ประชุม Fed (FOMC) สำคัญอย่างไร ทำไมเราต้องติดตาม ?

Sarah Fenwick
10 นาที

เชื่อว่าเทรดเดอร์และนักลงทุนทุกท่านน่าจะคุ้นเคยหรือได้ยินเรื่องราวของ FOMC และประชุม FOMC หรือที่เราเรียกกันว่าประชุม Fed ผ่านหูผ่านตากันอยู่บ่อยๆ ในวันAdmirals SC Ltdนี้เราจะชวนคุณมาพูดคุยเรื่องราวและความสำคัญของการประชุมนี้ พร้อมปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างเหมาะสม ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามมาทางนี้ได้เลย!

ประชุม Fed หรือ FOMC คือ : สำคัญอย่างไร ทำไมเราต้องติดตาม ?

FOMC คือ ส่วนหนึ่งของระบบ Federal Reserve หรือ Fed ที่เป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่ดูแลนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และทำการรวบรวมเกณฑ์ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย เพื่อการตัดสินใจในแนวทางของอัตราดอกเบี้ย เพื่อการบริหารจัดการเพื่อควบคุมการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ โดยในช่วงภาวะเศรษฐกิจปกติจะไว้ที่ประมาณ 2% เพื่อรองรับเสถียรภาพของราคาในระบบเศรษฐกิจ

Fed ประกอบด้วยสมาชิกในหน่วยงาน 12 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการเงินและเศรษฐศาสตร์ โดยมีกิจกรรมสำคัญที่เป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลกคือ การประชุมอย่างเป็นทางการที่มีการจัดขึ้น 8 ครั้งต่อปี ที่เราเรียกกันว่าประชุมเฟด หรือ FOMC ซึ่งเป็นสัญญาณที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจและทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของราคาต่างๆ โดยเฉพาะใน ตลาดหุ้น ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงตลาดหุ้นอเมริกา แต่อาจส่งผลต่อตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และตราสารการเงินทั่วโลก

แน่นอนว่า การประชุมเฟดจะถูกติดตามและมีการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิดจากสื่อทั่วโลก นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ทางการเงินต่างๆ ยังใช้ข้อมูลจากการประชุม Fed แต่ละครั้ง เพื่อหาสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินในปัจจุบันและอนาคต แม้ว่า FOMC จะเน้นที่เศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ แต่การตัดสินใจและแถลงการณ์ของคณะกรรมการก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อธนาคารกลางระดับโลกอื่นๆ เช่น ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) เป็นต้น 

Fed Fund Rate หรือ FFR คือ ?

Fed Fund Rate (FFR) คือ เครื่องมือหลักอย่างหนึ่งของ Fed ในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเป้าหมาย ที่มีอิทธิพลต่อจำนวนเงินที่ธนาคารในสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากการปล่อยกู้ข้ามคืน FFR จึงเป็น เป็นอัตราที่ธนาคารเรียกเก็บจากการเก็บเงินสดสำรองส่วนเกินในชั่วข้ามคืน

โดยคำแนะนำอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจปล่อยสินเชื่อของภาคธนาคาร ดังนั้น คำแนะนำอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงหมายความว่า Fed สนับสนุนให้กระแสเงินสดเข้าสู่เศรษฐกิจในรูปของสินเชื่อ หากเงินสำรองส่วนเกินไม่ได้รับดอกเบี้ยข้ามคืนมากนัก หรือแม้กระทั่งมีค่าธรรมเนียมเนื่องจากดอกเบี้ยติดลบ ถือเป็นแรงจูงใจให้ภาคธนาคารเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจและครัวเรือนแทนเพื่อสร้างรายได้

ในทำนองเดียวกัน หากคำแนะนำของ Fed คือการเพิ่ม FFR ธนาคารจะได้รับค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยข้ามคืนมากขึ้น การดำเนินการนี้มีความเสี่ยงด้านเครดิตน้อยกว่าสำหรับภาคการธนาคาร แต่ทำให้การกู้ยืมสำหรับธุรกิจและครัวเรือนทำได้ยากและมีราคาแพง

การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ FOMC

ในระหว่างประชุม FOMC คณะกรรมการจะตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการตัดสินใจนี้จะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอัตราเงินเฟ้อผ่านแนวคิดทางเศรษฐกิจพื้นฐานของอุปสงค์และอุปทาน

ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตช้าและความต้องการสินค้าและบริการต่ำ อัตราดอกเบี้ยจึงมีแนวโน้มที่ต่ำ เพื่อจูงใจให้เกิดการกู้ยืมเงิน เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด และกระตุ้นความต้องการ จึงเป็นท่าทีที่ไม่เอื้ออำนวยที่สนับสนุนอัตราเงินเฟ้อและสกุลเงินประจำชาติ

 และเมื่อเศรษฐกิจปรับตัวได้ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยก็มักจะสูงขึ้นเพื่อควบคุมการกู้ยืม ควบคุมราคา และป้องกันความต้องการจากการดันราคาสูงเกินไป จึงเป็นจุดยืนที่ไม่ดีและมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดอัตราเงินเฟ้อและป้องกันไม่ให้สกุลเงินของประเทศแข็งเกินไป

Quantitative Easing หรือ QE คือ ?

เครื่องมือที่ทรงพลังอีกอย่างหนึ่งในมือของประชุม Fed คือ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing หรือ QE) เมื่อเสถียรภาพของราคาถูกคุกคาม เช่นในวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 ที่ความล้มเหลวทางการเงินที่ตามมา หรือในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 - 21 ที่ Fed ต้องเข้ามาสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยประชุม Fed ก็จะการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนพันธบัตรของประเทศ และเกิดเป็นมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

เมื่อความวุ่นวายทางเศรษฐกิจผ่านพ้นไป Fed ก็จะเริ่มขายสินทรัพย์ที่สร้างขึ้นจากงบดุลในแนวปฏิบัติที่เรียกว่า QE taping ในขณะเดียวกันประชุม Fed ก็จะเริ่มพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามพัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุนหรือทดลองกลยุทธ์ของคุณในช่วงเวลาที่ผันผวน เราขอแนะนำการใช้บัญชีทดลองเทรดเพื่อเรียนรู้ตลาดในสภาวะจริงแบบเรียลไทม์ ที่คุณสามารถดำเนินคำสั่งได้แบบไร้ความเสี่ยง จากการใช้เงินทุนเสมือนจึงไม่ต้องกังวลกับเงินทุนของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถทดลองใช้เครื่องมือการเทรดระดับมืออาชีพบนแพลตฟอร์มการเทรดของเรา สมัครบัญชีทดลองเทรดฟรีได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

บัญชีทดลองเทรด

ฝึกฝนการเทรดในตลาดจริงด้วยเงินจำลอง หรือ Demo Account เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการฝึกเทรดได้อย่างอิสระ มีระบบคำนวณกำไร-ขาดทุนแบบอัตโนมัติให้ศึกษา

ความเกี่ยวข้องของ FOMC และภูมิรัฐศาสตร์

ผลกระทบของเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีรายละเอียดสูง อาจเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของ FOMC ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อาจรวมถึงสงครามหรือวิกฤต การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ เช่น ความไม่สงบในประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญหรืออำนาจเชิงระบบในเศรษฐกิจโลก

ขณะนี้ระบบเศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันเหมือนกับ WorldWideWeb ซึ่งหมายความว่าเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญในประเทศที่ห่างไกล ก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และหากผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากพอ ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของ FOMC เช่นเดียวกัน

นโยบายการเงินที่เชื่อถือได้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ USD ได้รับการยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven Asset) และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US treasury) ก็ยังมีความน่าเชื่อถือในระดับที่สูง

Hawkish กับ Dovish (เหยียวกับนกพิราบ)

ภาคการเงินและการธนาคารใช้ทิศทางจากจุดยืนปัจจุบันของ FOMC ในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ และตีความว่าเป็น Dovish หรือนกพิราบที่ผ่อนปรน และในช่วงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหรือสูง ท่าทางจะเป็นแบบ Hawkish หรือแบบเหยี่ยวที่แข็งกร้าว ในกรณีส่วนใหญ่ ท่าทีของ Dovish หมายถึงความหายนะทางเศรษฐกิจ

แต่ก็กล่าวได้ว่าการดำเนินนโยบายแบบ Dovish จะเป็นมิตรกับเครดิต ซึ่งทำให้เครดิตมีราคาไม่แพงเนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และการกู้ยืมและการลงทุนอาจทวีความรุนแรงขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่วง Hawkish นั้นไม่เป็นมิตรกับเครดิต แต่จุดประสงค์หลักในช่วงระยะเวลา Dovish คือการส่งเสริมการลงทุน การใช้จ่ายของผู้บริโภค และการสร้างงาน จึงมีการสนับสนุนทางเครดิตที่ดีกว่า 

ช่วงเวลา Hawkish ที่มีคำแนะนำด้านอัตราดอกเบี้ยที่สูง ขึ้นมักจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นเป็นที่น่ากังวล อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะจำกัดการกู้ยืมและการใช้จ่าย เพื่อการจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่สูง

โดยสรุป การประชุมของ FOMC มีความสำคัญเนื่องจากการประกาศแต่ละครั้งจะส่งผลต่อธนาคารกลางอื่นๆ รวมทั้งภาคการธนาคารในสหรัฐฯ และภาคการเงินในวงกว้าง รายงานการประชุมของ Fed จึงเป็นมาตรวัดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด Forex

และสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ที่ต้องการเรียนรู้และทำความเข้าใจในตลาดมากขึ้น สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกับเหล่าเทรดเดอร์มืออาชีพกับสัมนาการเทรดออนไลน์ ที่เราจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้สำหรับสมาชิกของ Admirals ของเราทุกวัน เข้าร่วมสัมนาการเทรดออนไลน์ ฟรี ก่อนใคร คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

สัมมนาการเทรดออนไลน์ฟรี

เรียนสดกับเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ FOMC (ประชุม Fed)

การประชุม FED หรือ FOMC Meeting สำคัญกับการเทรดอย่างไร ?

ประชุม FOMC คือการหารือและวิเคราะห์สถานการณ์ของเศรษฐกิจ เพื่อรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยตลาดมักจับตามองผลลัพธ์การประชุมนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น สินทรัพย์ และตราสารต่างๆ ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่คริปโตด้วย

 

กำหนดการประชุมของ FOMC 

การประชุม FOMC จะจัดขึ้น 8 ครั้งต่อปี โดยมากจะจัดขึ้นเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม แต่ควรติดตามอัปเดตข้อมูลการประชุม Fed อีกครั้งในตอนต้นปี

 รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 

TOP ARTICLES
ส่องแนวโน้มการลงทุนในปี 2024
แนวโน้มการลงทุนต่างๆ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในโลก และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ นี้ก็มีผลกระทบต่อศักยภาพในการลงทุนด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2024 กันแล้วก็ถึงเวลาที่จะเริ่มพิจารณาแนวโน้มทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในปี 2024 หรือปี 2567 กันต่อไปด้วยกล่าวได้ว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มี...
Durable Goods คือ - รู้จักและเข้าใจ Durable Goods Orders ใน 5 นาที!
Durable Goods คือ ? คุณคิดว่าชุดสูทกับรถยนต์ต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะในโลกของการลงทุน ซึ่ง Durable Goods หรือสินค้าคงทนนี้มีความแตกต่างมากกว่าที่คุณคิดซึ่งเราจะนำคุณมาทำความรู้จักทุกแง่มุมของศัพท์การลงทุนที่สำคัญอย่าง Durable Goods คือ รวมทั้ง Durable Goods Orders หรือ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เพื่อให้...
ดูทั้งหมด