ลงทุนในหลักทรัพย์ สร้างพอร์ตลงทุน อย่างไร?

สร้างพอร์ตลงทุน นับเป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนจำเป็นคำนึงถึงมีในการลงทุนในหลักทรัพย์ หากยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร คำตอบของคุณอยู่ที่นี่ส่องเทคนิคการลงทุนของ Warren Buffett Warren นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสุดสุด !

สร้างพอร์ตเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน

เริ่มต้นสร้างพอร์ตกับ Admirals โบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจาก FCA 

1. เปิดบัญชี Invest.MT5 ที่จะช่วยให้คุณสามารถดำเนินการการลงทุนหุ้นและ ETF จาก 15 ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง €1!

2. ฝากเงินลงทุนครั้งแรก ไม่มีฝากขั้นต่ำ ไม่มีค่าคอมมิชชันจากการโอนเงินผ่านธนาคาร นอกจากนี้ยังสามารถฝากเงินโดยไม่มีค่าคอมมิชชันโดยโดยใช้บัตรเครดิต (Visa หรือ Mastercard) รวมทั้งการฝากทาง PayPal, Klarna, iDEAL อีกด้วย!

3. คลิกที่เทรดในแดชบอร์ดของ Admirals เพื่อเปิดแพลตฟอร์มการซื้อขายบนเว็บไซต์ เพื่อเลือกการลงทุนที่ต้องการ จากตรงนี้ก็สามารถเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ มากกว่า 3,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นการดูกราฟราคาแบบเรียลไทม์หรือเลือกลงทุนโดยตรงจากกราฟได้ทันที!

อีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ของบัญชี Admirals Invest.MT5 คือ สามารถสร้างพอร์ตลงทุนด้วยค่าคอมมิชชั่นเบาๆ เริ่มต้นเพียง $0.01 ต่อหุ้นในหุ้นสหรัฐฯ เริ่มต้นการลงทุนในหลักทรัพย์ สร้างพอร์ตการลงทุน และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณวันนี้ คลิกเลยที่แบนเนอร์ด้านล่าง!

 

พอร์ตการลงทุน คือ ?

"พอร์ตการลงทุน" หมายถึง สินทรัพย์ที่เป็นของนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น พันธบัตร สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งเงินสด นอกจากนี้ ยังมีพอร์ตการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ พอร์ตการลงทุนรถยนต์โบราณ และอื่นๆ เป้าหมายของพอร์ตการลงทุน คือ สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยเฉพาะในครั้งแรก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันคือการทำกำไรที่สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งในบทความนี้ เราจะพูดถึงเทคนิคพอร์ตการลงทุนที่สามารถเริ่มต้นได้ทันที!

สร้างพอร์ตการลงทุนที่ดีที่สุดอย่างไร?

ในการการลงทุนในหลักทรัพย์ เริ่มต้นจากการเปิดพอร์ตหรือสร้างพอร์ตลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตการลงทุนหลากหลายประเภทที่นักลงทุนเลือกใช้

ซึ่งนักลงทุนบางท่านอาจจะใช้กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง เพื่อไม่ให้พอร์ตเอนเอียงไปกับสินทรัพย์เพียงอย่างเดียว โดยนักลงทุนสามารถเลือกเปอร์เซ็นต์ในพอร์ตการลงทุน เพื่อจัดสรรเงินทุนที่เหมาะสม 

นอกจากนี้ หลายท่านยังเลือกพอร์ตการลงทุนสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ตามอายุ กล่าวได้ว่าทฤษฎีการจัดการพอร์ตในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะจัดสรรพอร์ตไปยังหุ้นในสัดส่วนที่สูงกว่าตอนที่นักลงทุนยังอายุน้อย นอกจากนี้ยังมีเปอร์เซ็นต์การลงทุนที่สูงขึ้นเมื่อใกล้จะเกษียณ

พอร์ตการลงทุนในการลงทุนในหลักทรัพย์

พอร์ตการลงทุนสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้

1. การจัดพอร์ตการลงทุนแบบลงทุนเงินปันผล 

เงินปันผล คือ การจ่ายจากบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุน ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนนี้หรือเงินปันผลนี้จะเป็นการให้แทนส่วนแบ่งในผลกำไรที่บริษัททำได้ โดยปกติแล้วจะจ่ายเป็นรายไตรมาสและส่วนใหญ่จะเป็นเงินปันผล

เมื่อสร้างพอร์ตลงทุน นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะลงทุนในหุ้นปันผล ที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนหรือเงินปันผลสูง ซึ่งคำนวณโดยการหารเงินปันผลประจำปีด้วยราคาหุ้น

เช่น หากบริษัท ABC จ่ายเงินปันผลรายไตรมาสที่ 3 ดอลลาร์ต่อหุ้น การจ่ายเงินปันผลประจำปีจะเท่ากับ 12 ดอลลาร์ (3 x 4 ไตรมาส) หากราคาหุ้นซื้อขายที่ 300 ดอลลาร์ เงินปันผลประจำปีจะเท่ากับ 4% (12 ดอลลาร์ / 300 ดอลลาร์) ดังนั้น ผลตอบแทนจากการลงทุน (จากเงินปันผลประจำปี) จะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวนั่นเอง

2. การจัดพอร์ตการลงทุนแบบลงทุน DRIP 

การลงทุน DRIP คือ แผนการลงทุนซ้ำเงินปันผล แนวคิดนี้มีไว้สำหรับนักลงทุนที่การลงทุนด้วยเงินดอลลาร์แทนจำนวนหุ้น โดยนักลงทุนต้องตัดสินใจว่าจะสามารถลงทุนได้กี่ดอลลาร์ (หรือสกุลเงินอื่น) เป็นประจำทุกเดือน

โดยการลงทุนจำนวนเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอในทุกๆ เดือนตลอดทั้งปี นักลงทุนจะสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำและในบางครั้งก็ราคาสูง ซึ่งจะเป็นการเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนนั่นเอง

กุญแจสำคัญของการลงทุน DRIP คือการซื้อในจำนวนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อนำการจ่ายเงินปันผลไปลงทุนใหม่ด้วย เป็นเทคนิคที่ใช้จัดการกับอารมณ์ในการลงทุน นอกจากนี้ยังช่วยให้ไม่ต้องติดตามเวลาตลาดอีกด้วย

3. การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Factor

ทฤษฎีพอร์ตแบบ Factor นี้ คือแนวทางการลงทุนในหลักทรัพย์ที่เน้นการลงทุนหุ้นหรือ ETF
ที่เกี่ยงข้องกับปัจจัย หรือ Factor ที่ขับเคลื่อนผลตอบแทนโดยตรง ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics Factor) และ Style Factor 

• ปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics Factor) คือการวิเคราะห์ภาพรวมต่างๆ ทางเศรษฐกิจ เช่น วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle), อัตราดอกเบี้ย, การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk), และเงินเฟ้อ เป็นต้น
• สไตล์ แฟคเตอร์ (Style Factor) คือการวิเคราะห์สินทรัพย์แต่ละรายการ เช่น ความผันผวน ขนาด ความมั่นคงทางการเงิน และการลดราคาที่สัมพันธ์กับปัจจัยพื้นฐาน (หรือที่เรียกว่าการสร้างพอร์ตการลงทุนที่คุ้มค่า)

จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคของการล็อคดาวน์ ทำให้การระบาดใหญ่นี้เกิดเป็นนิวนอร์มัลที่มีความต้องการหุ้นเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อการทำงานและที่บ้านมากขึ้น

การผสมผสานสไตล์และปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์มหภาคเข้าด้วยกัน อาจเป็นการผสมผสานที่มีประสิทธิภาพ โดยในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ นักลงทุนอาจไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนเทคโนโลยีในวงกว้างโดยใช้ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค แต่ยังอาจวิเคราะห์รายงานของบริษัทเพื่อค้นหาบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่ดีด้วย

4. การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Coffee Can Portfolio

กลยุทธ์พอร์ตแบบ Coffee Can ชื่ออาจดูแปลกๆ แต่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยชื่อนี้อ้างอิงย้อนไปถึงอเมริกาในสมัยโบราณที่ผู้คนจะสะสมสิ่งของทั้งหมดของตนลงในกระป๋องกาแฟใต้ที่นอน และทิ้งไว้เป็นเวลานานมาก

ในตลาดการเงิน นักลงทุนบางหลายรายเลือกที่จะ "ซื้อแล้วลืม" ซึ่งอาจเรื่องปกติที่นักลงทุน
มือใหม่จะกระตือรือร้นในการลงทุนมาก จนอาจทำให้เกิดการแกว่งของตลาดจากการซื้อและขายในระยะสั้น

โดยทฤษฎีพอร์ต Coffee Can นี้ จะเป็นการเลือกซื้อหุ้นคุณภาพสูง และปล่อยไว้เป็นเวลานาน กว่า 10 ปี ซึ่งคล้ายกับวิธีการของ Warren Buffett นั่นเอง

5. กลยุทธ์พอร์ต 90/10 ของ Warren Buffett

ในปี 2013 Warren Buffett นักลงทุนในตำนานได้แนะนำแผนการการจัดการการลงทุนในกองทรัสต์ของภรรยาของเขา โดยในแผนนี้ เขาแนะนำพอร์ตการลงทุน 90/10 ซึ่ง 90% ควรลงทุนในกองทุนติดตาม S&P 500 ต้นทุนต่ำ และ 10% ในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น

ด้วยพื้นฐานของพอร์ตนี้จะต้องลงทุนในภาคหุ้นที่หลากหลาย ซึ่งบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 500 แห่งในดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 มีให้ โดย Warren Buffett ก็ถูกใจ Vanguard S&P 500 ETF เป็นพิเศษ สามารถตรวจสอบผลการดำเนินงานของกองทุนนี้ตั้งแต่ปี 2016 ดังนี้

คุณสามารถลงทุนในกองทุนนี้ผ่านบัญชี Admirals Invest.MT5 เพื่อสร้างพอร์ตสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ที่สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อันเป็นสิ่งสำคัญในการกระจายความเสี่ยง 

เมื่อเปิดบัญชีฟรีกับ Admirals แล้ว คุณสามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard เพื่อเข้าถึงการลงทุนต่างๆ ของคุณ (บัญชีจริงหรือบัญชีทดลองเทรด) รวมทั้งเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดแบบพรีเมียมอีกด้วย

เมื่อคลิกที่ซื้อขายในบัญชี ระบบจะนำไปยังแพลตฟอร์มการซื้อขายทางเว็บไซต์ หลังจากนั้นก็สามารถค้นหา Vanguard S&P 500 ETF จากช่องค้นหาที่ด้านล่างของหน้าต่าง Market Watch และดูกราฟราคาแบบเรียลไทม์และเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายเพียงไม่กี่คลิก

สรุปแนวคิดในการจัดพอร์ตลงทุนในหลักทรัพย์

กลยุทธ์ข้างต้นคือการสร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาว ซึ่งวิธีการที่เลือกใช้อาจต้องมีการลองผิดลองถูกก่อน โดยคุณสามารถเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลองของ Invest.MT5 ที่สามารถทดสอบคุณสมบัติและบริการทั้งหมดจาก Admirals อีกทั้งเพื่อทดสอบทฤษฎีและแนวคิดของคุณในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงจนกว่าจะพร้อมที่จะใช้ลงทุนในจริง!

หากพร้อมที่จะเริ่มใช้งานจริงในตอนนี้ คุณสามารถเปิดบัญชี Invest.MT5 ได้ด้วยเงินเพียง €1 (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น) ด้วยค่าคอมมิชชั่นต่ำเพียง $0.01 ต่อหุ้นสำหรับหุ้นสหรัฐฯ ในตลาดหุ้นอเมริกา นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงเครื่องมือการซื้อขายขั้นสูงและบริการวิเคราะห์ได้อีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยในการสร้างพอร์ตลงทุน

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

• ค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นและค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ คืออะไร ?
• โบรกเกอร์ Forex เลือกแบบไหน โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือเป็นอย่างไร ?
• หลักการสร้างแผนการเทรด Forex ในเบื้องต้น

About Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ ที่นำเสนอการลงทุนใน Forex และ CFD ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MT4 และ MT5 สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

ข้อมูลเกี่ยวกับบทความ/สื่อที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์:

บทความหรือสื่อที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทั้งหมด ทั้งการประมาณการ การคาดการณ์ การทบทวนตลาด มุมมองรายสัปดาห์ หรือการประเมินหรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน (ต่อไปนี้เรียกว่า "การวิเคราะห์") ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทการลงทุนของ Admirals ที่ดำเนินการภายใต้เครื่องหมายการค้า Admirals (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "Admirals") โปรดทำความเข้าใจในข้อมูลเหล่านี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน:

• บทความนี้คือการสื่อสารการตลาด โดยมีเนื้อหาในการเผยแพร่เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น
  จึงไม่สามารถตีความว่าเป็นคำแนะนำหรือคำแนะนำในการลงทุนได้ อีกทั้งบทความนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นตาม
  ข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใดๆ ในการดำเนินการก่อนการเผยแพร่งานวิจัยด้านการลงทุน
• ลูกค้าแต่ละรายทำการตัดสินใจลงทุนทั้งหมดด้วยตนเอง โดย Admirals จะไม่รับผิดชอบต่อ
  ความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าจะอิงจากเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
• Admirals ได้กำหนดขั้นตอนภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและการจัดการความขัดแย้ง
  ทางผลประโยชน์ ด้วยมุมมองที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าและการวิเคราะห์ข้อมูล
• บทความวิเคราะห์นี้ จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ Jitanchandra Solanki ผู้ร่วมให้ข้อมูลอิสระ (ต่อไปนี้เรียกว่า "ผู้แต่ง") ตามการประเมินส่วนบุคคล
• เราความพยายามทุกวิถีทางตามสมควร เพื่อให้แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดเชื่อถือได้และข้อมูลทั้งหมด
  ที่ถูกนำเสนอนี้เข้าใจได้ ทันเวลา แม่นยำ และครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Admirals จะ
  ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ข้อมูลที่มีอยู่ในการวิเคราะห์
• ผลการดำเนินงานของเครื่องมือทางการเงินในอดีตหรือแบบจำลองใดๆ ที่ระบุในเนื้อหาไม่ควรตีความว่า
  เป็นสัญญาโดยชัดแจ้ง โดยปริยาย หรือโดยนัย จาก Admirals สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต มูลค่าของเครื่องมือทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง และไม่รับประกันการรักษามูลค่าของสินทรัพย์
• ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับส่วนต่าง; CFD) เป็นการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนหรือกำไร โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน