ส่องหุ้นเด่นพร้อมเคล็ดลับการเลือกสำหรับปี 2024

หลังจากปี 2022 ที่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่ได้พบเห็นมานานหลายปี หากคุณกำลังมองหาหุ้นดีและหุ้นที่น่าสนใจในปี 2024 คุณอาจมาถูกที่แล้ว 

จากการพังทลายของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ก่อให้เกิดประเด็นที่น่าสนใจสำหรับปี 2024

ส่องหุ้นเด่นที่น่าสนใจที่สุดทั่วโลก

รายการหุ้นที่ดีที่สุดที่น่าสนใจซื้อในปี 2024 ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดคืออะไร เพราะเราไม่สามารถทำนายอนาคตได้ แต่ต้องเข้าใจว่าการลงทุนเป็นเรื่องของการชนะและการแพ้ นักลงทุนต้องตั้งเป้าหมายที่จะให้ความน่าจะเป็นอยู่ในธีมการลงทุนและแนวโน้มภายในตลาด และการจัดการความเสี่ยง

ทั้งนี้ การบริหารความเสี่ยงที่ดี และเลือกลงทุนในความเสี่ยงที่รับได้เท่านั้น นอกจากที่สำคัญคือควรรู้จักการสร้างวินัยทางอารมณ์ที่ถูกต้องหากต้องรับมือกับผลการเทรดที่ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังหรือขาดทุน

มาทำความรู้จักกับรายการหุ้นดีที่น่าสนใจจากนักวิเคราะห์และผู้จัดการสถาบันขนาดใหญ่ ดังนี้ 

1. ASML Holdings (ASML) - ชิปจากดัตช์ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังชิปทั่วโลก
2. LVMH (LVMH) - หุ้นแฟชั่นสุดหรูที่สามารถเอาชนะกระแสลมกระทบเศรษฐกิจมหภาคได้
3. UnitedHealth Group (UNH) - บริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ
4. Amazon (AMZN) - หุ้นกลุ่ม Value Stock มูลค่าที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

หุ้นยุโรป - หุ้นอังกฤษ เลือกเทรดหุ้นไหนดี ?

มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อตลาดหุ้นยุโรปในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายจากอัตราเงินเฟ้อ ราคาพลังงาน และภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นจะถูกจับตามองตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีนโนบายและการดำเนินการของธนาคารกลางที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในแนวโน้มของตลาดหุ้นยุโรปและสหราชอาณาจักร

นักวิเคราะห์ของธนาคารเพื่อการลงทุนอย่าง Morgan Stanley เชื่อว่ากำไรจากหุ้นตามวัฏจักร (cyclical stock) อาจลดลงประมาณ 10% และกำลังวางตำแหน่งพอร์ตการลงทุนด้วยหุ้น defensive มากขึ้นสำหรับการเริ่มต้นปี นอกจากนี้ยังมีการยกระดับการแพทย์ สินค้าฟุ่มเฟือย และเทคโนโลยี และที่น่าสนใจ คือ sector เหล่านี้ทำงานได้ดีในช่วงปลายปี 2022 และจะเป็นภาคที่น่าจับตามองตลอดปี 2024

มาดูหุ้นที่มีศักยภาพสำหรับปีนี้กัน

1. ASML Holdings (ASML) - ชิปจากดัตช์ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังชิปทั่วโลก

นักลงทุนกอาจคุ้นเคยกับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชื่อดังอย่าง Intel และ Nvidia แต่ไม่ค่อยมีใครเคยได้ยินชื่อ ASML Holdings บริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ตามที่นักวิเคราะห์เซมิคอนดักเตอร์ของ Bain & Co กล่าวว่า "ASML มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศของเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมด"

ASML Holdings ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 และมีพนักงานมากกว่า 37,500 คน และมีมูลค่าตามราคาตลาดกว่า 220,000 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทเดียวในโลกที่สามารถสร้างเครื่องจักรที่ซับซ้อนซึ่งจำเป็นสำหรับการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดในโลก แต่ละเครื่องมีราคาเกือบ 140 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีส่วนประกอบมากกว่า 100,000 ชิ้น และใช้เครื่องบินจัมโบ้เจ็ตถึง 4 ลำในการขนส่ง

