การใช้งาน Williams Percent Range สำหรับการเทรด Forex

Admirals

ในปัจจุบัน ความรู้ด้านการวิเคราะห์ราคาของนักลงทุนรายย่อย ใกล้เคียงและสูสีกันมาก โดยเฉพาะเทคนิคที่เกี่ยวกับ 'กราฟแท่งเทียน' เนื่องจากเป็นเทคนิคที่วิเคราะห์ได้ง่าย ทำให้ความได้เปรียบในตลาดมีน้อยลง

อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์มืออาชีพหลายคนจะเลือกใช้เครื่องมือที่สามารถบ่งชี้ถึงความผิดปกติที่แสดงให้เห็นถึง "ความอ่อนแอของตลาด" ซึ่งมักเป็นจุด Peak ของราคา และในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักเครื่องมือ Williams Percent Range Indicator ใน MT4 ที่สามารถช่วยวิเคราะห์สภาวะดังกล่าวได้

Williams Percent Range คืออะไร?

Williams Percent Range คือ อินดิเคเตอร์วิเคราะห์ราคาสินทรัพย์ว่า มีสภาวะที่มีการ "ซื้อมากเกินไป" หรือ "ขายมากเกินไป" จากค่าเฉลี่ยหรือไม่? เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ราคาในกลุ่ม Oscillator ที่ถูกคิดค้นโดย Larry Williams

Williams Percent Range เอาคำว่า "Williams" มาจากชื่อของเขา และคำว่า "Percent Range" เทรดเดอร์จะเรียกสั้น ๆ ว่า "%R" หรือเรีกว่า Williams Percent Range ว่า "Williams %R" ทั้งนี้ ตัวของ Larry Williams เป็นนักเทรด Commodity ชื่อดังที่พัฒนา Indicator มามากมาย แต่ที่ดังที่สุดก็คือตัว "%R" ที่จะพูดถึงในบทความนี้นั่นเอง

หลักการของเครื่องมือในกลุ่ม Oscillator จะคำนวณและแสดงดัชนีเป็น 0-100 แต่วิธีการมองตลาดของ Williams %R แตกต่างออกไป โดยแสดงดัชนีการวิเคราะห์เป็น -100 ถึง 0

สูตรการคำนวณของ Williams Percent Range

ผลจากหลักการคำนวณที่แตกต่าง ทำให้มีการแสดงผลของดัชนี Williams %R แตกต่างจากเครื่องมืออื่น

  • Williams % R = (Nth High - Close)/(Nth High - Nth Low) x -100

โดยที่ 'Nth High' เป็นราคาสูงสุดสำหรับช่วงเวลา 'N' ก่อนหน้า และ 'Nth Low' คือราคาต่ำสุดในช่วงเวลา N ก่อนหน้า

ราคาปิด หรือ Close คือราคาปิด ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน สูตรนี้สร้างขึ้นเพื่อวัดว่า ตลาดอยู่ใกล้กับ "ขอบนอก" ของช่วงล่าสุดเพียงใด ค่า -100% หมายความว่า ราคาปิดปัจจุบันเป็นค่า Low ที่ต่ำที่สุดในช่วง 'N' ล่าสุด และค่า 0% หมายความว่าราคาปิดปัจจุบัน เป็นค่า High สูงที่สุดในช่วง 'N' ล่าสุด

เพิ่ม Williams Percent Range Indicator ใน MT4

วิธีการเพิ่ม Williams Percent Range Indicator นั้นทำเหมือนเพิ่มอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ปกติ โดยกดที่แท็บ Insert > Indicators > Oscillator > Williams Percent Range หรือเราสามารถเปิดแผงเครื่องมือลัด หรือ Navigator (Ctrl + N) แล้วลากมาใส่กราฟแบบในภาพด้านล่างได้เลย

Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals(CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

จากภาพ เมื่อเพิ่ม Williams Percent Range Indicator ใน MT4 แล้ว จะเห็นว่า ค่า N ที่เคยอธิบายไป สามารถเลือกได้ตรง "N" ค่ามาตรฐานที่แพลตฟอร์มตั้งมาให้คือ 14 Period แต่เดิม Williams เสนอให้ใช้ค่า 10 Period แต่อย่าลืมว่า พื้นฐานของ Larry Williams เป็นนักเทรด Commodity มาก่อน ดังนั้น ค่าแนะนำของผมอยู่ในกรอบของ Timeframe ที่ใหญ่ระดับ Weekly, Monthly

