพื้นฐานดังกล่าว ทำให้มันถูกวางเป็นเครือข่ายการชำระเงินข้ามประเทศที่หลาย ๆ ธนาคารจับตามองเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

เหตุผลที่ทำให้ Ripple ได้รับความสนใจมากในตอนเปิดตัว เพราะเครือข่ายของมันเปิดให้สถาบันการเงินอื่น ๆ สามารถเชื่อมเครือข่ายกับ Ripple เข้ากับระบบการโอนเงินของตัวเองได้ โดยเจ้าแรก ๆ ที่พยายามทดลองทำ คือ ธนาคารแห่งชาติของอาบูดาบี (NBAD) ลูกค้าสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้แบบเรียลไทม์ และต้นทุนในการทำธุรกรรมนั้นต่ำมาก

Ripple เคยมีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 2 แต่ปัจจุบัน มีคู่แข่งที่พัฒนาและได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถใช้เป็นฐานในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น (DApps) ได้เหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ Ripple และเหรียญ XRP ยังเป็นสื่อกลางในการโอนถ่ายมูลค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มูลค่าตลาดของ Ripple ยังคงติดอยู่ใน 10 อันดันแรกของ Cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ใครเป็นผู้คิดค้น Ripple?

Ripple ก่อตั้งโดย Ryan Fugger ซึ่งไม่ใช่การก่อตั้งเป็น Ripple ขึ้นมาและมีเหรียญ XRP ที่ใช้งานได้ทันที แต่มีพัฒนาการมาก่อนหน้านั้น โดยเริ่มจากการที่ Ryan Fugger พยายามสร้างระบบการชำระเงินชื่อว่า RipplePay ขึ้นมาในปี 2004 แน่นอนว่า ในตอนนั้นเป้าหมายคือการอยากเป็นคู่แข่งของ PayPal ให้ได้

แต่การพัฒนาของวงการ Blockchain และจุดเริ่มต้นของ Bitcoin ในปี 2009 กระตุ้นให้ Ryan Fugger ออกแบบระบบขึ้นมาในใหม่ในปี 2011 และสำเร็จเป็นบริษัท OpenCoin ในปี 2012 หลังจากนั้นไม่นานก็รวมองค์ความรู้เป็น Ripple Transaction Protocol (RTXP) ซึ่งเข้าแก้ปัญหาของระบบการโอนเงินของธนาคารได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั้นทำให้ตลาดของ Ripple มุ่งจับมือกับธนาคารดั้งเดิมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

Ripple มีใครสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่?

รายงานอย่างเป็นทางการของ Ripple ระบุว่า การดำเนินการของ Ripple และการหมุนเวียนของเหรียญ XRP ในระบบถูกดำเนินการโดยไม่ขึ้นตรงกับธนาคารกลางใด ๆ ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับเครือข่ายอื่น ๆ อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum ที่อยู่ขั้วตรงกันข้ามกับสกุลเงิน Fiat อย่างเช่น USD, EUR ที่มีธนาคารกลางแห่งชาติในการดูแลสภาพคล่อง ปริมาณเงินในระบบ รวมถึงผลตอบแทนของผู้ถือครองสกุลเงินดังกล่าว

เครือข่าย Ripple ได้กำหนดปริมาณเหรียญ XRP หรืออุปทานสูงสุดไว้ที่ 1 แสนล้านเหรียญ XRP (100 billion XRP) อย่างไรก็ตาม เหรียญ XRP ไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลใด แต่ปัญหาของเหรียญ XRP ก็คือการที่บริษัท Ripple เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดบทบาทและความเป็นไปของเครือข่าย Ripple นั่นเอง ซึ่งจุดนี้แตกต่างกับ Bitcoin ที่มีกระจายอำนาจ

ความแตกต่างระหว่าง Ripple กับ Bitcoin?

Ripple และเหรียญ XRP ในช่วงปี 2015 - 2017 นับว่าเป็น Cryptocurrency ที่เป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Bitcoin ความรวดเร็วในการทำธุรกรรมเป็นเพราะระบบการยืนยันธุรกรรมที่แตกต่างจาก Bitcoin เนื่องจากไม่ได้รอให้ผู้มีส่วนร่วมในเครือข่ายต้องจดบันทึกร่วมกันแบบในระบบ Proof of work (PoW) ของ Bitcoin

ทำให้ไม่ต้องรอการยืนยันบล็อก (Block Confirmation) ระยะเวลาในการยืนยันเพื่อรับส่งมูลค่าระหว่าง Ripple กับ Bitcoin แตกต่างกันมาก! โดยข้อมูลจาก YChart แสดงค่าเฉลี่ยของการยืนยันธุรกรรมของ Bitcoin อยู่ราว ๆ 20-30 นาที และเคยขึ้นไปหลักหลายพันนาทีในช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่นเมื่อกลางปี 2021

ในระยะแรก ๆ ทางฝั่ง Ripple ทำผลงานได้หลักวินาที โดยตัวเลข 3.7 วินาที ถูกอ้างอิงบ่อยครั้งในช่วงปี 2015 - 2016 อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงอาจอยู่ราว 2 - 10 นาที ได้เช่นกัน แต่ก็นับว่า เป็นตัวเลขการยืนยันธุรกรรมการส่งเงินข้ามประเทศที่เร็วกว่าโลกยุคเก่ามากแล้ว เพราะการโอนเงินปกติผ่านธนาคาร หรือ Swift Code อาจกินเวลาได้ถึง 1 - 4 วันทำการ

ในเบื้องต้น เราอาจสรุปประเด็นพื้นฐานให้เข้าใจง่าย ๆ ระหว่างความแตกต่างของ Ripple และ Bitcoin ได้ดังนี้

  • Ripple มีระยะเวลาในการ "Settle" การประมวลผลการชำระเงินที่เร็วกว่า
  • Ripple ใช้กระบวนการฉันทามติแบบวนซ้ำ (Iterative Consensus) ในขณะที่ Bitcoin ใช้กระบวนการที่เรียกว่า 'การขุด' หรือ Mining
  • Ripple เป็นเครือข่ายการชำระเงินที่มีการรวมศูนย์อำนาจ โดยมีเหรียญ XRP ใช้ในการรับส่งมูลค่าในเครือข่าย ในขณะที่ Bitcoin ถือเป็น Cryptocurrency อย่างแท้จริง และเป็นระบบแบบกระจายอำนาจ หรือ "Decentralized"

ลักษณะการทํางานของสกุลเงิน Ripple

หากถามว่า Ripple ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือไม่? ก็ต้องตอบว่า "ใช่แน่นอน" โดย Blockchain เป็นรูปแบบหนึ่งของวิธีการเก็บข้อมูล แต่ Ripple ไม่ได้ใช้ proof-of-work (PoW) แบบใน Bitcoin หรือ proof-of-stake (PoS) แบบที่จะเกิดขึ้นใน Ethereum 2.0 แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า "XRP Ledger Consensus Protocol"

ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว เราอาจเรียก XRP Ledger Consensus Protocol ว่าเป็น "Private Blockchain" โดยจะมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่มีส่วนร่วมในการยืนยันธุรกรรม ซึ่งถูกจำกัดไว้สำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่มีสัมพันธ์กับทาง Ripple นี่เป็นเหตุผลเบื้องหลังที่ทำให้การยืนยันธุรกรรมของ Ripple นั้นรวดเร็วมาก เพราะไม่ต้องให้ทุกคนในเครือข่ายที่กระจายกันอยู่ทุกมุมโลกมาร่วมกันยืนยันธุรกรรม

และนั่นคือเหตุผลที่ Ripple วางบทบาทของตัวเองในฐานะของเครือข่ายการชำระบัญชีทั่วโลก (Global Settlement Network) อีกด้วย โดยภาพด้านล่างแสดงให้เห็นวงกรของเครือข่าย Ripple อย่างคร่าวว ๆ ว่า เงินจะวิ่งจากไหนไปไหน

ที่มารูปภาพจาก : CryptoWiki

จะเห็นว่า Ripple จะกลายมาเป็นตัวกลางในการยืนยันธุรกรรมการชำระเงิน ซึ่งธนาคารจะได้ประโยชน์จากการใช้องค์ความรู้ของ Ripple เพื่อลดต้นทุนในการเข้าถึงเทคโนโลยี Blockchain และหากทำสำเร็จก็ หมายถึง ประโยชน์ของโลกการเงินทั้งหมดจะตกอยู่ในมือของ Ripple เช่นกัน ทั้งนี้ มีการวางโครงสร้างของลักษณะการทํางานของสกุลเงิน Ripple ใน 4 ประเด็นสำคัญ

  1. การกระจาย - Distribution: ธนาคารสามารถซื้อขายกันได้โดยตรงโดยไม่มีการติดต่อจากคนกลาง
  2. ความปลอดภัย - Security: ธุรกรรมได้รับการปกป้องความเป็นส่วนตัว
  3. ความสามารถในการขยาย - Scalability: Ripple รองรับธุรกรรมขนาดใหญ่ และเปิดโอกาสในบริษัทเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้งานในเครือข่ายได้
  4. ความสามารถในการทำงานร่วมกันได้ - ปัญหาพื้นฐานของ Blockchain คือไม่สามารถติดต่อกับเครือข่ายอื่นได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ทาง Ripple สามารถสื่อสารกับเครือข่าย Blockchain อื่นได้โดยไม่ติดขัดปัญหามากเกินไป

กล่าวโดยทั่วไป เครือข่าย Ripple ช่วยให้การยืนยันธุรกรรมการชำระเงินสำเร็จได้เร็วขึ้น "เกือบจะในทันที" แม้ในทางปฏิบัติอาจล่าช้าไปบ้าง แต่ก็นับว่ารวดเร็วกว่าการโอนเงินแบบดั้งเดิมมาก ซ้ำยังมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ถูกกว่า คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้โดยตรง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Ripple จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากฝั่งของธนาคารที่อยากอาศัยความเชี่ยวชาญของ Ripple ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Blockchain และเพื่อรักษาธุรกิจของตัวเองให้อยู่รอด

จะเริ่มต้นเทรดเหรียญ XRP ได้อย่างไร?

ทำไมนักลงทุนจึงนิยมเทรดหรือซื้อขายเหรียญ XRP เหตุผลสำคัญ คือ ยังมีนักลงทุนจำนวนมากที่เชื่อมั่นในความ Centralized หรือการมีองค์กรที่ควบคุมอำนาจจะทำให้การพัฒนาการต่าง ๆ สามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างรวดเร็ว และอีกอย่าง คือ เหรียญ XRP ของ Ripple ก็ไม่สามารถ "ขุด" รับผลตอบแทนจากการเป็นคนยืนยันธุรกรรมหรือที่เรียกว่า Mining ได้ ช่องทางการลงทุนจึงเหลือเพียงการสะสมเหรียญ

แต่เนื่องจากความเคลื่อนไหวของ Ripple ที่มุ่งพัฒนา "สิ่งที่เป็นอันตราย" ต่อระบบการเงินและการธนาคาร ทำให้หลายฝ่ายกังวลเรื่ององค์กรกำกับดูแลที่อาจทำให้ Ripple ไม่สามารถพัฒนาต่อไป นักลงทุนจึงนิยมเทรดผ่าน CFD เนื่องจากมักมีข่าวด้านลบของ XRP ออกมาให้เห็นเสมอ ทำให้สามารถเล่นฝั่ง Sell เมื่อมีจังหวะได้ โดยเฉพาะจังหวะที่มีข่าวที่เกี่ยวกับความเสี่ยงจากการที่ Ripple รวมศูนย์อำนาจไว้

XRPUSD, Weekly - Disclaimer: กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

เมื่อเรามาลองพิจารณากราฟราคาเหรียญ XRP ด้านบน จะเห็นว่าเหรียญ XRP ก็จะวิ่งเหมือน Cryptocurrency อื่น ๆ แต่จะอ่อนไหวมากกว่า และโดนแรงเทขายก็มักจะหนักหน่วงกว่า เนื่องจากความไม่มั่นใจใน Ripple อย่างที่อธิบายไป และเป็นเหตุผลที่นักลงทุนนิยมเทรด Sell ในเหรียญ XRP ด้วยโบรกเกอร์ที่อนุญาตให้เทรดฝั่ง Sell ได้ ถ้าเปิดกราฟ Bitcoin จะเห็นว่า ได้มีการทำ New High ณ เดือนมกราคม 2021 แต่ทางด้านของ XRP กลับทำผลงานได้ราว ๆ 60% จากยอดของปี 2017 ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1.8 USD ในเดือนมกราคม 2021

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนที่เชื่อมั่นใน Ripple และด้วยธรรมชาติของความเป็น Centralized ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และเงินทุนที่ระดมทุนได้มหาศาลมาตลอดหลายปี เหรียญ XRP ก็ยังเป็นหนึ่งในเหรียญที่ได้รับความนิยม และยังคงติดอันดับ Top 10 มาอยู่เสมอ

เปิดบัญชีเทรดเหรียญ XRP

หากคุณต้องการเลือกโบรกเกอร์ที่สามารถเล่นได้ทั้ง Buy และ Sell และเป็นโบรกเกอร์ระดับสากลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรการเงินสากล เราขอเสนอ! เปิดบัญชีเทรดกับ Admirals เพราะมีบริการแพลตฟอร์มการเทรดอันดับ 1 ที่สามารถเข้าถึงตราสารทางการเงินที่หลากหลายจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ที่สำคัญคือ FREE!

เทรดเดอร์สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่ทรงพลังของ MetaTrader 5 อัปเดตข้อมูลตลาดและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ และลูกเล่นอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณ ลองดูหน้าตาของแพลตฟอร์ม MT5 ด้านล่างที่คุณสามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรี ๆ

  • 1] มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟราคาให้ใช้ได้อย่างหลากหลาย ทั้ง Trendline, Fibo หรือขีดเขียนสัญลักษณ์หรือกล่องต่าง ๆ เพื่อใช้ในการสอนก็ได้
  • 2] เลือกดู Timeframe ของกราฟได้ได้ละเอียดตั้งแต่รายเดือนลงมาจนถึงระดับ 1 นาที
  • 3] มี Cryptocurrency อื่น ๆ ให้เลือกหรือทดลองเทรดมากมาย รวมถึงหุ้น, ค่าเงิน, น้ำมัน ฯลฯ
  • 4] เข้าถึงกราฟราคาแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องเสียเงินซื้อข้อมูลแพง ๆ อีกต่อไป
  • 5] ตัวอย่าง Indicator ที่มีให้เลือกใช้ครบทุกประเภท ทั้งแบบ Trend Following หรือ Oscillator

เทรดเดอร์มืออาชีพที่เลือกเทรดกับ Admirals จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า พวกเขาสามารถเทรดในตลาดโดยปราศจากความเสี่ยงใด ๆ ได้จากระบบบัญชีทดลอง หรือที่เรียกว่า "Demo Account" เพราะในทางปฏิบัติจริง ๆ คุณควรจะต้องมีการทดสอบสัญญาณการซื้อขายของคุณว่า ใช้งานได้จริงๆ หรือไม่

คุณสามารถทดลองกลยุทธิ์ใหม่ๆ เทรดได้เหมือนตลาดจริงทุกประการ บนสภาพแวดล้อมจริงทุกประการ คำนวณเงินและราคาได้ตามตลาดจริง เพียงแต่เป็นการเทรดด้วยเงินที่จำลองขึ้นมาเท่านั้นเอง คุณสามารถฝึดเทรดได้เรื่อยๆ โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ Demo Account คือบัญชีที่คุณจะได้ออกแบบประสบการณ์การเทรดได้ด้วยตัวของคุณเอง!

ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดคือการทดสอบในบัญชี Demo Account คุณสามารถทดลองกลยุทธิ์การเทรด Crypto, Forex หรือทำ Backtest ได้ทุกประเภทโดยไม่มีความเสี่ยงใด ๆ เลย เนื่องจากไม่ต้องใส่เงินจริง ๆ เข้าไป ก็ทดลองเล่นเงินจำลองที่เสกขึ้นมาได้!

ใช้งาน MetaTrader 5 และเปิดบัญชีทดลองฟรี!

  • เปิดบัญชี Demo ได้ฟรี และเปิดใหม่ได้เรื่อย ๆ หากบัญชีหมดอายุ
  • เทรดตลาด Commodity สำคัญ ๆ ได้ครบทุกตัว ทองคำ, น้ำมัน, แร่ธรรมชาติ ฯลฯ
  • ฝึกลงทุนแบบนักลงทุน VI ด้วยพันธบัตรและกองทุน ETF ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ARK, iShare, SPDR

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อการวิเคราะห์:

สื่อ, สารสนเทศที่ได้นำเสนอมีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์รายเดือนหรือรายสัปดาห์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals SC Ltd. ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้

  • นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใด ๆ ในการจัดการก่อนการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
  • การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง ซึ่ง Admirals SC Ltd.จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
  • ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าของเราและความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ Admirals SC Ltd ได้กำหนดกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • การวิเคราะห์จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ (นักวิเคราะห์) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้เขียน") เนื้อหาเป็นไปตามการประมาณการณ์ส่วนบุคคลของพวกเขา
  • ในขณะที่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือและมีการนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่เข้าใจได้ทันเวลา แม่นยำและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Admirals SC Ltd ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของ ข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์
  • ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหรือแบบจำลองใด ๆ ในอดีตของเครื่องมือทางการเงินที่ระบุไว้ในเนื้อหา ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยโดย Admirals SC Ltd สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในอนาคต มูลค่าของตราสารทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นและลดลง ไม่มีการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับความแตกต่าง; CFD) เป็นลักษณะของการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มการซื้อขายโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้
TOP ARTICLES
Litecoin คือ : รู้จักและเข้าใจก่อนเทรดเหรียญ LTC
Litecoin (ไลท์คอยน์) หรือที่ใครหลายคนเรียกว่าเหรียญ LTC ซึ่ง Lite Coin คือ หนึ่งในสกุลเงินดิจิตอลแรกๆ ที่เข้าสู่ตลาด โดยเปิดตั้ง ตั้งแต่การเริ่มต้นของเหรียญดิจิตอล (Cryptocurrency) ที่บางครั้งก็เป็นที่รู้จักในส่วนหนึ่งของ Decentralization (ระบบของ Blockchain ที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง)ในบทความนี้ นอกจากเ...
Solana คืออะไร : และเหรียญ Sol Coin น่าลงทุนหรือไม่?
เราจะสร้างเครือข่าย Blockchain ที่รวดเร็ว กระจายอำนาจ และปลอดภัยได้อย่างไร? Solana พยายามทำสิ่งนี้และรวบรวมทุกอย่างไว้ในเครือข่ายเดียวกัน และด้วย"กลไกฉันทามติ" ที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของ Solana ทำให้เครือข่าย Solana ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วSolana คืออะไร? จึงกลายเป็นคำถามที่ถูกผุดขึ้นมาตลอ...
เทรดคริปโต ทุกเรื่องที่ควรรู้สำหรับนักเทรดคริปโต
คุณรู้จักและเข้าใจในเรื่องเทรดคริปโตหรือสกุลเงินดิจิตอลมากแค่ไหน กล่าวได้ว่าการเทรดคริปโต (Cryptocurrency) หรือสกุลเงินดิจิตอลได้กลายเป็นจุดสนใจหลักของโลกการเงินอย่างมากในปัจจุบันในการเทรดคริปโตนั้นมีมาตรฐานไม่ต่างจากการเทรดตราสารอื่นๆ แต่ตลาดคริปโตก็เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง นักเทรดคริปโตจึงต้องรู...
ดูทั้งหมด