เครื่องจักรของ ASML สามารถสร้างรูปทรงขนาดเล็กบนซิลิกอน ซึ่งเล็กแบบละเอียดถึง 13.5 นาโนเมตร! ซึ่งผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ได้ใช้เครื่องจักร EUV ของ ASML ในการผลิตชิปให้กับ Apple iPhone ซึ่งมีทรานซิสเตอร์มากกว่า 10 พันล้านตัวในแต่ละชิป

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ASML มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากชิปอยู่ในทุกสิ่งในปัจจุบัน จึงอาจมีการเติบโตในระยะยาวมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ก็ต้องต่อสู้กับโรคระบาดด้วยการผลิตที่ลดลงและอุปสงค์ที่ลดลงในปี 2022 หากสถานการณ์เหล่านี้ดีขึ้น จนอาจกลายเป็นหุ้นที่น่าจับตามอง

ด้วยบัญชี Admirals Invest.MT5 ที่จะช่วยให้คุณสามารถลงทุนในหุ้นหลายพันตัวจาก 15 ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คุณสามารถเปิดบัญชีด้วยเงินเพียง 1 ยูโร และลงทุนด้วยค่าธรรมเนียมในหุ้นยุโรปเพียง 0.15% ของมูลค่าการค้าและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมขั้นต่ำเพียง 1 ยูโร

2. LVMH (LVMH) - หุ้นแฟชั่นสุดหรูที่สามารถเอาชนะกระแสลมกระทบเศรษฐกิจมหภาคได้

ในขณะที่ภาคหุ้นจำนวนมากพังทลายลงในปี 2022 บางภาคส่วนสามารถจัดการกับกระแสลมที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยได้ดีขึ้น วึ่งหนึ่งในภาคดังกล่าวคือภาคสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย ในขณะที่ผู้บริโภคที่ร่ำรวยกว่ามีแนวโน้มที่จะถูกกีดกันจากปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่บริษัทสินค้าหรูหราก็ทำการตลาดได้ดี

บริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยที่ใหญ่ที่สุด คือ LVMH (Louis-Vuitton Moet Hennessey) ซึ่งมีฐานงานอยู่ในปารีส และประกอบด้วยแบรนด์ชื่อดังต่างๆ กว่า 75 แบรนด์ เช่น Louis Vuitton, Bulgari, Fendi, Hublot, Tiffany เป็นต้น เนื่องจาก LVMH สร้างรายได้สินค้า 5 ประเภทที่แตกต่างกัน เช่น เสื้อผ้า นาฬิกาและอัญมณี ไวน์และสุรา น้ำหอมและเครื่องสำอาง จึงถือว่ามีรายได้ที่หลากหลาย

กล่าวได้ว่า แฟชั่นที่หรูหรานั้นทำงานได้ดีมากในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ และปัญหาด้านการขนส่งก็ไม่เพียงทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นเท่านั้น แต่การเติบโตของค่าจ้างที่สูงขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ทำให้การซื้อสินค้าแฟชั่นหรูหราเพิ่มขึ้น

แม้ว่ารายได้ของ LVMH จะลดลงในปี 2020 แต่ก็กลับมาฟื้นตัวได้ดีในปี 2021 และกลายเป็นหุ้นเด่นด้วยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น และจนถึงขณะนี้มีผลประกอบการที่ดีในปี 2022 ซึ่งมีการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในทั้ง 5 กลุ่มสินค้า

แม้ว่า LVMH จะถือเป็นหนึ่งในหุ้นน่าซื้อสำหรับการซื้อหุ้นระยะยาว แต่ก็สามารถใช้สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเพื่อการเติบโตของโมเมนตัมได้เช่นกัน ในรูปแบบการลงทุนนี้มีหลากหลายวิธีที่นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นดังกราฟด้านบน

