ตลาดหุ้นอังกฤษ - รู้จักและเข้าใจใน 10 นาที!

Rakan Rashed
10 นาที

สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนในหุ้นยุโรปคงไม่มีใครไม่รู้จักตลาดหุ้นอังกฤษ ซึ่งมีตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอย่างตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange หรือ LSE) แต่คุณรู้จักตลาดหุ้นแห่งนี้มากแค่ไหน เราขอชวนคุณให้มาพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจไปพร้อมกันที่นี่!

รู้จักตลาดหุ้นอังกฤษ

ตลาดหลักทรัพย์ลอน หรือที่เรานิยมเรียกตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ (London Stock Exchange) เริ่มต้นในปี 1698 ด้วยจุดมุ่งหมายในการเผยแพร่ราคาตลาด แต่ต่อมาในปี 1801 ตลาดหลักทรัพย์ก็เริ่มอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในการซื้อและขายหุ้น และได้กลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเกิดขึ้น

สำนักงานใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์อังกฤษตั้งอยู่ที่ Patternoster Square ในลอนดอน สหราชอาณาจักร มีรายชื่อบริษัทจากกว่า 60 ประเทศ ทำให้เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลกด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3.67 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่บรษัทต่างๆ ทั่วโลกในจำนวนมากที่สุด

หลังจากรวมเข้ากับ Borsa Italiana ในปี 2007 ปัจจุบันตลาดหุ้น ลอนดอนเป็นเจ้าของโดย London Stock Exchange Group โดยมีดัชนีเด่นคือ ดัชนี FTSE 100 ซึ่งประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นลอนดอนที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 100 แห่ง รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันอย่าง BP, ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง HSBC, และยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอย่าง Vodafone เป็นต้น

ประวัติของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ตลาดหลักทรัพย์อังกฤษเริ่มต้นขึ้นในร้านกาแฟในปี 1698 และต่อมาได้พัฒนาเป็นสถาบันการเงินที่มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

  • 1698 - Jonathan's Coffee ที่นี่มีการประกาศราคาสกุลเงิน หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำ เหรียญทองและเงินโบราณ (เช่น เหรียญทองคำ) และอื่นๆ

  • 1777 - อาคารใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกใน Sweeting's Alley (แต่ยังไม่ได้รับการการกำกับดูแล) และถูกเรียกว่า "New Jonathan's" ซึ่งย้ายสำนักงานไปที่อาคารสูงประมาณ 35 ฟุต โดยเริ่มต้นที่ห้องสำนักงานธุรกิจและห้องรับรองกาแฟที่ชั้นหนึ่ง

  • 1801 - รอดพ้นจากสงครามโลก ตลาดหุ้น ลอนดอน ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1801 และอีกหนึ่งปีต่อมาได้ย้ายไปที่อาคารใหม่ถัดจาก Chapel Court House ซึ่งทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้รอดพ้นจากสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง รวมถึงการทิ้งระเบิดของกองทัพสาธารณรัฐไอริช จนกลายเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่คึกคักและมีการซื้อขายมากที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้

  • 1866 - 1880 - การปฏิวัติการสื่อสาร ในปี 1866 ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดขายในลอนดอนด้วยเวลาเพียง 20 นาที จากในอดีตที่ต้องใช้เวลาถึง 16 วัน! จากาการที่ตลาดหลักทรัพย์ได้นำเครื่องโทรเลขมาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร

    หลังจากนั้น 6 ปีต่อมา ก็มีการประดิษฐ์เครื่อง "Ticker Tape" ทำให้สามารถส่งข้อมูลราคาได้แทบจะในทันที และในปี 1880 ก็เริ่มการโทรศัพท์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นลอนดอน

  • 1970 - แสดงราคาแบบเรียลไทม์ การใช้ quote panel ในตลาดหุ้นอังกฤษทำให้โบรกเกอร์สามารถเข้าถึงราคาของตราสารทางการเงินและหลักทรัพย์ชั้นนำกว่า 700 รายการ ได้แบบเรียลไทม์

  • 1984 - เปิดตัว FTSE 100 ดัชนี FTSE 100 เริ่มต้นด้วยความร่วมมือกับ Financial Times โดยการติดตามดัชนีของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

  • 1997- การเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading) เริ่มใช้เทคโนโลยีทางการเงินต่างๆ ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ เช่น การชำระบัญชี (Settlement) และระบบสารสนเทศ (SETS) การดำเนินการซื้อขาย (matching) และคำสั่งเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ

  • 2007 - ควบรวมกิจการกับตลาดหลักทรัพย์หลักอิตาลี (Borsa Italiana) เพื่อจัดตั้งกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน
  • 2019 - เชื่อมต่อกับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ กลไกความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนที่ปฏิวัติวงการนี้ ทำให้บริษัทจดทะเบียนในลอนดอนสามารถออกใบรับฝากเงิน (Chinese Depositary Receipts หรือ CDR) ของจีนในเซี่ยงไฮ้ได้ และในทางกลับกันบริษัทจดทะเบียนในเซี่ยงไฮ้ก็สามารถออกใบรับฝากเงิน (Global Depositary Receipts หรือ GDR) ในลอนดอนได้เช่นกัน

ดัชนีหลักของตลาดหุ้นลอนดอน

ตลาดหุ้นลอนดอนมีของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 2,938 แห่ง และแบ่งออกเป็นกลุ่มตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ดังนี้

  1. FTSE 100 index - ดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งตามมูลค่าตลาดในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน
  2. FTSE 250 Index - ดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในลำดับที่ 101- 350 ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
  3. FTSE 350 Index - ดัชนี 350 คือการรวม FTSE 100 และ FTSE 250 เข้าด้วยกัน
  4. FTSE Small Cap Index - ดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทจากลำดับที่ 351 - 619 ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในตลาดหุ้น ลอนดอน
  5. FTSE All-share Index - ดัชนีนี้คิดเป็นประมาณ 98% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมดัชนี 3 ตัว ได้แก่ ดัชนี FTSE SmallCap ดัชนี FTSE 250 และดัชนี FTSE 100 เข้าด้วยกัน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้น ลอนดอนยังมีกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETFs) จำนวนมากที่สุดซึ่งมากกว่าการแลกเปลี่ยนอื่นๆ ในโลก โดยตลาดหุ้นอังกฤษเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในแง่ของการจัดอันดับ ETF โดยมีทั้งหมด 158 ETF

FTSE 100 - ดัชนีหลักของตลาดหุ้นอังกฤษ

FTSE 100 สร้างขึ้นในปี 1984 ที่ระดับฐาน 1,000 จุด ปัจจุบัน FTSE 100 ซื้อขายที่ 7,043 จุดหรือสูงกว่า (ณ วันที่ 19 เมษายน 2021) ซึ่งเพิ่มขึ้น 700% ซึ่งหมายความว่ามูลค่าตลาดของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่า

โดย FTSE 100 ได้รับการจัดการโดย FTSE Group โดยมีการอัปเดตราคาทุกๆ 15 วินาทีระหว่างเวลาทำการของตลาดหุ้น อังกฤษ คือ ตั้งแต่เวลา 8.00 - 16.30 น. ตามเวลาสหราชอาณาจักร

ดัชนี FTSE100 ของสหราชอาณาจักรมีความคล้ายคลึงกับดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐฯ เช่น S&P 500 และ Dow Jones 30 คือราคาดัชนีกำหนดโดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

  • ดัชนีเพิ่มขึ้น - มูลค่ารวมของบริษัทในดัชนีเพิ่มขึ้น (ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นทั้งหมด) 
  • ดัชนีลดลง - มูลค่ารวมของบริษัทในดัชนีลดลง (ไม่จำเป็นต้องลดลงทั้งหมด)

และวิธีที่ง่ายที่สุดในการติดตามการเคลื่อนไหวของราคา FTSE100 คือเปิดแพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader และใช้อินดิเคเตอร์ในการเช็คจากกราฟราคาย้อนหลัง

ที่มา: Admirals MetaTrader 5 กราฟราคารายเดือนของดัชนี FTSE100 - วันที่: 1 ธันวาคม 2009 - 19 เมษายน 2021 เข้าใช้งานวันที่ 19 เมษายน 2021 หมายเหตุ:ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

การดูกราฟเป็นขั้นตอนแรกสู่การซื้อขายดัชนี และคุณก็สามารถเริ่มดูแผนภูมิ FTSE100 และเริ่มต้นเส้นทางสู่การซื้อขายได้ ด้วยการดาวโหลดแพลตฟอร์มการเทรด ฟรี จาก Admirals 

แพลตฟอร์มที่มีสินทรัพย์ให้ลงทุนอย่างหลากหลาย

บริษัทใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษ

นับตั้งแต่เปิดตัว FTSE100 ในปี 1984 ก็บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น ลอนดอนได้เปลี่ยนไปเนื่องจากการเพิ่มขึ้นและลดลงของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดและการควบรวมกิจการ ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ คือ ตลาดหุ้นอังกฤษไม่เพียงแสดงรายการหุ้นของอังกฤษเท่านั้น แต่ยังประกอบด้วยบริษัทต่างชาติจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก (ซึ่งบริษัทต่างชาติจำนวนมากนั้นสร้างรายได้ส่วนใหญ่ในต่างประเทศ)

ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2023 บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 10 แห่งใน FTSE 100 ตามมูลค่าตลาดมีดังนี้

ที่มา: londongstockexchange.com

สิ่งที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นลอนดอนและหุ้นอังกฤษ

มีปัจจัยหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด LSE และ FTSE100 แต่มี 2 ปัจจัยหลัก คือ เศรษฐกิจและการเมือง

ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต ตลาดหุ้นมักจะขยับสูงขึ้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มักจะแปรไปสู่การจ้างงานที่สูงขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงขึ้น และผลกำไรที่มากขึ้นสำหรับบริษัท หากบริษัทเริ่มทำกำไรได้มากขึ้น นักลงทุนมักจะซื้อหุ้นเพิ่มในบริษัทเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยผลักดันหุ้นของตนและตลาดหุ้นโดยทั่วไปให้สูงขึ้น

