รวมเทคนิคการเทรด Forex รูปแบบต่างๆ และหลักการเทรดให้ได้กําไร

Admirals
20 นาที

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่า Forex สามารถยึดเป็นอาชีพและเปลี่ยนชีวิตได้ แต่เทคนิคการเทรด Forex ให้ได้กําไรที่สอนกันบนอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ จะเป็นลักษณะที่ "ตัดเฉพาะบางส่วน" มาสอน ทำให้เทรดเดอร์มือใหม่ไม่เข้าใจแนวคิดของแต่ละระบบเทรด และตอบไม่ได้ว่า ควรเลือกเทคนิคเทรด Forex แบบไหนที่จะเหมาะสมกับตน

บทความนี้ไม่ได้อธิบายพื้นฐานการเทรดและการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ หากคุณยังไม่มีพื้นฐานเลย แนะนำให้อ่านบทความ "คู่มือการเทรด Forex เบื้องต้น" และสำหรับบทความนี้จะเน้นที่แนวคิดและวิธีเทรด Forex ในแต่ละเทคนิค เพื่อค้นหาวิธีเทรด Forex ให้ได้กําไรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

เทคนิคการเทรด Forex

ในทางตำราทั่วไปมักจัดให้เรื่องของ 'วินัย' เป็นกุญแจสำคัญในการเทรดให้ประสบความสำเร็จ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว เทรดเดอร์จำนวนมากจะรักษาวินัยได้เมื่อเขาศรัทธาในระบบเทรดของตน ซึ่งการจะศรัทธาระบบเทรดนั้นๆ ได้ มันต้องผ่านการทดสอบและอยู่บนพื้นฐานของกลยุทธ์การเทรดหรือเทคนิคการเทรดที่ดี

เทคนิค Forex กับเรื่องของวินัยจึงเป็นเหมือน "ไก่กับไข่" ที่ไม่ได้แยกออกจากกันเลยทีเดียว แต่อยู่ประสานและเกื้อหนุนกันจนก่อให้เกิดผลสำเร็จในทางการเทรด คำถามก็คือว่า "เทคนิคเทรด Forex ที่ดี" จะหาได้จากไหน ซึ่งก็ต้องบอกว่า มันควรพัฒนามาจากธรรมชาติของพฤติกรรมของราคา ดังนั้น ก่อนที่มันจะกลายเป็นกลยุทธ์หรือระบบเทรด เราต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมราคาก่อน

พฤติกรรมราคาพื้นฐาน 3 แบบ

  1. Range
  2. Breakout
  3. Reversal

ซึ่งเป็นลักษณะหรือรูปแบบของกราฟ ซึ่งอาจแสดงออกเป็น Pattern ที่ซับซ้อนหรือรูปแบบ Price Action ต่างๆ แต่สิ่งสำคัญ คือการพิจารณาพฤติกรรมราคาผ่าน "ลักษณะของทิศทาง" หลังจากที่ราคาได้กระทบ "แนวรับ-แนวต้าน" ซึ่งถือเป็นแนวราคาที่สำคัญ หรือพูดอีกอย่าง คือ เราจะสังเกตพฤติกรรมราคาเมื่อราคามาถึงจุดที่สำคัญๆ

ภาพ 1.1 กราฟ USDCAD ราย Daily อธิบายพื้นฐานพฤติกรรมราคา; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

Range คือลักษณะที่กราฟแท่งเทียนเคลื่อนเป็นกรอบ ในตลาดที่มีสภาพคล่องมากๆ พฤติกรรมราคาแบบนี้กินระยะเวลาส่วนใหญ่ของทั้งตลาด เทรดเดอร์ระดับตำนานมักกล่าวว่า "ตลาดส่วนใหญ่เป็นไซด์เวย์" หรือเคลื่อนเป็นกรอบ Range นั่นเอง ซึ่งในภาพ 1.1 ด้านบนนั้น เราจะเห็นว่า ตลาดจะสลับไปมาระหว่าง Range กับการ Breakout เพื่อสร้างแนวโน้มใหม่

พฤติกรรมราคาที่เป็น Range ก็เหมาะกับเทคนิคการเทรด Forex อีกประเภทหนึ่ง นิยมใช้เครื่องมือในกลุ่ม Oscillator ในการหาสัญญาณเข้าเทรด ซึ่งก็มักเป็นกลยุทธ์ในกลุ่ม Swing Trade, Mean Reversion เป็นต้น โดยตัวอย่างกลยุทธ์การสวิงจะอธิบายในหัวข้อถัดไป

ซึ่งสำหรับ Range โดยทั่วไป เราจะสามารถระบุได้ชัดเจนว่า พฤติกรรมราคาที่เห็นอยู่ปัจจุบันเป็น Range ก็ต่อเมื่อเกิดการกลับตัวของแท่งเทียนในจังหวะที่ 3 ซึ่งลองสังเกตภาพด้านบนนี้ ซึ่งตัดมาจากภาพ 1.1 จะเห็นว่า จังหวะที่ 1 และ 2 เป็นเพียงการสร้างกรอบ High, Low เท่านั้น เมื่อจุดที่ 3 ไปกลับตัวบริเวณ 1 มันก็เท่ากับกรอบ Range นั้นสมบูรณ์ และเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ จะเริ่มใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมหลังจากเกิดจุดที่ 3

เทคนิค Forex ส่วนใหญ่ยึดโยงกับเรื่อง "แนวรับ-แนวต้าน" โดยพฤติกรรมราคาที่เรียกว่า [2] Breakout เราจะสังเกตปฏิกิริยาได้ตรงบริเวณแนวรับหรือแนวต้านที่เป็นกรอบของ Range โดยการ Breakout ของราคาที่ถือว่าแข็งแรงจะเป็นลักษณะ "แท่งเทียนขนาดใหญ่" ลองสังเกตที่ภาพ 1.1 อีกเช่นเคย แท่งเทียนที่ Breakout ออกมาจะยาวกว่าค่าเฉลี่ยของแท่งอื่น ๆ ในกรอบ

หลังจากสามารถยืนยันการเกิด Breakout ได้แล้วว่าไม่ใช่ "เบรกหลอก" เทรดเดอร์ก็จะรอใช้เทคนิคการเทรดในกลุ่ม Trend Following หรืออาจรอจังหวะ Pullback กลับมา แล้วเข้าเทรด

สุดท้ายในหัวข้อนี้ [3] Reversal พฤติกรรมราคาที่ "กลับตัว" เช่นเดียวกันกับ Breakout ที่ต้องพิจารณาตามแนวรับ-แนวต้าน และจะเรียกว่าเป็น Reversal ได้ถนัดปาก กราฟแท่งเทียนควรกลับตัวภายใน 2-3 แท่ง ให้สังเกตภาพ 1.1 จะเห็นว่า เมื่อเกิดสัญญาณกลับตัว แท่งต่อมาก็ควรกลับทิศทางเลย จึงนับว่าเป็น Reversal ที่มีคุณภาพ

เทคนิคการเทรด Forex ให้ได้กําไร ในสภาวะของตลาดที่เป็น Reversal สิ่งสำคัญคือระยะในการ Take Profit เพราะหากเกิดเป็น Reversal จริง ๆ ระยะทางที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างไกล และจากภาพ 1.1 จะเห็นเลยว่า มันจะวิ่งไปอย่างน้อยก็แนวรับ-แนวต้านถัดไป แต่ถ้าไกลกว่านั้นก็อาจใช้เทคนิค Fibonacci Trading เข้ามาช่วย

สำหรับท่านที่ใจร้อนและอยากเริ่มทดลองสร้างเทคนิคการเทรด Forex จากพฤติกรรมราคาที่เพิ่งได้ศึกษาไปแล้วนั้น เราแนะนำให้ทดลองใช้ "ระบบเงินจำลอง" หรือ Demo Account ก่อน เพราะมันจะเสกเงินปลอมมาให้คุณลองฝึกเทรดในตลาดจริง ๆ ได้ เติมเงินได้ไม่จำกัด ใส่อินดิเคเตอร์ทุกอย่างได้เหมือนบัญชีจริง เปิดบัญชีทดลองได้ฟรี คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง!

วิธีเทรด Forex "ให้ได้กําไร"

กลยุทธ์การเทรดต่างๆ หรือเทคนิคการเทรด Forex ให้ได้กําไรนั้นมีพื้นฐานมาจากพฤติกรรมราคาที่แตกต่างกัน ทั้ง Breakout, Reversal, Range นั้น ดังนั้น ธรรมชาติของแต่ละเทคนิคจะมี "ระยะทางของกำไร" ที่แตกต่างกัน การที่เราจะประยุกต์ใช้เทคนิคต่างๆ เหล่านั้นให้สามารถทำกำไรในตลาด Forex ได้อย่างยั่งยืนได้นั้น ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติพวกนี้

เพราะถ้าเราเข้าใจว่า ธรรมชาติของ Trend Following จะมีจำนวนรอบการเทรดที่น้อย และต้องการระยะเวลาในการถือครองที่นาน เราก็จะไม่ประมาทเข้าไปจัดการ Position บ่อยๆ เมื่อตลาดผันผวน

ตรงกันข้าม หากเราเลือกใช้เทคนิคเทรด Forex ระยะสั้นๆ อย่าง 'Scalping' เราก็ต้องเข้าใจว่า จุดแข็งของ Scalping ก็คือความสามารถในการ "ทำรอบ" หรือเทรดถี่ ๆ กำไรคำเล็กๆ หลายๆ รอบ เมื่อจุดแข็งคือ "จำนวนรอบ" เราก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่ม Lot หรือขนาดการเทรดให้ใหญ่เกินความจำเป็น

ภาพ 1.2 กราฟ Gold ราย Daily เทคนิคการเทรด Forex แบบแนวโน้ม จะเน้นระยะทางให้ได้ไกลที่สุด; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

 

ในภาพ 1.2 คือตัวอย่างระบบเทรดระยะกลางในกราฟทองคำกับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 20 วัน ซึ่งจะเน้นการถือครอง Position ให้ได้ระยะไกล ๆ เท่าที่ตลาดจะพอให้ได้ตามกรอบของเส้น EMA 20 แน่นอนว่า "จำนวนรอบ" หรือจำนวนครั้งที่เข้าเทรดในแต่ละเดือนจะน้อยมาก เทคนิคเทรด Forex ระยะกลางตามระบบนี้ มีขั้นตอนดังนี้

  1. ต้องมีการ [Breakout] ออกจากกรอบราคาหนึ่ง ๆ
  2. ราคากลับมายืน และเกิด [Reversal] เหนือเส้น EMA-20 นี่คือจุดในการเข้าเทรด
  3. ออกจากการเทรดเมื่อกราฟแท่งเทียนกลับมาแตะเส้น EMA-20

หากเราใช้ระบบเทรดนี้ ธรรมชาติของระบบเทรดในส่วนของข้อดี คือ มันจะได้ระยะกลางที่ไกลต่อการเทรด 1 ครั้ง ซึ่งในภาพเราสามารถเก็บกำไรได้ประมาณ 4-5% จากความเสี่ยง Stop Loss ที่ 2% นั่นแปลว่า ระบบเทรดแบบนี้จะได้ Risk/Reward ที่ดี หรือพูดง่าย ๆ ผลกำไรคุ้มค่ากับความเสี่ยงในแต่ละเทรด

แต่เมื่อเราต้องถือ Position เป็นระยะเวลานาน "ธรรมชาติที่เป็นข้อเสีย" ของระบบแบบนี้ คือการที่มันจะต้องเจอความผันผวนระหว่างสัปดาห์ ทำให้กำไรที่ถืออยู่ อาจจะหายไปทีละ 50-70% ซึ่งหากเราไม่เข้าใจธรรมชาติ เราก็อาจจะมีแนวโน้มที่ออกจาก Position เร็วกว่าที่ควรจะเป็นมาก ๆ

ภาพ 1.3 กราฟ Gold ราย Daily อธิบายรอบสวิงเทรดที่ทำได้ถี่กว่า; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

กลยุทธ์ Trend Following อาศัยประโยชน์จากความเข้าใจเรื่อง Breakout และ Reversal ซึ่งเกิดขึ้นทุกขณะที่ราคาสัมผัสแนวรับแนวต้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่กลไลหลักของกลยุทธ์ข้างต้น อ้างอิงกับ EMA 20 วัน ทำให้สามารถสร้างรอบการเทรดได้น้อย

ยิ่งใช้ EMA เยอะ ๆ รอบการเทรดจะยิ่งน้อย แต่กำไรก็เยอะขึ้น, ระยะเวลาถือครองที่นานขึ้น ย้อนกลับไปในภาพ 1.2 เราทำกำไรได้ 4.5% โดยอาศัยระยะเวลาการถือครอง Position ประมาณ 25 วัน หรือเดือนนิดๆ 

เทรดเดอร์หลายคนจึงเลือกที่จะเร่งผลตอบแทนด้วยการใช้กลยุทธ์การเทรดที่สามารถทำรอบการเทรดได้สูงกว่า ในกรณีของภาพ 1.3 ด้านบน คือกลยุทธ์แบบ Swing Trading ที่มีพื้นฐานการ Setup จากการเกิดพฤติกรรมราคา [Reversal] ที่ต้องย้ำเรื่องพฤติกรรมราคาบ่อยๆ เพราะต้องการให้เข้าใจถึงแนวคิดว่า เทคนิคเทรด Forex ที่ใช้ๆ กันนั้น มีพื้นฐานจากแนวคิดอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้น

กลับมาที่เรื่อง Swing Trading ในภาพ 1.3 ลูกศรสีชมพู แค่ต้องการอธิบายว่า จังหวะการเข้าเทรดจะเป็นลักษณะ "ให้ราคาเคลื่อนขึ้นไปก่อน แล้ววกกลับมาทดสอบที่แนวรับ" จังหวะเข้าเทรดคือจังหวะที่เกิด Price Action แบบ Reversal นั่นเอง

ซึ่งภาพนี้เป็นกราฟราคาทองคำอันเดียวกับภาพ 1.2 แต่ด้วยธรรมชาติของเทคนิคการเทรด Forex แบบสวิงเทรดนั้น มันสามารถเทรดได้หลาย ๆ รอบใน 1 เดือน ในตัวอย่าง 1.3 จะเห็นว่า มีโอกาสสูงมากที่จะทำกำไรอย่างน้อยได้ถึง 3 รอบภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน ก็ควรจะได้กำไรประมาณ 2.2+2.3+2.7 = 7.2% ต่อความเสี่ยงราว ๆ 1.3% ต่อการเทรด

จำนวนรอบและความผันผวน

หากอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะพอเดาออกได้บ้างแล้วว่า จริงๆ แล้วหลักการเทรด Forex มันก็ไม่เชิงว่าเป็นระบบเทรดที่เป็นความลับอะไร แต่เทคนิคจริงๆ คือ "ความเข้าใจ" ซึ่งหากเอาเฉพาะในเรื่องของเทคนิคการเทรดแล้ว หลักๆ มีแค่ 2 อย่างที่ต้องทำความเข้าใจ

  1. ความเข้าใจในตัว "พฤติกรรมราคา"
  2. ความเข้าใจในตัว "กลยุทธ์"

พฤติกรรมราคา Breakout, Reversal, Range จะบอกเราว่าต้องใช้กลยุทธ์หรือระบบเทรดแบบไหน ในขณะที่ความเข้าใจในกลยุทธ์ คือต้องเข้าใจที่ข้อดีและข้อจำกัดของมันเอง ซึ่งสิ่งสำคัญหลักๆ ของมันคือ "จำนวนรอบ" ซึ่งจะเกี่ยวโยงกับความผันผวนของสินทรัพย์นั้นๆ ซึ่งอธิบายได้ดังนี้

กลยุทธ์เล่นยาว เช่น Trend Following (TF)

  • ธรรมชาติจะทำรอบได้น้อย ถือยาว มีโอกาสเจอความผันผวนระหว่างทางสูง
    เราต้อง "มีความเข้าใจ" ว่าเมื่อ TF ทำรอบได้น้อย และจุดแข็งคือการถือให้ยาวที่สุด ปัญหาคือ "ความรู้สึกอึดอัด" และความกลัวที่กำไรจะหายไป เราต้องเข้าใจธรรมชาติของ TF ว่ามันจะเป็นแบบนี้ จะมีกำไรบางส่วนหายไป เราต้องออกจากการเทรดเมื่อมีสัญญาณที่ชัดเจนเท่านั้น

  • กลยุทธ์เล่นรอบ เช่น Swing
    สามารถเทรดได้ถี่กว่าแบบ TF ซึ่งหมายถึง มีโอกาสทำกำไรได้เยอะกว่า แต่ความเสี่ยงก็สูงกว่าเพราะเทรดบ่อย โอกาสผิดพลาดก็ง่ายกว่า

    ซึ่งในกรณีของ Swing เราก็ต้อง "มีความเข้าใจ" เหมือนกันว่า จุดแข็งมันคือการทำรอบให้ได้เยอะๆ ดังนั้น อย่าพยายาม Let's Profit Run ให้ออกเมื่อถึงแนวราคาสำคัญ อย่าคาดหวังว่ามันจะ Breakout แล้วไปต่อ หรือหากราคามีอาการชะลออย่างผิดปกติ ก็ให้ออกเก็บกำไรไว้ก่อน ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
    แนวคิดการเทรด Forex ระยะยาว ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ คลิกที่ลิงก์ได้เลย!

ทดสอบเทคนิค Forex ของคุณได้ฟรีกับ Admirals!

  • สามารถใช้ 'เลเวอเรจ' ลงทุนได้มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันได้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ "Leverage คือ"
  • Negative Balance Protection : คุ้มครองเงินในบัญชีไม่ให้ต่ำกว่าศูนย์ บัญชีเทรดจะไม่มียอดติดลบ นักลงทุนจะไม่มีโอกาสเป็นหนี้โบรกเกอร์แบบตลาดหุ้นทั่วไป
  • เทรดด้วยแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งบน Windows, Mac, Web, Android และ iOS
  • ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินของตัวบัญชีได้ด้วยการเข้าไปเทรด Hedging ได้ตลอด 24 ชั่วโมง / 5 วันต่อสัปดาห์
  • เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 25 USD เท่านั้น!

สำหรับท่านที่ต้องการเปิดบัญชีเทรดออนไลน์ หรือต้องการทดลองใช้ "ระบบเงินจำลอง" ซึ่งจำลองเงินปลอมมาให้คุณฝึกเทรดทองในตลาดจริงๆ ได้ คุณสามารถลงทะเบียนเปิดใช้งานได้ฟรี คลิกที่ปุ่มด้านล่าง!

เปิดบัญชี Copy Trading

คัดลอกการซื้อขายจากเทรดเดอร์มืออาชีพ ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้น

สำหรับเทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้น มีข้อพิจารณาที่สำคัญประการหนึ่งที่ค่อนข้างแตกต่างจากกลยุทธ์ระหว่างกลาง, ยาว เพราะการเทรดสั้นไม่ต่างจากการ 'วิ่งฝ่าดงระเบิด' ทุกอย่างต้องถูกต้อง แน่นอน ห้ามมีข้อผิดพลาด อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ให้จำไว้ก่อนว่า "ทางต้องโล่ง" อย่าให้มีสิ่งใดมาขวางการวิ่งของเรา

เทรดเดอร์ที่ซีเรียสกับการเทรดสั้นมากๆ อาจจะไม่ได้พิจารณาแค่เรื่อง 'แนวรับ-แนวต้าน' ตามตำรามาตรฐานแบบเทคนิคพวก Swing, Trend แต่จะกรองพื้นที่ทับซ้อนย่อยๆ ของราคา และจะเทรดเฉพาะโซนที่โล่งจริง ๆ เท่านั้น

ภาพ 1.4 กราฟ GBPJPY ราย H1 ตัวอย่างการกรองโซนสำหรับเทรดระยะสั้น; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

ให้สังเกตที่ภาพ 1.4 เป็นกราฟรายชั่วโมง พื้นที่ที่มีการทับซ้อนของราคาเยอะๆ ก็คือโซนที่ Body หรือตัวของแท่งเทียนเรียงติด ๆ กันหลายแท่ง หรืออาจจะบอกว่า มันคือพฤติกรรมราคาที่เกิด [Range] แคบ ๆ หลายชั่วโมงติดกัน โดยเราได้ทำสีเหลืองไฮไลท์ไว้ เทรดเดอร์ที่เน้นเทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้น จะหลีกเลี่ยงการเทรดใน Range สีเหลือง

และวิธีเทรด Forex นี้คือรอให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าวอย่างน้อย 2 น้อย ซึ่งเราทำตัวอย่างไว้จะเห็นว่า วันที่มีสัญญาณเทรดสวย ๆ จะต้องเกิด Range ที่ [1] จนราคาไปหยุดที่ใดที่หนึ่ง แล้วก็สร้าง Range ที่ [2] ขึ้นมา และหลังจากราคาหลุดโซน [2] จะเป็นกลายเป็นโอกาสในการเทรดแบบ Scalping ทันที

ซึ่งความสำคัญอยู่ตรงนี้เอง ให้สังเกตตัวอย่างที่ไฮไลท์ไว้ในแต่ละวัน Range จะไว้เวลาอยู่หลายชั่วโมง แต่เมื่อหลุดโซน [2] ราคาจะวิ่งไปอีก Range ด้วยเวลาไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์ระยะสั้นต้องการ เพราะการ Take Profit ได้เร็ว ก็หมายถึง งานเสร็จเร็ว, ความเสี่ยงจบลง และถึงเวลาพักผ่อน

ตรงนี้จะเห็นว่า เราใช้เรื่อง [Range] เข้ามาช่วยเยอะมาก ๆ แต่ทั้งนี้ เราสามารถใช้เทคนิค Forex แบบระยะสั้นอื่นๆ มาประกอบการกรองโซนได้ ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ "เทคนิค Scaping"

เทคนิคแก้พอร์ต Forex

เรามักต้องมาแก้พอร์ต Forex ในกรณีที่เทรดโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เพื่อเทรด Forex ให้ได้กําไรสูงสุดหรือ พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราวางแผนการเทรดมาอย่างดีแล้ว เราจะสามารถกำหนดจุด Stop Loss และออกจากการเทรดได้อย่างมีวินัย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์มือใหม่แม้มีระบบเทรดที่ตนเองเชื่อมั่นแล้ว แต่บ่อยครั้งก็ปล่อยใจไปตามอารมณ์ ยอมให้บาง Position เกิดการขาดทุนอย่างหนักได้

ซึ่งเทคนิคแก้พอร์ต Forex ในเบื้องต้น ก็มีพื้นฐานมาจากพฤติกรรมราคาทั้ง Breakout, Reversal, Range อีกเช่นเดียวกัน โดยมันจะขึ้นอยู่กับโซนและระยะทางที่เราติด Position อยู่ และให้ลองสังเกตว่า เรามักติด Position ในกรณีที่เราใช้เทคนิคเทรดแบบ Range แต่ราคาได้ Breakout สร้างแนวโน้มใหม่

ภาพ 1.5 กราฟ GBPJPY ราย Daily แนวคิดในการแก้พอร์ต Forex อย่างคร่าว ๆ เท่านั้น; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

 

นี่คือสถานการณ์จริงจากกราฟ GBPJPY ให้สังเกตที่ [1] จะเห็นว่า เป็นแท่งสีแดงขนาดใหญ่ ทำท่าเหมือนจะลง ซึ่งก็อาจจะล่อเทรดเดอร์เข้า Sell ได้ หลังจากนั้นราคาก็ Breakout ขึ้นไป ไม่ได้เกิดการ Reversal เหมือนที่เราตั้งใจไว้ เทคนิคแก้พอร์ต Forex ในกรณีนี้ถือว่าค่อนข้างง่ายอยู่ เพราะหากราคาสร้าง Trend ใหม่จริง ๆ เราก็แค่ตาม Trend ไป

ปัญหาสำคัญก็คือ ถ้าเราเทรดแบบ Over Position หนักๆ ตั้งแต่ครั้งแรก เราแทบจะไม่มีโอกาสแก้พอร์ตได้เลย เพราะอย่างน้อย "เราต้องมีพื้นที่" ยอมให้ราคาสามารถลากได้บ้าง เพราะเราก็ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่า ราคามัน Breakout เพื่อสร้างแนวโน้มใหม่จริงๆ หรือไม่? กรณีของภาพ 1.5 นั้น เราติด Sell ที่จุด [1] แล้วโดนลากขึ้นไป 300 Pips โดยที่พอร์ตยังเหลือมากกว่า 50%

หรือง่ายๆ ให้เราคำนวณตั้งแต่ติด Position ไว้เลยว่า ทนได้อย่างน้อย 300 Pips ไหม เพราะค่าเฉลี่ยของความผันผวนของค่าเงิน Forex จะราวๆ 100 - 200 Pips เท่านั้น ค่าประมาณ 300 ถือว่าเผื่อไว้ แต่ถ้าไม่ว่าจะอย่างไร เราไม่สามารถทนได้ก็ให้เปิด Position ตรงข้ามไว้เลย เช่น ถ้า Sell ไว้ 0.5 Lot ก็ให้เปิด Buy ทันที 0.5 Lot แล้วพิจารณาขั้นตอนต่อไป

ในกรณีที่เราผิดทาง เทคนิคแก้พอร์ต Forex ที่ปลอดภัยคือ "อาศัยประโยชน์จากระยะทาง" และวิธีเทรด Forex นี้ก็ต้องคิดแบบ 'คนแก้พอร์ต' ให้เราโฟกัสที่การ "ลดจำนวน Lot" ให้ได้เร็วที่สุด ไม่ได้โฟกัสที่การทำกำไร

  1. เมื่อติดสถานะ แล้วได้ Hedge สถานะหมดแล้ว (หรือจะไม่ Hedge ก็ได้หากทนลากเกิน 300 Pips)
  2. ในภาพเราติด Sell ที่จุด [1] เราต้องเปิด Buy เพิ่มเท่ากับจำนวนที่ติดอยู่ โดยให้เปิดเมื่อราคาย่อกลับมาแล้วเกิด [Reversal]
  3. โฟกัสโดยตั้งเป้าว่า จะ Cut สถานะ Sell ออกทีละ "ครึ่งหนึ่ง" โดยใช้กำไรจากฝั่ง Buy มาลด Lot ลง

อธิบายตัวอย่างคร่าวๆ เมื่อราคาเปลี่ยนทิศทาง เราก็ต้องหาจังหวะ [Reversal] เพื่อเพิ่มฝั่ง Buy เข้าไป เมื่อเรามี Buy แล้วและราคาวิ่งขึ้นไป ให้โฟกัสที่การตัด Lot ในทิศทางเก่า จากตัวอย่างด้านบนจะเห็นว่า เมื่อฝั่ง Buy มีกำไร +100 ก็ปิดกำไรแล้วเอามาตัดที่ Sell แต่จะเห็นว่า ฝั่ง Sell ติดลบถึง -150 ดังนั้น เมื่อจะปิด Sell จะปิดได้แค่ประมาณ 0.06 Lot ซึ่งมีค่าประมาณ -90 กว่า ๆ ผลลัพธ์สุดท้าย คือเรายัง "ติดลบเท่าเดิม" แต่จำนวน Lot จะเหลือเพียง 0.04 Lot ซึ่งจะทำให้เล่นง่ายขึ้นเยอะมาก

เทคนิคการแก้พอร์ต Forex แบบนี้ถือเป็นพื้นฐานของนักเทรดสายกลยุทธ์ อาศัยประโยชน์จากการที่ราคา Breakout และสร้างแนวโน้มใหม่ ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการทำ Martingale ที่เพิ่ม Lot ย้ำสถานะเดิมไปเรื่อยๆ

สำหรับบทความนี้ เราพยายามอธิบายทีละลำดับ โดยค่อยๆ ปูวิธีเทรด Forex รวมทั้งแนวคิดเพื่อให้นักลงทุนสามารถพัฒนาการเทรดได้อย่างเป็นระบบ โดยผู้อ่านจะได้เรียนรู้จาก

"พฤติกรรมราคา" >>> "เทคนิคหรือระบบ" >>> "แนวคิดการแก้พอร์ต Forex"

หวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นพื้นฐานที่ดีในการต่อยอดระบบการเทรดขั้นสูงของคุณ และสุดท้ายนี้ เราก็อยากจะแนะนำให้คุณหมั่นศึกษาและทดสอบกลยุทธ์ของคุณเสมอ

ใช้งาน MetaTrader 5 และเปิดบัญชีทดลองฟรี!

  • เปิดบัญชี Demo ได้ฟรี เพื่อฝึกฝนกลยุทธ์การเทรด Forex ของคุณและเปิดใหม่ได้เรื่อยๆ หากบัญชีหมดอายุ
  • มีหุ้นให้ทดลองเทรดเหมือนตลาดจริงมากกว่า 4,000 หุ้นจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
  • เทรดตลาด Commodity สำคัญๆ ได้ครบทุกตัว ทองคำ, น้ำมัน, แร่ธรรมชาติ ฯลฯ
  • ฝึกลงทุนแบบนักลงทุน VI ด้วยพันธบัตรและกองทุน ETF ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ARK, iShare, SPDR

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมากๆ เพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

เทรดบัญชีทดลองโดยปราศจากความเสี่ยง

ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจำลองฟรี

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อการวิเคราะห์:

สื่อ, สารสนเทศที่ได้นำเสนอมีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์รายเดือนหรือรายสัปดาห์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals SC Ltd. ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้

  • นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใด ๆ ในการจัดการก่อนการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
  • การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง ซึ่ง Admirals SC Ltd.จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
  • ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าของเราและความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ Admirals SC Ltd ได้กำหนดกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • การวิเคราะห์จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ (นักวิเคราะห์) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้เขียน") เนื้อหาเป็นไปตามการประมาณการณ์ส่วนบุคคลของพวกเขา
  • ในขณะที่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือและมีการนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่เข้าใจได้ทันเวลา แม่นยำและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Admirals SC Ltd ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของ ข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์
  • ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหรือแบบจำลองใด ๆ ในอดีตของเครื่องมือทางการเงินที่ระบุไว้ในเนื้อหา ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยโดย Admirals SC Ltd สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในอนาคต มูลค่าของตราสารทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นและลดลง ไม่มีการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับความแตกต่าง; CFD) เป็นลักษณะของการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มการซื้อขายโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้
TOP ARTICLES
แนวรับ แนวต้าน ในการเทรด Forex หุ้น ทองคำ และ Indicator แนวรับแนวต้าน ที่คุณต้องรู้จัก!
แนวรับ แนวต้าน เครื่องมือสำคัญในการเทรด Forex และยังถือเป็นพื้นฐานหลักในการเทรดและการวิเคราะห์ตลาดการเงินอื่นๆ ด้วย โดยวิธีดูแนวรับแนวต้านหรือเครื่องมือหาแนวรับแนวต้านนี้จะใช้ Indicator แนวรับแนวต้าน หรือที่เราเรียกกันว่าตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้าน เป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อขาย Forex และ CFD ซึ่งบทค...
Scalping คือ ? พร้อมเทคนิค Scalping ใน 1 นาที ฉบับใช้ได้จริง!
Scalping คือ ? ถึงแม้ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มหัดเทรดใหม่ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเคยได้ยินคำว่า 'scalping' มาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาแนะแนวความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นหรือที่เรียกกันว่า 'Scalping Forex' รวมทั้งสอนกลยุทธ์และเทคนิคต่างๆ ในการเทรดแบบ Scalping ด้วย ในที...
Carry Trade คือ ? : กลยุทธ์ Carry Trade (แครี่เทรด) ทำอย่างไร
Carry Trade คือ ? คุณรู้หรือไม่ว่า Carry Trade คือหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งถูกพัฒนาโดยผู้บริหารกองทุนระดับแถวหน้า มันเป็นการซื้อและขายสกุลเงิน 2 สกุลเงินที่แตกต่างกัน โดยผู้ที่จะสามารถใช้กลยุทธ์ดังกล่าวได้ ต้องเป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ทางการเงินได้ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ต้องขอบ...
ดูทั้งหมด