นอกจากนี้ ในการลงทุนแบบดั้งเดิมที่กี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นบริษัท ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง คือ การเก็งกำไรการขึ้นและลงของราคาหุ้นโดยใช้สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD)

ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจ ทำให้สามารถควบคุมโพสิชั่นขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินฝากเพียงเล็กน้อย และยังมีโอกาสทำกำไรจากตลาดที่เพิ่มขึ้นและลดลงอีกด้วย

ด้วยบัญชี Trade.MT5 จาก Admirals ที่คุณสามารถเปิดและซื้อขาย CFD ในหุ้นต่างๆ นับพันจากทั่วทุกมุมโลก

หุ้นอเมริกา - ตลาดหุ้นอเมริกาเลือกเทรดหุ้นไหนดี ?

ในปี 2022 ตลาดหุ้นอเมริกาเข้าสู่ตลาดหมี ด้วยหุ้นและดัชนีหลายตัวที่ตกลงสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่เกิดโรคระบาดในปี 2020 แล้วความเจ็บปวดนี้จะสิ้นสุดลงหรือยัง?จากรายงานของประธานยุทธศาสตร์หุ้นสหรัฐฯ ของ Morgan Stanley ที่แจ้งว่าราคาหุ้นสหรัฐฯ อาจร่วงลงในช่วงต้นปี 2023 เนื่องจากความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่จะฟื้นตัวขึ้นในปลายปีนี้เมื่อผลประกอบการดีขึ้น

นอกจากนี้นักวิเคราะยังมุ่งเน้นไปที่กลุ่มหุ้น defensive เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค และบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ หากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นตลอดทั้งปี หุ้นเทคโนโลยีก็จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) และการลงทุนเพื่อการเติบโตได้ชัดเจนขึ้น

1. UnitedHealth Group (UNH) - บริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ

ในช่วงสิ้นปี 2022 นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ได้ให้น้ำหนักในหุ้นหลักด้านการดูแลสุขภาพและผู้บริโภค แม้ว่าหุ้นด้านการดูแลสุขภาพอาจเป็นเรื่องยุ่งยากเนื่องจากอาจมีความผันผวนอย่างมากขึ้นอยู่กับการทดลองทางคลินิก แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งในการลงทุนในภาคการดูแลสุขภาพ คือ การลงทุนผ่านบริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็คือ UnitedHealth Group นั่นเอง

UnitedHealth Group ก่อตั้งขึ้นในปี 1977 โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 500 พันล้านดอลลาร์ และ (ในขณะที่เขียน) และอัตราเงินปันผลตอบแทน 1.25% จากการจัดทำแผนประกันสุขภาพและบัญชีออมทรัพย์ด้านสุขภาพสำหรับผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และราคาหุ้นในระยะยาวของ UnitedHealth ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสถานการณ์โลกในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหุ้นมีความสามารถในการปรับตัวได้ดี

แต่การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของราคาหุ้นนี้อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เติบโต และหากไม่มีการดึงกลับที่มีนัยสำคัญ หุ้นนี้จะน่าสนใจและเป็นหุ้นน่าลงทุนมากขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ที่อิงตามโมเมนตัม

2. Amazon (AMZN) - หุ้นกลุ่ม Value Stock มูลค่าที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

Amazon เคยเป็นหุ้นดีที่ไม่สามารถทำผิดได้ เนื่องจากเป็นผู้นำในรูปแบบการเติบโตของการลงทุน แต่ในปี 2022 ซึ่งนับเป็นปีที่เลวร้ายสำหรับ Amazon ซึ่งราคาหุ้น Amazon ร่วงลงมากกว่า 50% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคม 2021 ซึ่งการที่หุ้นร่วงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ในปี 2022 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 นักวิเคราะห์หลายคนหันมามองในแง่บวกมากขึ้น

ตามข้อมูลจาก TipRanks ภายในสิ้นปี 2022 ยังมีการจัดอันดับการซื้อหุ้นของหุ้น Amazon 33 รายการ โดยมีการถือครอง 2 รายการ และการไม่มีการขาย และหุ้น Amazon ยังร่วงต่ำกว่าเป้าหมายราคาต่ำสุดของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 103 ดอลลาร์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังชี้ไปที่การลงทุนในบริการ cloud computing อย่าง Amazon Web Services ที่จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่อีคอมเมิร์ซ ซึ่ง ซึ่ง Amazon เป็นผู้เล่นหลักในบริการนี้จึงน่าจะได้รับผลประโยชน์จากบริการที่กำลังเติบโตนี้ได้แบบทวีคูณ 

แม้ว่า Amazon จะถูกขนานนามว่าเป็นหุ้นเติบโต แต่ตอนนี้ก็แสดงลักษณะตามมูลค่าบางอย่าง เช่น ราคาหุ้นในช่วงปลายปี 2022 ถูกประเมินต่ำเกินไป เนื่องจากแผนก Amazon Web Services (ธุรกิจ cloud computing) มีมูลค่ามากกว่ามูลค่ารวมของบริษัท ในเดือนธันวาคม 2022 มูลค่าตลาดของ Amazon อยู่ที่ประมาณ 950 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Amazon Web Services มีมูลค่าประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

และคุณสามารถดูราคาหุ้นได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเข้าถึงเครื่องมือการลงทุนที่ไม่เหมือนใครได้ในแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT5 ที่จัดทำโดย Admirals 

หุ้นดีก็มีข้อดีข้อเสียเหมือนกันนะ

ปี 2022 เป็นปีที่ไม่เหมือนใครในตลาดการเงิน มีนักวิเคราะห์ไม่มากนักที่คาดการณ์เหตุการณ์ในปีนี้ นี่คือเหตุผลที่การสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายโดยเน้นที่การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ การลงทุนไม่มากในตะกร้าหุ้นเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง - กระจายความเสี่ยง - ซึ่งเป็นความเสี่ยงโดยธรรมชาติของการลงทุนในบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ปี 2022 ก็ไม่ได้แย่สำหรับหุ้นทุกตัว อีกทั้งยังมีหุ้นเด่นอีกหลายตัวที่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล ดังนั้น การระบุธีมที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 จึงมีความสำคัญในการช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ และหนึ่งในประเด็นที่ใหญ่ที่สุดของปี 2023 ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากทั่วโลกคาดการณ์ไว้ คือ ผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในตลาดหุ้น 

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ นี่คือเหตุผลที่นักวิเคราะห์หลายคนให้ความสำคัญกับการสร้างพอร์ตหุ้นแนวรับในช่วงต้นปี โดยเน้นที่การย้ายเข้าสู่หุ้นที่มีวัฏจักรมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มชัดเจนขึ้นและเริ่มดีขึ้น

สิ่งที่ควรให้ความสำคัญในการเลือกหุ้นน่าลงทุนในปี 2024 คือ

☑️ การเลือกหุ้นเด่น แต่ละกลุ่ม คือ กลุ่มหุ้นตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่ม defensive เช่น การดูแลสุขภาพ (healthcare) สาธารณูปโภค และภาควัฏจักรต่างๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคและเทคโนโลยี

☑️ การเลือกบริษัทที่น่าจะได้รับประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นซึ่งคาดว่าจะยังคงสูงอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทในภาคพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์

☑️ สร้างรายการหุ้น recession-proof ของตัวเอง

ซึ่งในสถานการณ์เหล่านี้ ก็มีทั้งบริษัทที่จะได้รับประโยชน์และบางบริษัทจะไม่ได้รับประโยชน์ ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดเดาได้แน่นอน 100% ว่าหุ้นตัวใดจะทำได้ดีที่สุดหรือไม่ แต่การทำความเข้าใจธีมของภาพที่ใหญ่ขึ้นสามารถช่วยสร้างความได้เปรียบได้

ทั้งนี้ คุณสามารถติดตามอัปเดตข่าวสารแนวโน้มตลาดล่าสุดพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านซีรีส์การสอนเทรดและการสัมมนาการเทรดออนไลน์ ฟรี จาก Admirals ซึ่งจัดทำโดยเทรดเดอร์มืออาชีพจากทั่วโลก ซึ่งคุณสามารถสมัครหรือตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบนเนอร์ด้านล่าง ได้เลย! 

หุ้นดีเลือกอย่างไร ?

การซื้อหุ้นออนไลน์เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่าย แต่การเลือกหุ้นน่าลงทุนนั้นต้องอาศัยทักษะ การค้นคว้า และการเตรียมตัว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีการรับประกันความสำเร็จ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องมีการบริหารความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของคุณ

เลือกหุ้นเพื่อใช้ในการบริการความเสี่ยง

นักลงทุนมือใหม่มักจะใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว โดยคาดหวังว่าการตัดสินใจในแต่ละครั้งจะได้ผลเสมอ เช่น นักลงทุนอาจมีเงินลงทุน 10,000 ปอนด์ (£) และอาจเลือกที่จะลงทุนหุ้นเพียงตัวเดียว ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีทุนเหลืออยู่ หากมีโอกาสอื่นที่น่าสนใจมาถึง

นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างรวดเร็วแต่ชั่วคราวอาจทำให้นักลงทุนตัดสินใจทางอารมณ์หรือขายหุ้นก่อนกำหนด โดยคำนึงถึงความผันผวนของราคาในระยะสั้นมากกว่าปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของบริษัท

อีกหนึ่งเทคนิคการบริหารความเสี่ยงที่นักลงทุนนิยมใช้ คือ การกระจายการลงทุนไปยังบริษัทประเภทต่างๆ ที่ดำเนินงานใน sector ที่แตกต่างออกไป ซึ่งหาก sector หนึ่งทำผลงานได้ไม่ดี sector อื่นก็อาจทำผลงานได้ดีกว่า ซึ่งช่วยสร้างพอร์ตที่มีความหลากหลายและสมดุลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลผลกระทบของสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

เช่น หากนักลงทุนที่มีเงินลงทุน 10,000 ปอนด์ อาจเลือกลงทุน 2,000 ปอนด์ในบริษัทต่างๆ 5 แห่งตลอดทั้งปี แน่นอนว่าการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรให้ในการวางแผนการเทรดให้เหมาะสมเพื่อการลงทุนที่คุ้มค่าตลอดทั้งปี

เลือกหุ้นจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคกับปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ Sector

☑️ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) การวิเคราะห์นี้ คือ การวิเคราะห์การเงินในบริษัท ซึ่งหมายถึงเมตริกต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพการขาย แนวโน้มรายได้ ระดับหนี้ การประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และอื่นๆ

☑️ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) การวิเคราะห์นี้ คือการวิเคราะห์ราคาซื้อขายในอดีตของบริษัทผ่านกราฟราคา รูปแบบการซื้อขายและตัวบ่งชี้การซื้อขายทางซึ่งเทคนิคมักจะทิ้งร่องรอยว่าใครเป็นกำลังหลักในตลาด (ผู้ซื้อหรือผู้ขาย) รวมทั้งระบุจุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นในราคาหุ้นของบริษัท

☑️ การวิเคราะห์ Sector คือการกระจายความเสี่ยง ซึ่งการมีทางเลือกใน Sector หรือภาคส่วนต่างๆ นี้ สามารถช่วยในการสร้างพอร์ตหุ้นที่หลากหลายและสมดุล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลงทุนในบริษัทจาก Sector ต่างๆ เช่น ธนาคาร สาธารณูปโภค การเงิน พลังงาน การค้าปลีก เป็นต้น

เล่นหุ้นเริ่มต้นง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน

การเทรดหุ้นออนไลน์สามารถทำได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. สร้างบัญชีเทรดหุ้น
2. ดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการลงทุนที่ต้องการ 
3. เปิดตั๋วซื้อขายและทำการซื้อขายครั้งแรกของคุณ!