ดังนั้น นักลงทุนจึงควรให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น

  • เงินเฟ้อ
  • ตัวเลขการจ้างงาน
  • นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
  • ยอดค้าปลีกและตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค
  • การเคลื่อนไหวของสกุลเงินและอื่นๆ

คุณสามารถดูปฏิทินที่แสดงประกาศข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรทั้งหมดได้ที่หน้าปฏิทินเศรษฐกิจของ Admirals ทั้งนี้ อาจเป็นเรื่องยากที่จะเทรดตามข่าวและประกาศทางเศรษฐกิจที่ผันผวนสำหรับเทรดเดอร์บางราย ทำให้การเข้าถึงผลิตภัณฑ์การซื้อขายที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างเช่น Admirals เสนอบัญชีซื้อขาย CFD ที่เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้จากตลาดทั้งขาขึ้นและขาลง

สิทธิประโยชน์อื่นๆ จาดบัญชี Admirals:

  • เปิดบัญชีการลงทุนที่คุณสามารถซื้อหุ้นในบริษัทจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก 15 แห่งและรับข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ได้ฟรี

  • เปิดบัญชีซื้อขาย CFD ต่างๆ เช่น Trade.MT4 หรือ Trade.MT5 เพื่อซื้อและขายในตลาดและทำกำไรจากตลาดที่เพิ่มขึ้นและลดลง โดยใช้เลเวอเรจ

  • เข้าถึงหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก MetaTrader สำหรับเว็บ ระบบปฏิบัติการ Windows, Mac, iOS และ Android

  • ซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้นและดัชนีของสหราชอาณาจักร และดัชนีหุ้นทั่วโลกอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้คุณยังสามารถเปิดบัญชีทดลองเทรดฟรี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงด้วยเงินเสมือน จนกว่าจะพร้อมสำหรับบัญชีซื้อขายจริง หากต้องการเปิดบัญชีทดลองเทรดฟรี เพียงคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

บัญชีทดลองเทรด

ฝึกฝนการเทรดในตลาดจริงด้วยเงินจำลอง หรือ Demo Account เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการฝึกเทรดได้อย่างอิสระ มีระบบคำนวณกำไร-ขาดทุนแบบอัตโนมัติให้ศึกษา

ซื้อขายดัชนี FTSE100 และหุ้นอังกฤษรายตัวทำอย่างไร ?

หลังจากเปิดบัญชีซื้อขายจริงหรือบัญชีทดลองเทรดและดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มคิดเกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ ราคาหุ้น FTSE100 และอื่นๆ หากต้องการเปิดตำแหน่งซื้อหรือขายในตราสารทางการเงินที่คุณเลือกในดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษ สามารถดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

  1. เปิด MetaTrader ค้นหาสัญลักษณ์ที่ต้องการจาก Market Watch แล้วลากไปยังกราฟ
  2. คลิกขวาที่กราฟ
  3. เลือก "Trading"
  4. เลือก "New Order" หรือกด F9

ตั๋วซื้อขายจะเปิดขึ้น จากนั้นก็สามารถป้อนราคาเข้า stop loss ทำกำไร และขนาดธุรกรรม (ล็อต)

รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MT 4 และ MT5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

TOP ARTICLES
ลงทุนในหลักทรัพย์ สร้างพอร์ตลงทุน อย่างไร?
สร้างพอร์ตลงทุน นับเป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนจำเป็นคำนึงถึงมีในการลงทุนในหลักทรัพย์ หากยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร คำตอบของคุณอยู่ที่นี่ส่องเทคนิคการลงทุนของ Warren Buffett Warren นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสุดสุด ! ทุกเรื่องที่ควรรู้ในการสร้างพอร์ตลงทุน สร้างพอร์ตเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ง่ายๆ ใน...
ลงทุนอะไรดี ในปี 2024 วางแผนการลงทุนอย่างเหมาะสม เริ่มต้นที่นี่!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การลงทุนอาจเป็นส่วนสำคัญในแผนการสำหรับอนาคตทางการเงินในระยะยาว เราจึงขอชวนคุณมาเตรียมให้พร้อมสำหรับการลงทุนในปีนี้ ไปพร้อมกับแนวคิดการลงทุนที่ดีที่สุดในปี 2024 ที่จะนำคุณไปส่องแนวคิดการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมวิธีเริ่มลงทุนด้วยค่าคอมมิชชั่นเบาๆ รวมทั้งการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ร...
หุ้นโค้กทางเลือกของคนอยากมี Passive Income ?
ส่องหุ้นโค้ก ในปี 2023 บริษัทน้ำอัดลมชั้นนำที่นอกจากผลตอบแทนที่โดดเด่นแล้ว ยังมาพร้อมกับการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องตลอดหลาย 10 ปี ด้วยมูลค่าที่สูงขึ้นในทุกๆ ครั้ง แล้วคุณมีหุ้นตัวนี้ในพอร์ตแล้วหรือยัง ? หากจะกล่าวว่า โคคา โคล่า (Coca Cola) หรือที่เราเรียกกันว่าโค้ก (Coke) คือหนึ่งในแบ...
ดูทั้งหมด