ที่มาภาพจาก MetaTrader 4 - คู่เงิน AUDUSD กราฟ H1 - Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals(CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

ตัว %R ก็คือดัชนีเส้นสีฟ้าที่แกว่งไปมาระหว่าง -100% ถึง 0% ในสมัยก่อน สำหรับตลาด Commodity ที่ยังไม่ได้มีความผันผวนรุนแรงเหมือนในปัจจุบัน การใช้งาน Williams %R ในค่ามาตรฐาน สามารถแจ้งเตือนได้มีประสิทธิภาพมากว่า ราคาได้ขายเกินไป หรือ "Oversold" เมื่อเข้าใกล้ -80 และจะถือว่า "ตลาดซื้ออย่างบ้าคลั่งเกินไป" หรือ Overbought เมื่ออยู่โซน -20

ฝึกฝนการเทรดด้วยบัญชีทดลองผ่าน MetaTrader 5

คุณรู้หรือไม่ว่า? MetaTrader 5 หรือ "MT5" เป็นแพลตฟอร์มการเทรดชั้นนำ ที่มีเครื่องมือการวิเคราะห์กราฟระดับสูง, ระบบการเทรดอัตโนมัติ ปรับแต่งเครื่องมือและระบบเทรดได้ตามต้องการ ข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในหลากหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย และการเทรดกับโบรกเกอร์ Admiralsยังมีข้อดีอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น

  • เปิดบัญชีทดลองได้ฟรี
  • และหากต้องการลงทุนในตลาดจริง เงินฝากขั้นต่ำเพียง 25 USD หรือประมาณ 750 บาทเท่านั้น!
  • มีหุ้นมากกว่า 4,000 รายการจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
  • สามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดถึง 1:1000 ทำให้ซื้อขายได้มากกว่าปกติ 1,000 เท่า เหมาะสำหรับการแก้สถานการณ์ต่าง

การเปิดบัญชีกับ Admiralsนั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี Demo หรือบัญชีจริง คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

เปิดบัญชีฝึกเทรดฟรี!

การใช้งาน Williams Percent Range

ในเบื้องต้น สำหรับคนที่ต้องการเทรดสินค้าพวก Commodity ที่มีรอบการวิ่งใหญ่ ๆ ทีละหลาย ๆ เดือน เช่น ข้าว, ผ้าฝ้าย (Cotton) หรือพวกเหล็ก เป็นต้น สินค้าพวกนี้สามารถประยุกต์ Williams Percent Range ไปประกอบการวิเคราะห์ได้ ซึ่งควรเป็นการใช้ Williams %R ด้วยไทม์เฟรมที่ใหญ่เช่น Weekly, Monthly เป็นต้น

ซึ่งถ้าเป็นกรณีข้างต้น เราสามารถใช้ Williams Percent Range เป็นสัญญาณเตือนว่า ตลาดใกล้จะถึงจุดสูงสุดหรือต่ำสุดแล้วได้ โดยใช้เกณฑ์ -20 กับ -80 ได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ เราต้องย้อนกลับไปศึกษาด้วยตัวเองว่า เมื่อ %R แตะโซน -20 กับ -80 ค่าเฉลี่ยที่ราคามันวิ่งต่อไปอีก คือเท่าไหร่?

เพราะแม้ว่าหลักการของการเทรดด้วย Oscillators จะเป็นการพยายามระบุถึง "สภาวะที่อ่อนแอของราคา" เมื่อหาจุดกลับตัว แต่ในแง่หนึ่ง มันก็คือการสวนแนวโน้มอยู่เสมอเช่นกัน ตลาดที่เป็นแนวโน้มสร้างออกอาการ "อ่อนแอ" เช่น การสร้าง Reversal Bar ใหญ่ ๆ แต่ก็ไม่กลับตัวจริง ๆ เพราะก็เป็นไปได้มีจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาใหม่ ดังนั้น ราคาสามารถไปต่อได้เสมอ เราจึงต้องหาว่า "ค่าเฉลี่ยที่ราคามันวิ่งต่อไปอีก" เพื่อจะได้สามารถกำหนดจุด Stop Loss ที่เหมาะสมได้

ที่มาภาพจาก MetaTrader 4 - กราฟราคาทองคำ หรือ Gold ในไทม์เฟรม H1 - Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals(CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

นั่นเป็นกรณีที่เราใช้ Williams Percent Range เป็นสัญญาณเตือน สิ่งหนึ่งที่อยากให้ลองสังเกต คือ ดัชนีของ Williams %R จะวิ่งเร็วกว่าพวก Oscillator ยอดนิยมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น RSI หรือ Stochastic ภาพด้านบนมีการปรับค่า Williams Percent Range Indicator ไว้ถึง 50 จึงจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับ RSI

แนวคิดในการตั้งค่า Williams %R ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง "กรอบเวลา" ที่ต้องการเทรด เช่น ถ้าเป็นการเทรดแบบ Day Trading ที่เน้นหาจังหวะในการซื้อขายแบบรายวัน ก็อาจจะนิยมตั้งค่า %R โดย x2 ถึง x3 เช่น ถ้าเป็นนักเทรดกราฟราย 1 ชั่วโมง และ 1 วันมี 24 ชั่วโมง ดังนั้น ถ้า x2 ของการเทรด Daytrade ในกราฟ 1 ชั่วโมง ก็จะเอา 24x2 = 52 ซึ่งในภาพก็ตั้งไว้ประมาณ 50 Period

ถ้าเป็นคนที่เทรดแบบ Position Trading มักจะถือสถานะกันแบบข้ามเดือน หลายคนก็ใช้วิธีคิดว่า 1 เดือนมี 4 สัปดาห์ ดังนั้น กำหนดค่าให้ x2 คือ 4x2 = 8 Period สำหรับกราฟ Weekly นั่นเอง

ซึ่งหากยึดตามเทคนิคดังภาพด้านบน นอกจากจะใช้วิธีการคำนวณแบบ x2, x3 ของกรอบเวลาแล้ว จะรอให้ Williams Percent Range ดีดกลับเข้ามาในโซนก่อน เช่น ถ้าราคา Oversold มาก จะรอให้ดัชนี %R วิ่งกลับเข้ามาอยู่ใน -80 ก่อน หรือถ้างงให้ลองไล่ขั้นตอนแบบนี้

  1. ในกรณีขาลง เมื่อราคา Oversold มาก ๆ ให้รอ %R ที่หลุดออกไปทาง -100 กลับเข้ามาอยู่ระหว่าง -80 ถึง -20 ก่อน
  2. ให้มาดูราคา โดยตรงต้อง Breakout ยอดแนวต้านด้านซ้ายมือที่ใกล้ที่สุด ในภาพจะทำเส้นสีแดงแนวนอนไว้
  3. รอราคากลับมาที่เส้นแนวนอนสีแดง จังหวะเข้าซื้อ อาจใช้ RSI หรือ Price Action ก็ได้

จะเห็นว่า การใช้งาน Williams Percent Range ตามแนวคิดนี้ ถือว่าตัว %R เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะการกำหนดว่าให้ %R กลับเข้ามาในโซน ในทางเทคนิคอาจมองว่า ราคาได้ Reverse มาพอที่จะสร้างโอกาสในการกลับ Trend ได้ ซึ่งข้อ [2] จะเป็นการยืนยันการกลับตัว และข้อที่ [3] คือจังหวะการเข้าเทรด ถ้า Williams Percent Range ไม่ส่งสัญญาณในข้อ [1] ตัว Setup นี้ก็จะเกิดไม่ได้

Williams Percent Range Indicator เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและแม่นยำมาก แต่จะเห็นว่า มันมีปัญหาเรื่องของการ "โดนลาก" ดังนั้น ในเบื้องต้นคุณต้องแก้ปัญหาว่า "ค่าเฉลี่ยที่ราคามันวิ่งต่อไปอีก คือเท่าไหร่?" คุณจะได้ Stop Loss ไว้ใช้ในระบบเทรดในหัวข้อสักครู่

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถ "นึกแล้วทำได้เลย" คุณต้องหมั่นฝึกฝนจังหวะเข้าเทรดเสมอ และเราแนะนำให้คุณเริ่มต้นจากบัญชี Demo Account ก่อน

ใช้งาน MetaTrader และเปิดบัญชีทดลองฟรี!