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ สามารถเริ่มการเทรดหุ้นได้ตามรายละเอียด ดังนี้

1. เปิดบัญชีเทรด Admirals Invest.MT5

คุณสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหหรือบัญชีเทรดหุ้นและการลงทุนออนไลน์กับ Admirals ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เพียงคลิกที่ปุ่มเริ่มการซื้อขาย บนหน้าแรกและกรอกข้อมูลส่วนตัวตามมาตรฐานในการเทรด ที่จะได้รับความคุ้มครองตามใบอนุญาตของโบรกเกอร์

หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึง Dashboard และสามารถเปิดบัญชีทดลองเทรดหรือบัญชีซื้อขายจริง เพื่อเริ่มการลงทุน รวมทั้งการฝากและถอนเงิน และเข้าถึงเครื่องมือการลงทุนต่างๆ ได้ทันที!

2. ใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขาย

คุณสามารถเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการจากจากเมนูด้านซ้าย จากหน้าแรกของ Dashboard เพื่อดาวน์โหลดแพลตฟอร์มที่ต้องการ หรือสามารถเลือกใช้ MT5 ที่สามารถใช้ได้ทั้งกับระบบปฎิบัติการ Windows หรือ MacOs หรือจะเลือก MetaTrader WebTrader ได้เช่นกัน ซึ่งคุณสามารถซื้อขายได้โดยตรงจากเบราว์เซอร์ของคุณ จากนั้นก็สามารถดำเนินการตามคำแนะนำของคอมพิวเตอร์เพื่อดาวน์โหลด MT5 ให้เรียบร้อย

3. เริ่มต้นเทรด!

เพื่อเริ่มต้นเทรด สามารถดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

1. ปิดหน้าต่าง Market Watch โดยเลือก View จากเมนูที่ด้านบนของแพลตฟอร์มหรือกด Ctrl+M ซึ่งจะเปิดรายการสัญลักษณ์ที่ซื้อขายได้ทางด้านซ้ายของกราฟ
   
   
2. คลิกขวาที่หน้าต่าง Market Watch และเลือก Symbols หรือกด Ctrl+U 
   
   
3. จากนั้นจะเปิดหน้าต่างที่แสดงด้านล่างซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับตลาดทั้งหมดที่คุณสามารถซื้อขายได้ จากที่นี่ คุณสามารถเพิ่มหุ้นได้หลากหลายในหน้าต่าง Market Watch โดยเลือกหุ้นหรือประเทศที่เกี่ยวข้อง แล้วคลิก "Show Symbol"

หลังจากคลิกปุ่ม OK ในหน้าต่าง Symbols คุณสามารถดูตราสารต่างๆ ในหน้าต่าง Market Watch ได้แล้ว ในการดูกราฟราคาของราคาหุ้นของบริษัท เพียงคลิกซ้าย ที่สัญลักษณ์หุ้นตัวใดตัวหนึ่งในหน้าต่าง Market Watch แล้วลากไปยังกราฟ จากตรงนี้ก็สามารถเปิดตั๋วซื้อขายได้เลย!

1. คลิกขวาที่กราฟ
2. เลือก "Trading"
3. เลือก "New Order" หรือกด F9 บนคีย์บอร์ด
4. ตั๋วซื้อขายจะถูกเปิดขึ้น จากที่นี่คุณสามารถป้อนราคาเข้า stop loss และการ take profit รวมทั้งขนาดการซื้อขายหุ้น (ปริมาณ) ที่ต้องการ

ทำไมต้องเทรดหุ้นออนไลน์กับ Admirals?

สิทธิประโยชน์และเหตุผลที่คุณเทรดหุ้นกับ Admirals

✔️ เทรดสบายใจกับกับบริษัทที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และได้รับใบอนุญาตและกำกับดูแลจากองค์กรระดับโลก เช่น FCA จากสหราชอาณาจักร เป็นต้น

✔️ เข้าถึงซอฟต์แวร์ซื้อขายหุ้นออนไลน์ที่เร็วและเป็นที่นิยมมากที่สุดที่อย่าง MetaTrader ที่รองรับในทุกระบบปฎิบัติการ ทั้ง PC, Mac, เว็บไซต์, Android และ iOS

✔️ เปิดบัญชี Invest.MT5 ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง €1 และลงทุนตั้งแต่ $0.02 ต่อหุ้น โดยมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมขั้นต่ำเพียง $1 สำหรับหุ้นสหรัฐฯ

✔️ เปิดบัญชี Trade.MT5 เพื่อเทรด CFD และมีโอกาสได้กำไรจากตลาดทั้งขาขึ้นและขาลงในขณะที่เทรดด้วยมาร์จิ้น

และหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้น คือ การทดสอบเครื่องมือลงทุนต่างๆ ทั้งในด้านคุณสมบัติ ตราสาร และบริการทั้งหมดจาก Admirals ด้วยตัวคุณเอง

นอกจากนี้ หากยังไม่มั่นใจในการเทรดในบัญชีจริง คุณสามารถทดลองเทรดในสภาวะตลาดจริงได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินลงทุนของคุณ เปิดบัญชีทดลองเทรดได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย ▼▼▼

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

• ลงทุนหุ้นแบบไหนในช่วงเงินเฟ้อ
• 5G คืออะไร ลงทุนซื้อหุ้น 5G ตัวไหนดีในปีนี้!
• Palantir คืออะไร - จะซื้อหุ้น Palantir Technologies ได้อย่างไร?

รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

ข้อมูลเกี่ยวกับบทความ/สื่อที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์:

บทความหรือสื่อที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทั้งหมด ทั้งการประมาณการ การคาดการณ์ การทบทวนตลาด มุมมองรายสัปดาห์ หรือการประเมินหรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน (ต่อไปนี้เรียกว่า "การวิเคราะห์") ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทการลงทุนของ Admirals ที่ดำเนินการภายใต้เครื่องหมายการค้า Admirals (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "Admirals") โปรดทำความเข้าใจในข้อมูลเหล่านี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน

• บทความนี้คือการสื่อสารการตลาด โดยมีเนื้อหาในการเผยแพร่เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น
  จึงไม่สามารถตีความว่าเป็นคำแนะนำหรือคำแนะนำในการลงทุนได้ อีกทั้งบทความนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นตาม
  ข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใดๆ ในการดำเนินการก่อนการเผยแพร่งานวิจัยด้านการลงทุน
• ลูกค้าแต่ละรายทำการตัดสินใจลงทุนทั้งหมดด้วยตนเอง โดย Admirals จะไม่รับผิดชอบต่อ
  ความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าจะอิงจากเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
• Admirals ได้กำหนดขั้นตอนภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและการจัดการความขัดแย้ง
  ทางผลประโยชน์ ด้วยมุมมองที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าและการวิเคราะห์ข้อมูล
• บทความวิเคราะห์นี้ จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ Jitan Solanki ผู้ร่วมให้ข้อมูลอิสระ (ต่อไปนี้เรียกว่า
  "ผู้เขียน") ตามการประเมินส่วนบุคคล
• เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดเชื่อถือได้และข้อมูลทั้งหมดที่ถูกนำเสนอนี้เข้าใจง่าย ทันเวลา แม่นยำ และครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ Admirals จะไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ข้อมูลที่มีอยู่ในการวิเคราะห์
• ไม่ควรตีความว่าผลการดำเนินงานของเครื่องมือทางการเงินในอดีตหรือแบบจำลองใดๆ ที่ระบุในเนื้อหาว่า
  เป็นคำแนะนำโดยชัดแจ้ง โดยปริยาย หรือโดยนัย จาก Admirals สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต มูลค่าของเครื่องมือทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง และไม่รับประกันการรักษามูลค่าของสินทรัพย์
• ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับส่วนต่าง; CFD) เป็นการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนหรือกำไร โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน