คู่มือในการซื้อหุ้นจีน: ส่องทุกหุ้นจีนชั้นนำที่คุณห้ามพลาด!

ซื้อหุ้นจีนและการลงทุนในหุ้นจีนอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักสำหรับนักลงทุนต่างชาติ จากข้อจำกัดต่างๆ ของรัฐบาลจีนแต่วันนี้นักลงทุนต่างชาติก็สามารถลงทุนในหุ้นจีนโดยการลงทุนในหุ้น American Depositary Receipts (ADR) 

และในบทความนี้ เราจะชวนคุณไปส่องหุ้นจีนที่น่าสนใจ รวมทั้งข้อดีข้อเสียของการลงทุนหุ้นจีนเหล่านี้ไปพร้อมกันที่นี่ ห้ามพลาด!

สิ่งที่ต้องรู้หากต้องการซื้อหุ้นจีน

• หุ้นจีนเป็นหุ้นของบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศจีน ตลาดหุ้นจีนมีมูลค่าประมาณ 12 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตในทศวรรษต่อๆ ไป
  
  
• บริษัทจีนหลายบริษัทดำเนินกิจการในจีน แต่ก็ได้รับการคุ้มครองจากบริษัทในซีกโลกตะวันตก 
  
  
• การลงทุนในหุ้นจีนไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักสำหรักนักลงทุนต่างชาติ จากข้อจำกัดของรัฐบาลจีน แต่นักลงทุนต่างชาติก็สามารถลงทุนผ่าน American Depositary Receipts (ADRs) ซึ่งเป็นใบรับรองที่ออกโดยธนาคารในสหรัฐฯ เพื่อเป็นตัวแทนรับรองของในหุ้นต่างประเทศ

หุ้นจีนที่ดีเป็นแบบไหน เลือกอย่างไร 

หุ้นจีน คือ หุ้นของบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนเกี่ยวข้องกับนักลงทุนต่างชาติมากมายคือขนาดที่แท้จริงของตลาด ประเทศจีนมีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน ซึ่งประชากรในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้กำลังกลายเป็นชนชั้นกลางและพยายามสร้างรายได้หลังค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มากขึ้น

นอกจากนี้ หุ้นจีนชั้นนำที่ติดอันดับในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น Alibaba ที่อยู่ในรายชื่อหุ้นจีน ก็มีมูลค่าตลาดมากกว่า 500 พันล้านดอลลาร์ในปี 2018 ซึ่งเป็นบริษัทเอเชียลำดับที่ 2 ที่สามารถไปถึงได้ นั่นจึงทำให้ Alibaba ถือเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 9 ของโลก

แต่นักลงทุนต่างชาติต้องลงทุนหุ้นจีนโดยใช้ American Depositary Receipts (ADRs) เพื่อรองรับมาตรการของรัฐบาลจีน ทำให้สามารถซื้อและขายหุ้นจีนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรปได้โดยไม่ต้องกังวลในข้อจำกัดของรัฐบาลจีน

หุ้นจีนที่น่าจับตามอง

หุ้นจีนที่น่าสนใจสำหรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนอาจเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป้าหมายและสถานการณ์ทางการเงินส่วนบุคคลสามารถนำไปสู่คำตอบที่แตกต่างกัน ดังนั้น จะซื้อหุ้นจีนตัวไหนนั้นจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการวิเคราะห์หุ้นจีนของคุณ แต่ก็มีรายชื่อหุ้นจีนที่น่าสนใจในปีนี้ ดังนี้ 

1. Baidu (BIDU) 

Baidu หรือที่เรารู้จักกันดีในฐานะ Google ของจีน เนื่องจากมีรูปแบบบริษัทที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นและแผนที่และการนำทาง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เช่น Baidu Wangpan (บริการคลาวด์) และ Baidu Baike (สารานุกรมออนไลน์)

