อินดิเคเตอร์ที่ดีและสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้

Admirals
10 นาที

อย่างที่รู้ ๆ กันว่าการเทรดในตลาด Forex นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีเทรดเดอร์มากมายที่สามารถทำกำไรจากการเทรด Forex ได้เรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าพวกเขารู้จักที่จะนำอินดิเคเตอร์ Forex เข้ามาช่วยใช้ในการเทรดนั่นเอง 'อินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีที่สุด' คำ ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าตลาด Forex นั้นไม่ได้เป็นไปตามทฤษฎีแบบสุ่ม (random walk) เหมือนอย่างที่นักทฤษฎีด้านเศรษฐกิจโต้แย้ง และความคิดที่ว่าตลาดการเงินนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลดูจะไม่ใช่ความคิดที่ถูกเสียทีเดียว

ตลาด Forex มักมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งภายใต้สถานการณ์หนึ่ง ๆ ซึ่งรูปแบบการเคลื่อนไหวนี้มักจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หมายความว่ารูปแบบราคานั้น ๆ จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกได้นั่นเอง อินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีจะพยายามจดจำรูปแบบราคาดังกล่าวและสามารถระบุรูปแบบราคาดังกล่าวได้ทันที ซึ่งความสามารถดังกล่าวนี้เองที่จะทำให้คุณถือไพ่เหนือคนอื่น ๆ อย่าลืมเลือกใช้โปรแกรมเทรดที่มีฟีเจอร์การใช้งานครบพร้อมอย่างเช่น MetaTrader 5 (MT5) เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดให้มากยิ่งขึ้น

อินดิเคเตอร์ Forex และ CFD ตัวไหนที่ดีที่สุด

อินดิเคเตอร์ Forex สำหรับการเทรดคู่สกุลเงินที่ดีที่สุดก็คือตัวที่เหมาะกับสไตล์การเทรดและกลยุทธ์การเทรดของคุณมากที่สุดนั่นเอง แต่ไม่มีอินดิเคเตอร์ Forex ตัวไหนเพียงตัวเดียวหรอกที่จะเหมาะกับการใช้เทรดได้ทุกสไตล์การเทรด ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือมีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคสำหรับการเทรด Forex ให้เลือกใช้อยู่มากมายหลายตัวเลยทีเดียว คุณจะสามารถหาอินดิเคเตอร์ที่เหมาะกับการเทรดของคุณมากที่สุดได้อย่างแน่นอน โดยอาศัยเวลาและประสบการณ์

อินดิเคเตอร์ Forex ที่เหมาะกับการใช้ตามเทรนด์ตลาด

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้าว่ามีอินดิเคเตอร์ Forex หลายตัวทีเดียวที่สามารถเข้าชิงเป็นอินดิเคเตอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และบางตัวก็ยังมีความซับซ้อนด้วย อย่างเช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคบน Forex ซึ่งใช้วัดหรือระบุ 'ราคาเปิด'(open price), 'ราคาสูงสุด' (high), 'ราคาต่ำสุด' (low), 'ราคาปิด' (closing price) และ 'ปริมาณ' (volume) จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงควรเริ่มจากการใช้อินดิเคเตอร์ Forex ที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนก่อน ลองมาทำความรู้จักอินดิเคเตอร์ Forex ประเภทต่าง ๆ บางประเภทกันสักนิด

Simple Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย)

Simple Moving Average (SMA) คือราคาเฉลี่ยในช่วงกรอบระยะเวลาหนึ่ง ในที่นี้ค่าเฉลี่ยของราคานั้นได้มาจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ 20-วัน จะเป็นค่าเฉลี่ยของราคาปิดในช่วงระยะเวลา 20 วันนั่นเอง

ทำไมต้องใช้ SMA

SMA ถูกนำมาใช้เพื่อหาค่าเฉลี่ยการเคลื่อนไหวของราคาซึ่งจะทำให้สามารถระบุเทรนด์ได้แม่นยำขึ้น โปรดทราบว่า SMA เป็นอินดิเคเตอร์ที่ค่อนข้างช้า โดยมันจะทำการประมวลผลข้อมูลราคาในอดีตและจะส่งสัญญาณหลังจากที่เริ่มเกิดเทรนด์ไปแล้ว ยิ่ง SMA มีกรอบระยะเวลาของข้อมูลในการประมวลผลยาวนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้เวลาในการประมวลผลนานขึ้นเท่านั้น และยังแสดงปฏิกิริยาหรือส่งสัญญาณต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดช้าลงด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม SMA ถึงไม่ใช่อินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีที่สุดสำหรับใช้แจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงหรือความเคลื่อนไหวของตลาดในขั้นสูง

แต่อินดิเคเตอร์ตัวนี้ก็ยังมีข้อดีอยู่เหมือนกัน เพราะมันเป็นอินดิเคเตอร์ Forex ที่สามารถระบุเทรนด์ได้แม่นยำที่สุด โดยจะทำการประมวลผลด้วยการคำนวณจากข้อมูลมากกว่า 1 ชุด ได้แก่ ข้อมูลชุดหนึ่ง (หรือมากกว่านั้น) ที่มีกรอบระยะเวลาสั้นกว่า กับข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่มีกรอบระยะเวลายาวกว่า ค่าของ SMA ที่มีกรอบระยะเวลาสั้นที่ใช้กันทั่วไปจะเป็น 10, 15 หรือ 20-วัน ส่วนค่าของ SMA ที่มีกรอบระยะเวลานานที่ใช้กันทั่วไปจะเป็น 50, 100 หรือ 200-วัน

ทีนี้คุณอาจจะกำลังนึกสงสัยว่าแล้วเมื่อไหร่อินดิเคเตอร์นี้ถึงจะส่งสัญญาณแจ้งการเกิดเทรนด์ละ

อินดิเคเตอร์ Forex ตัวนี้จะส่งสัญญาณ Forex แจ้งการเกิดเทรนด์ใหม่ก็ต่อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกรอบระยะเวลานานตัดกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกรอบระยะเวลาสั้น ถ้าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกรอบระยะเวลานานเคลื่อนขึ้นไปเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกรอบระยะเวลาสั้น อาจเป็นสัญญาณการเกิดเทรนด์ขาขึ้น (uptrend) แต่ถ้าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกรอบระยะเวลานานเคลื่อนลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกรอบระยะเวลาสั้น ก็อาจเป็นสัญญาณการเกิดเทรนด์ขาลง (downtrend) คุณสามารถทดสอบการใช้อินดิเคเตอร์นี้ด้วยการใช้กรอบระยะเวลาต่าง ๆ กันไปเพื่อดูว่าแบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด

Exponential Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล)

Exponential Moving Average ก็มีความคล้ายกับ Simple Moving Average แต่จะไปโฟกัสที่ราคาล่าสุดมากกว่า หมายความว่าเส้น Exponential Moving Average (EMA) จะส่งสัญญาณแจ้งเทรนด์ได้เร็วกว่าเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคา ค่า Exponential Moving Average (EMA) ในกรอบระยะเวลาสั้นที่ใช้กันทั่วไปจะเป็น 50-วัน หรือ 200-วัน ส่วนค่า EMA ในกรอบระยะเวลานานที่ใช้กันโดยทั่วไปจะเป็น 12-วัน และ 26-วัน

วิธีที่ง่ายที่สุดในการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองแบบก็คือทำการเทรดเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองชนิดเคลื่อนที่มาตัดกัน โดยเปิดคำสั่งซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) ในกรอบระยะเวลาสั้นกว่าเคลื่อนที่มาตัดกันเหนือเส้น MA ในกรอบระยะเวลานานกว่า หรือเปิดคำสั่งขายเมื่อเส้น MA ในกรอบระยะเวลาสั้นกว่าเคลื่อนที่มาตัดกันต่ำกว่าเส้น MA ในกรอบระยะเวลานานกว่า วิธีนี้จะทำให้คุณรู้อยู่ตลอดว่าควรเปิดเทรดด้วยสถานะใด สามารถบอกได้ว่าจะใช้การเทรด long หรือ short สำหรับการเทรดคู่สกุลเงินนั้น ๆ

และคุณจะทำการออกจากเทรดก็เมื่อเส้น MA ในกรอบระยะเวลาสั้นกว่าเคลื่อนที่มาตัดกับเส้น MA ในกรอบระยะเวลานานกว่า ส่วนคำสั่งเทรดต่อไปก็คือเมื่อทิศทางราคาเป็นไปในทางตรงกันข้ามกับเทรดที่คุณเพิ่งปิดคำสั่งออกมา การทำเช่นนี้จะช่วยให้พอร์ตของคุณมีความสมดุลมากขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากนั่งเฝ้าหน้าจอติดตามราคาตลาดตลอดเวลา นี่อาจไม่ใช่อินดิเคเตอร์ Forex ที่เหมาะกับคุณ

ในกรณีนี้ การเอากรอบระยะเวลาแบบที่สามเข้ามาร่วมใช้ด้วยอาจจะเหมาะกับคุณมากกว่า กลยุทธ์เทคนิคการเทรดด้วยการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 เส้นจะเอาเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) แบบที่สามมาใช้ด้วย ซึ่งกรอบระยะเวลาที่นานที่สุดจะทำหน้าที่เป็นตัวค้นหาเทรนด์ (trend filter) เมื่อเส้น MA ในกรอบระยะเวลาสั้นที่สุดเคลื่อนที่มาตัดกับเส้น MA ในกรอบระยะเวลาที่อยู่ตรงกลาง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเข้าเทรดเสมอไป ตัวค้นหาเทรนด์จะส่งสัญญาณให้เปิดคำสั่งเทรด long ได้เท่านั้นเมื่อเส้น MA สองเส้นในกรอบระยะเวลาสั้นกว่าอยู่เหนือเส้น MA ในกรอบระยะเวลาที่นานที่สุด และคุณจะเปิดคำสั่งเทรด short ได้ก็ต่อเมื่อเส้น MA ทั้งสองเส้นในกรอบระยะเวลาสั้นกว่าอยู่ต่ำกว่าเส้น MA ในกรอบระยะเวลาที่นานที่สุด

เทรดด้วยบัญชีทดลอง

เทรดเดอร์สามารถเทรดได้แบบไร้ความเสี่ยงด้วยบัญชีทดลองเทรด ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์จะไม่ต้องเอาเงินทุนจริง ๆ ของตนเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อฝึกฝนทักษะการเทรด แถมยังสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนไปเทรดในบัญชีเทรดจริงได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น บัญชีทดลองเทรดของ Admirals จะเปิดให้เทรดเดอร์สามารถเข้าดูข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเทรดได้ด้วยสกุลเงินจำลอง และยังเข้าไปดูข้อคิดเห็นด้านการเทรดจากเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย

เปิดบัญชีทดลองเทรดฟรีได้เลยเพียงคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง

อินดิเคเตอร์ Moving Average Convergence Divergence (MACD)

Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นอินดิเคเตอร์ Forex ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัดระดับโมเมนตั้ม
(แรงเหวี่ยงของราคา) ไม่เพียงแต่อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะช่วยระบุเทรนด์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถวัดค่าความแข็งแรงของเทรนด์ได้ด้วย เพื่อให้คุณรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงของการเปลี่ยนแปลงราคา อินดิเคเตอร์ตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่ดีและเหมาะสมที่สุด การคำนวณค่าที่เบนออกจากกันของเส้น EMA ที่เร็วกว่ากับเส้น EMA ที่ช้ากว่าถือเป็นหลักการทำงานสำคัญของอินดิเคเตอร์ตัวนี้เลย ซึ่งจะยึดข้อมูลจากเส้น EMA สองเส้นบนกราฟราคา
โดยปกติแล้วเส้น MACD จะคำนวณได้โดยลบ EMA 26-วัน ออกจาก EMA 12-วัน จากนั้นเส้น EMA 9-วันจะถูกวางไว้เพื่อทำหน้าที่เป็นเส้นแสดงสัญญาณ เมื่อเส้น MACD ตัดกันต่ำกว่าเส้นแสดงสัญญาณ ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ขาย แต่เมื่อตัดกันเหนือเส้นแสดงสัญญาณ ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ซื้อ คุณสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ทั้ง 3 ตัว (26, 12 และ 9) ได้ตามต้องการ
ด้วยการทดลองปรับเปลี่ยนเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ จะทำให้คุณหาการตั้งค่าที่เหมาะสมและได้ผลที่สุดสำหรับตนเองได้

เส้น Bollinger Band

ไม่ว่าอินดิเคเตอร์ Forex ตัวไหนก็ตามที่ได้รับการเคลมว่าเป็นอินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีที่สุดจะต้องมีช่องทางความผันผวน (volatility channel) รวมอยู่ด้วยทั้งนั้น ช่องทางความผันผวนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในการระบุเทรนด์ โดยใช้หลักการคือถ้าราคาพุ่งขึ้นไปสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มากในระดับหนึ่ง อาจแสดงว่าเริ่มเกิดเทรนด์ขึ้นแล้ว เส้น Bollinger Band เป็นช่องทางความผันผวนที่ถูกคิดขึ้นมาเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้วโดยนักวิเคราะห์การเงินที่ชื่อ John Bollinger และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์ Forex ในกลุ่มวิธีเทรดโดยใช้ช่องทางความผันผวนที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ Forex

Bollinger band จะใช้พารามิเตอร์ 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่

  1. จำนวนวันสำหรับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
  2. จำนวนค่าเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่คุณต้องการวางเส้นให้ห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ค่าเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดได้แก่ 2 หรือ 2.5 ในทางสถิติ ค่าเปลี่ยนแปลงพื้นฐานจะเป็นตัววัดค่าความแตกต่างของชุดข้อมูลแต่ละชุด ในทางการเงิน ค่าเปลี่ยนแปลงพื้นฐานจะเป็นตัววัดความผันผวน

แล้วหลักการสำคัญคืออะไรกันละ

Bollinger Band จะปรับไปตามความผันผวนของตลาด โดยจะกว้างขึ้นเมื่อความผันผวนสูงขึ้น และจะแคบลงเมื่อความผันผวนต่ำลง ระบบเทรดตามเทรนด์แบบระยะยาวที่ใช้ Bollinger Band อาจใช้ค่าเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน 2 ค่าและเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ 350-วัน คุณอาจเริ่มด้วยการเปิดสถานะ long ถ้าราคาปิดตลาดในวันก่อนหน้าอยู่เหนือจุดสูงสุดของช่องทางความผันผวน และอาจเปิดสถานะ short แทนถ้าราคาปิดตลาดในวันก่อนหน้าอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของช่องทางความผันผวน จุดปิดสถานะจะทำได้เมื่อราคาปิดตลาดในวันก่อนหน้าพลิกกลับทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ไป

Fibonacci Retracement

อินดิเคเตอร์ Fibonacci Retracement เป็นอินดิเคเตอร์ที่ทำงานโดยยึดหลักที่ว่าหลังจากที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง มีโอกาสสูงที่ตลาดจะพลิกกลับในสัดส่วนหลักอันใดอันหนึ่ง สัดส่วนว่านี้ก็คือชุดตัวเลข Fibonacci (ฟีโบนักชี) นั่นเอง ชุดตัวเลข Fibonacci เป็นชุดตัวเลขที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เริ่มมาได้รับความนิยมก็ตอนที่นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาเลียนที่ชื่อ Fibonacci ชุดตัวเลขนี้จะเริ่มด้วย 0 และ 1 และตัวเลขต่อไปจะเป็นผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้าในชุดตัวเลข

ตัวอย่างเช่น ชุดตัวเลขเริ่มด้วย – 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233…

สัดส่วน Fibonacci จะมาจากตัวเลขเหล่านี้ โดยสัดส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ 0.618 ตัวเลขนี้ถูกคำนวณโดยเอาตัวเลขหนึ่งในชุดตัวเลข Fibonacci มาหารด้วยตัวเลขถัดไปที่อยู่ในชุดตัวเลขนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ดูจะใกล้เคียงกับ 0.618 ที่สุดเมื่อทำการหารในชุดตัวเลขนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เช่น 89/144 = 0.6181 และ 144/233 = 0.6180

สัดส่วนสำคัญอีกหนึ่งตัวก็คือ 0.382

สัดส่วนนี้เกิดจากการเอาตัวเลขหนึ่งในชุดตัวเลข Fibonacci มาหารด้วยตัวเลขที่ถัดออกไปอีก 2 ลำดับในชุดตัวเลข สัดส่วนที่ได้ดูจะใกล้เคียงกับ 0.382 ที่สุดเมื่อทำการหารในชุดตัวเลขนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เช่น 55/144 = 0.3819 และ 89/233 = 0.3820 ส่วนสัดส่วนสำคัญตัวสุดท้ายก็คือ 0.236 ได้จากการเอาตัวเลขหนึ่งในชุดตัวเลข Fibonacci มาหารด้วยตัวเลขที่ถัดออกไปอีก 3 ลำดับในชุดตัวเลข

สัดส่วนตัวเลขเหล่านี้หมายความว่าอย่างไร

ทฤษฎีนี้คือหลังจากที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง จะเกิดแนวรับและแนวต้านขึ้นในระดับที่ใกล้เคียงกับสัดส่วนตัวเลขของ Fibonacci ดังนั้นจึงถือได้ว่านี่เป็นอินดิเคเตอร์ชั้นยอดเลยก็ว่าได้ เพราะมันจะสามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงราคาขึ้นจริง ๆ ได้ นี่จะไม่เหมือนกับอินดิเคเตอร์ตัวอื่นที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งจะระบุเทรนด์ได้ก็ต่อเมื่อเกิดเทรนด์ขึ้นแล้วเท่านั้น และยังมีองค์ประกอบอื่นที่ทำให้การทำนายหรือคาดการณ์ของสัดส่วน Fibonacci เป็นจริงด้วย คือ อาจจะมีเทรดเดอร์หลาย ๆ คนเข้าทำการเทรดตามการคาดการณ์ดังกล่าว ซึ่งไปดึงตลาดให้ดำเนินไปในทิศทางนั้น ๆ ในที่สุด

บทสรุป: อินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีที่สุด

อินดิเคเตอร์ Forex ที่ดีที่สุดนั้นก็คืออินดิเคเตอร์ที่ใช้ได้ผลดีที่สุดสำหรับคุณนั่นเอง คุณอาจจะเห็นผลได้ดีที่สุดเมื่อใช้อินดิเคเตอร์มากกว่าหนึ่งตัวช่วยในการเทรด โดยเลือกใช้ตัวหลักในการระบุโอกาสทำกำไร และอีกตัวหนึ่งเป็นตัวค้นหาเทรนด์ ตัวค้นหาเทรนด์จะช่วยตัดสินให้ว่าสภาวะตลาดโดยรวมนั้นเหมาะกับการเทรดหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณจะเรียนรู้วิธีเทรดด้วยการใช้อินดิเคเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการฝึกฝนมากพอเท่านั้น

เทรดแบบไร้ความเสี่ยงได้ฟรี ๆ กับ Admirals

ข่าวดีสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่เลือกใช้ Admirals คือคุณสามารถเทรดได้แบบไร้ความเสี่ยงโดยสิ้นเชิงด้วยบัญชีทดลองเทรดฟรี แทนที่จะเข้าไปเทรดจริงในตลาดเลยและต้องเอาเงินทุนเข้าไปเสี่ยงจริง ๆ คุณสามารถเลี่ยงความเสี่ยงนี้ได้ แต่ยังสามารถฝึกเทรดได้จนกว่าคุณจะพร้อมที่จะเข้าเทรดจริง เป็นผู้กุมบังเหียนควบคุมประสบการณ์การเทรดด้วยตัวคุณเอง เพียงคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้เพื่อเปิดบัญชีทดลองเทรดฟรีได้เลย

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เกี่ยวกับ Admirals

Admirals เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ชนะรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับ ใบอนุญาตและกำกับดูแลจากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เริ่มเทรดเลยวันนี้

คำปฏิเสธข้อเรียกร้อง (Disclaimer): เอกสารนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำการลงทุน, การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน, ข้อเสนอหรือคำชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน โปรดทราบว่า ในกรณีของการวิเคราะห์การซื้อขายใด ๆ ที่อ้างอิงถึงผลการดำเนินงานหรือสถิติในอดีต พฤติกรรมของข้อมูลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใด ๆ คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงเป็นอย่างดีแล้ว

TOP ARTICLES
MACD คืออะไร? : เจาะลึกการใช้ MACD Indicator
MACD Indicator คือหนึ่งในเครื่องมือ Technical Analysis ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ MACD Forex เป็นเหมือน "ของคู่กัน" โดยในบทความนี้ เราจะพาท่านผู้อ่านไปทำความเข้าใจเริ่มตั้งแต่ว่า MACD คืออะไร, การตั้งค่า MACD, ค่า MACD ที่เหมาะสม, แนวคิดของ MACD Indicator ว่ามีวิธีการใช้งานเบื้องต้นอย่างไร และส...
Market Sentiment คือ - รู้จักและเข้าใจตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของ Forex!
Market Sentiment คือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของตลาด Forex อย่างไร มาหาคำตอบ รวมถึงข้อมูลการวิเคราะห์ความเชื่อมั่น วิธีดู Market Sentiment เพื่อดูความเชื่อมั่นของตลาด และ Market Sentiment อินดิเคเตอร์ประเภทต่างๆ ในตลาด ไปพร้อมกันที่นี่เพราะการทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ตลาด Forex แนวคิด และคว...
Stochastic Oscillator คือ: เทคนิค การตั้งค่า และการใช้ Stochastic
Stochastic Oscillator หรือ Stochastic คือ Indicator ที่ช่วยให้สามารถเทรดได้อย่างคล่องตัวได้มากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งใน Indicator ที่ได้รับนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งสำหรับการเทรด Forex (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ : Forex คือ), หุ้น รวมถึงสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ อย่างทองคำ, น้ำมัน คำว่า Stochastic เป็นค...
ดูทั้งหมด