  • เปิดบัญชี Demo ได้ฟรี และเปิดใหม่ได้เรื่อย ๆ หากบัญชีหมดอายุ
  • มีหุ้นให้ทดลองเทรดเหมือนตลาดจริงมากกว่า 4,000 หุ้นจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
  • เทรดตลาด Commodity สำคัญ ๆ ได้ครบทุกตัว ทองคำ, น้ำมัน, แร่ธรรมชาติ ฯลฯ
  • ฝึกลงทุนแบบนักลงทุน VI ด้วยพันธบัตรและกองทุน ETF ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ARK, iShare, SPDR

การเปิดบัญชีกับ Admiralsนั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

เกี่ยวกับ Admirals

Admiralsเป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ชนะรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับ ใบอนุญาตและกำกับดูแลจากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เริ่มเทรดเลยวันนี้

คำปฏิเสธข้อเรียกร้อง (Disclaimer): สื่อ, สารสนเทศที่ได้นำเสนอมีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์รายเดือนหรือรายสัปดาห์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals SC Ltd. ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้

  • นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใด ๆ ในการจัดการก่อนการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
  • การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง ซึ่ง Admirals SC Ltd.จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
  • ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าของเราและความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ Admirals SC Ltd ได้กำหนดกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • การวิเคราะห์จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ (นักวิเคราะห์) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้เขียน") เนื้อหาเป็นไปตามการประมาณการณ์ส่วนบุคคลของพวกเขา
  • ในขณะที่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือและมีการนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่เข้าใจได้ทันเวลา แม่นยำและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Admirals SC Ltd ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของ ข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์
  • ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหรือแบบจำลองใด ๆ ในอดีตของเครื่องมือทางการเงินที่ระบุไว้ในเนื้อหา ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยโดย Admirals SC Ltd สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในอนาคต มูลค่าของตราสารทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นและลดลง ไม่มีการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับความแตกต่าง; CFD) เป็นลักษณะของการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มการซื้อขายโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้
TOP ARTICLES
MACD คืออะไร? : เจาะลึกการใช้ MACD Indicator
MACD Indicator คือหนึ่งในเครื่องมือ Technical Analysis ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ MACD Forex เป็นเหมือน "ของคู่กัน" โดยในบทความนี้ เราจะพาท่านผู้อ่านไปทำความเข้าใจเริ่มตั้งแต่ว่า MACD คืออะไร, การตั้งค่า MACD, ค่า MACD ที่เหมาะสม, แนวคิดของ MACD Indicator ว่ามีวิธีการใช้งานเบื้องต้นอย่างไร และส...
Market Sentiment คือ - รู้จักและเข้าใจตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของ Forex!
Market Sentiment คือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของตลาด Forex อย่างไร มาหาคำตอบ รวมถึงข้อมูลการวิเคราะห์ความเชื่อมั่น วิธีดู Market Sentiment เพื่อดูความเชื่อมั่นของตลาด และ Market Sentiment อินดิเคเตอร์ประเภทต่างๆ ในตลาด ไปพร้อมกันที่นี่เพราะการทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ตลาด Forex แนวคิด และคว...
Stochastic Oscillator คือ: เทคนิค การตั้งค่า และการใช้ Stochastic
Stochastic Oscillator หรือ Stochastic คือ Indicator ที่ช่วยให้สามารถเทรดได้อย่างคล่องตัวได้มากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งใน Indicator ที่ได้รับนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งสำหรับการเทรด Forex (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ : Forex คือ), หุ้น รวมถึงสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ อย่างทองคำ, น้ำมัน คำว่า Stochastic เป็นค...
ดูทั้งหมด