ซึ่ง 3/4 ของการค้นหาออนไลน์ทั้งหมดในประเทศจีน ดำเนินการโดยใช้เครื่องมือค้นหาของ Baidu เนื่องจากคู่แข่งอื่นๆ อย่าง Google หรือ Bing ของ Microsoft ที่ไม่สามารถฝ่าด่านข้อกำหนดของรัฐบาลจีนได้

2. Alibaba (BABA)

Alibaba ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการที่คล้ายคลึงกับอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Amazon ซึ่ง Alibaba เป็นเจ้าของและดำเนินการตลาดหลายแห่งเพื่อให้ผู้ใช้สามารถขายและซื้อสินค้า เช่น Alibaba.com (นำเสนอสินค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ), Taobao (นำเสนอสินค้าจากลูกค้าให้กับลูกค้า) และ Tmall (ซึ่งเป็นธุรกิจกับที่นำเสนอสินค้าให้กับลูกค้า) .

นอกจากนี้ Alibaba ยังดำเนินการในธุรกิจ AI อีกทั้งยังดำเนินการเพื่อขยายกิจการเข้าสู่อุตสาหกรรมสื่ออีกด้วย Alibaba มีมูลค่าตลาดที่ประมาณ 224 พันล้านดอลลาร์ โดยมีรายได้โดยรวมจากการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 134 พันล้านดอลลาร์

3. JD.com (JD)

JD.com หนึ่งในคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Alibaba ที่นำเสนอแพลตฟอร์มการค้าปลีกออนไลน์แบบธุรกิจกับลูกค้า นอกจากนี้ JD.com ยังที่ถือหุ้น Tencent ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโฮลดิ้งด้านเทคโนโลยีและความบันเทิงข้ามชาติของจีนอีกถึง 20% ทำให้ JD.com มีมูลค่าตลาดประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในปี 2022 นั้น JD.com สามารถสร้างรายได้ประมาณ 150 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ JD.com ยังลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีการจัดส่งขั้นสูงโดยใช้โดรนและระบบ AI ซึ่งกำลังทดลองอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายในการสร้างระบบการจัดส่งที่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์จากคลังสินค้าไปยังลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ

4. Weibo (WB)

Weibo เป็นคำภาษาจีนที่แปลว่า 'ไมโครบล็อก' ซึ่งแพลตฟอร์ม Weibo จะคล้ายคลึงกับ Twitter ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถโพสต์ภาพ วิดีโอ หรือข้อความสั้นๆ พร้อมข้อจำกัดในจำนวนอักษรลงบนสื่อออนไลน์

ซึ่ง Weibo มีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านรายต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน บริษัทเข้าสู่สาธารณะใน NASDAQ ในปี 2000 แต่มีแผนที่จะออกสู่ตลาดเอกชน โดยอ้างถึงความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และจีน

Weibo เป็นเจ้าของโดย Sina Corporation ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีของจีนที่ดำเนินการ Sina Mobile, Sina Online และ Sinanet Sina Weibo ซึ่งสามารถดึงดูดเนื้อหาไมโครบล็อกรายวันมากกว่า 50% ในประเทศจีน ปัจจุบัน Weibo มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์

5. NIO (NIO)

Nio Incorporated บริษัทเปิดตัวแบรนด์ในปี 2016 และสามารถระดมทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์อีกทั้งยังมี Tencent เข้ามาถือหุ้นด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่า Nio คือผู้ผลิตรถยนต์ข้ามชาติของจีน ซึ่งผลิตทั้งรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถพัฒนาระบบสลับแบตเตอรี่ เพื่อใช้เป็นทางเลือกแทนสถานีชาร์จทั่วไป 

Nio มีมูลค่าตลาดประมาณ 18 พันล้านดอลลาร์ และสามารถสร้างรายได้ประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 แม้ว่า Nio จะล้มเหลวในการส่งมอบรถยนต์ EV แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Nio มีการเติบโตและยอดขายที่แข็งแกร่ง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2022 บริษัทได้นำรถยนต์ไฟฟ้าคันที่ 300,000 ออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการ

ซื้อหุ้นจีน - ข้อดีข้อเสียของการลงทุนหุ้นจีน

ในด้านข้อได้เปรียบ จีนเป็นตัวแทนของตลาดที่มีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน ซึ่งกำลังมุ่งสู่อิสรภาพทางการเงินมากขึ้น และในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า จีนก็จะพัฒนาชนชั้นกลางซึ่งเป็นฐานผู้บริโภคที่น่าดึงดูดในหลายบริษัท

ในแง่ของข้อเสียของการซื้อหุ้นจีนนั้น อาจเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นของตลาด จากกฎหมาย วัฒนธรรม และสังคมจีนที่ถูกปกครองโดยพรรคเดียวคือพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ตลาดจีนขึ้นอยู่กับนโยบายของ CCP ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หุ้นจีนมีความผันผวนในระดับที่สูง นอกจากนี้รัฐบาลจีนก็ยังคงลงทุนในการพัฒนาดิจิทัลเป็นอย่างมาก แม้ว่าบริษัทจีนอีกหลายแห่งจะอยู่ในระดับแนวหน้าของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เช่น ใน AI การประมวลผลแบบคลาวด์ และการจัดส่งพัสดุผ่านโดรนอัตโนมัติ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหุ้นจีน

บทความอื่นๆ ที่คุณสนใจ

• ตลาดหลักทรัพย์ในทุกเรื่องที่คุณควรรู้!
• ส่องบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกก่อนเริ่มลงทุน!
• ตลาดหุ้นเอเชีย: รู้จักและเข้าใจก่อนเริ่มต้นเทรดอย่างมืออาชีพ!

รู้จักกับ Admirals

Admirals โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย และได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลกกว่า เช่น FCA, CySEC, ASIC, IIROC, EFSA, JSC เป็นต้น โดย Admirals ให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MT4 และ MT5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

ข้อมูลเกี่ยวกับบทความ/สื่อที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์:

บทความหรือสื่อที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทั้งหมด ทั้งการประมาณการ การคาดการณ์ การทบทวนตลาด มุมมองรายสัปดาห์ หรือการประเมินหรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน (ต่อไปนี้เรียกว่า "การวิเคราะห์") ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทการลงทุนของ Admirals ที่ดำเนินการภายใต้เครื่องหมายการค้า Admirals (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "Admirals") โปรดทำความเข้าใจในข้อมูลเหล่านี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน

• บทความนี้คือการสื่อสารการตลาด โดยมีเนื้อหาในการเผยแพร่เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นจึงไม่สามารถตีความว่าเป็นคำแนะนำหรือคำแนะนำในการลงทุนได้ อีกทั้งบทความนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใดๆ ในการดำเนินการก่อนการเผยแพร่งานวิจัยด้านการลงทุน
• ลูกค้าแต่ละรายทำการตัดสินใจลงทุนทั้งหมดด้วยตนเอง โดย Admirals จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าจะอิงจากเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
• Admirals ได้กำหนดขั้นตอนภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ด้วยมุมมองที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าและการวิเคราะห์ข้อมูล
• บทความวิเคราะห์นี้ จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ Jitanchandra Solanki ผู้ร่วมให้ข้อมูลอิสระ (ต่อไปนี้เรียกว่า "ผู้เขียน") ตามการประเมินส่วนบุคคล
• เราพยายามเพื่อให้แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดเชื่อถือได้และข้อมูลทั้งหมดที่ถูกนำเสนอนี้เข้าใจง่าย ทันเวลา แม่นยำ และครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ Admirals จะไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ข้อมูลที่มีอยู่ในการวิเคราะห์
• ไม่ควรตีความว่าผลการดำเนินงานของเครื่องมือทางการเงินในอดีตหรือแบบจำลองใดๆ ที่ระบุในเนื้อหาว่าเป็นคำแนะนำโดยชัดแจ้ง โดยปริยาย หรือโดยนัยจาก Admirals สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต มูลค่าของเครื่องมือทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง และไม่รับประกันการรักษามูลค่าของสินทรัพย์
• ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับส่วนต่าง; CFD) เป็นการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนหรือกำไร โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน