กลุ่มอุตสาหกรรม คืออะไร? : วิธีการแบ่ง Sector หุ้นตามมาตรฐาน GICS

Admirals

ความรู้เรื่องการจัดพอร์ตโฟลิโอการลงทุน คือสิ่งที่ทำให้เราได้เปรียบนักลงทุนคนอื่นในตลาด และการจัดพอร์ตโดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนตาม “กลุ่มอุตสาหกรรม” ก็ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แม้แต่ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพยังคงให้ความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้

การแบ่งประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม มักแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน แต่ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการจำแนกกลุ่มอุตสาหกรรมตามมาตรฐานของตลาดหุ้นสากลที่เรียกว่า Global Industry Classification Standard (GICS®) 

กลุ่มอุตสาหกรรม คืออะไร?

กลุ่มอุตสาหกรรม คือ กลุ่มของบริษัทที่ทำธุรกิจในลักษณะเดียวกัน นิยมใช้แบ่งประเภทของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนในเข้าถึงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทต่าง ๆ ของธุรกิจในตลาดหุ้น ซึ่งจะทำให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลก่อนการตัดสินใจทำการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กลุ่มอุตสาหกรรม มีกี่ประเภท?

ปัจจุบันมีวิธีการแบ่งหมวดหมู่ที่แตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะของธุรกิจในแต่ละประเทศ และโปรดเข้าใจว่า การแบ่งอุตสาหกรรมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็แตกต่างจากวิธีการแบ่งประเภทอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นต่างประเทศเช่นกัน เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่มาก เพราะหลาย ๆ ประเทศย่อมมีความชำนาญทางธุรกิจที่แตกต่างกัน จึงไม่ได้มีครบทุกประเภทธุรกิจ

การแบ่งประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมตามมาตรฐาน Global Industry Classification Standard (GICS®) ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่าง MSCI (Morgan Stanley Capital International) และ Standard & Poors

รูปภาพด้านล่างมาจากเว็บไซต์ของ MSCI โดยตรง โดยสามารถแบ่งได้เป็น 11 ภาคเศรษฐกิจ และแตกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ๆ ลงไปอีกถึง 3 ชั้น หมวดใหญ่จะอยู่ด้านบน = Sectors > Industry Groups > Industries > Sub-Industries

รูจัก 11 ภาคเศรษฐกิจหลัก (Sectors)

  1. Energy Sector - กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน
  2. Materials Sector - ภาควัสดุ
  3. Industrials Sector - ภาคอุตสาหกรรม
  4. Consumer Discretionary - สินค้าอุปโภคบริโภค
  5. Consumer Staples - กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าจำเป็น
  6. Health Care - สุขภาพ
  7. Financials - กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน
  8. Information Technology - ภาคเทคโนโลยี
  9. Communications Services - กลุ่มอุตสาหกรรมบริการสื่อสาร
  10. Utilities - สาธารณูปโภค
  11. Real Estate - ภาคอสังหาริมทรัพย์

กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Sector)

กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานประกอบด้วยบริษัทที่ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ (Equipment) และบริการด้านการพลังงานสำรวจ, ผลิตหรือขุดเจาะ (Energy Services) ทั้งในส่วนของน้ำมัน, ก๊าซและเชื้อเพลิงสิ้นเปลืองอื่น ๆ

บริษัทเหล่านี้มักมีรายได้ที่แปรผันต่อราคาน้ำมันดิบเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นต้นทุนสำคัญของธุรกิจ บริษัทที่มีชื่อเสียงในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น

  • #XOM - Exxon Mobil Corp
  • #CVX - Chevron Corp
  • #OKE - ONEOK Inc
  • #SNP - China Petroleum & Chemical Corp
  • #ENB - Enbridge

ซึ่งทั้งหมดนี้ คุณสามารถเทรดหรือซื้อขายหุ้นน้ำมันผ่านโบรกเกอร์ Admirals ได้ โดยโบรกเกอร์จะมีบริการบัญชีเงินจำลองให้ทดลองฝึกจนกว่าจะชำนาญ เปิดบัญชีทดลองได้ฟรีโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ เพียงคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง!

ภาควัสดุ (Materials Sector)

ประกอบด้วยบริษัทที่ผลิตที่ผลิตเคมีภัณฑ์, วัสดุการก่อสร้าง, วัสดุแก้ว, กระดาษ, ผลิตภัณฑ์ผืนป่า และบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องแร่โลหะ ซึ่งรวมไปถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขุดแร่ดังกล่าวด้วย บริษัทที่โดดเด่นในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ เช่น

  • #DDNY : DuPont de Nemours
  • #DOW : Dow Inc
  • #FCX : Freeport-McMoran Inc

ภาคอุตสาหกรรม - (Industrials Sector)

บริษัทที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม ประกอบลงทุนกับสินค้าทุน (Capital Goods) ใช้ทุนดังกล่าวและแรงงานในการผลิตสินค้าและบริการ สินค้าทุนมักเป็นเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ หุ้นในกลุ่ม Industrials จะรวมถึงบริษัทด้านวิศวกรรมการสร้างเครื่องจักรสายการบินและอื่น ๆ ตัวอย่างบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น

  • #BA - Boeing Co.
  • #FDX - FedEx Corp
  • #DAL - Delta Air Lines Inc

สินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary)

ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "ดุลยพินิจของผู้บริโภค" แต่ในตำราเศรษฐกิจไทยแปลคำว่า Consumer Discretionary เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งถือว่าไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด เพราะในอุตสาหกรรมนี้จะเป็นสินค้าที่ "ต้องมีเงินเหลือ" ถึงจะกล้าจับจ่ายใช้สอย เช่น รถยนต์, แฟชั่นการแต่งกาย

แน่นอนว่า รวมถึงร้านอาหารที่มีราคาแพงกว่าปกติ เช่น Starbuck, McDonald's เป็นต้น หุ้นกลุ่มนี้แปรผันตามเศรษฐกิจค่อนข้างมาก

กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าจำเป็น (Consumer Staples)

อย่าได้แปลกใจถ้าอุตสาหกรรมในกลุ่ม "สินค้าจำเป็น" จะมีรายได้และได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนในช่วง Recession Cycle เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต้องซื้อ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ต้องซื้อ หรือจะมองว่าเป็น "ปัจจัย 4" ก็ว่าได้ หุ้นกลุ่มนี้ที่ดัง ๆ มักเป็นหุ้นค้าปลีก เช่น

  • #PG - Procter and Gamble
  • #CL - Colgate-Palmolive Co
  • #HD - Home Depot

กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพ (Health Care)

กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพ คือ หุ้นที่มักเติบโตได้ดีทั้งใน Late Cycle และ Recession บริษัทในกลุ่มนี้ จะรวมทุกอย่างในเรื่อง "หมอๆ" นวัตกรรมการดูแลสุขภาพ, เทคโนโลยีชีวภาพและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และบริษัทยาหรือวัคซีคด้วย ที่กำลังเป็นกระแส เช่น

  • #PFE - Pfizer
  • #MRNA - Moderna
  • #JNJ - Johnson & Johnson

กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน (Financials)

ภาคการเงินจะรวมทั้งหมด ตั้งแต่ธนาคาร, การประกันภัย หรือบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับเงินทุน สินเชื่อ หุ้นกลุ่มนี้มีรายบริษัทที่คุ้นหู เช่น

  • #JPM - JP Morgan Chase and Co.
  • #BAC - Bank of America Corp
  • #GS - Goldman Sachs Group

ภาคเทคโนโลยี (Information Technology)

ต้องเรียกเต็ม ๆ ว่า 'เทคโนโลยีสารสนเทศ' บริษัทในอุตสาหกรรมนี้ จะรวมตั้งแต่ซอฟต์แวร์, บริการซอฟแวร์ประมวลผลต่าง ๆ การให้บริการฮาร์ดแวร์ รวมถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์, ชิบหรือวงจร อีกด้วย บริษัทชื่อดังในกลุ่มนี้

  • #NVDA - Nvidia
  • #MSFT - Microsoft
  • #ORCL - Oracle Corp

กลุ่มอุตสาหกรรมบริการสื่อสาร (Communications Services)

กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ แตกต่างจากภาค 'Information Technology' ตรงที่ กลุ่มนี้จะเน้นบริษัทที่ประยุกต์เอาเทคโนโลยีมาพัฒนาวิธีการสื่อสารของมนุษย์ และจะควบรวมกิจการประเภทโทรคมนาคม และการให้บริการวิดีโอสตรีม หุ้นที่เป็นที่รู้จัก เช่น

  • #NFLX - Netflix
  • #FB - Facebook
  • #T - AT & T

เทรดหุ้น Big Tech กับ Admira Markets

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากคุณเริ่มสนใจที่จะลงทุนในตลาดหุ้นอเมริกาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Nasdaq หรือ Dow Jones เรามีเหตุผลที่ดีมาก ๆ ที่คุณควรเปิดบัญชีเทรดหุ้นกับ Admirals

  • เปิดบัญชีทดลองได้ฟรี
  • และหากต้องการลงทุนในตลาดจริง เงินฝากขั้นต่ำเพียง 25 USD หรือประมาณ 750 บาทเท่านั้น!
  • มีหุ้นมากกว่า 4,000 รายการจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
  • สามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดถึง 1:1000 ทำให้ซื้อขายได้มากกว่าปกติ 1,000 เท่า เหมาะสำหรับการแก้สถานการณ์ต่าง

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี Demo หรือบัญชีจริง คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

ทดลองเทรดหุ้นฟรี!

Utilities - สาธารณูปโภค

ภาคสาธารณูปโภคประกอบด้วย บริษัทที่ดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น สาธารณูปโภคไฟฟ้า, ก๊าซ, ระบบไฟฟ้า, ระบบน้ำ รวมถึงธุรกิจพลังงานหมุนเวียนบางอย่าง ตัวอย่างหุ้นสาธารณูปโภคชื่อดังในอเมริกา เช่น

  • #EXC - Exelon Corp
  • #DUK - Duke Energy
  • #Nee - NextEra Energy

Real Estate - ภาคอสังหาริมทรัพย์

จะรวมทุกบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทที่บริหารกองทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) อีกด้วย กลุ่มนี้มักจะบูมในช่วง Early Cycle และมั่นใจว่าในกลุ่มนี้เราคุ้นหูกันหลายชื่อ

  • #CBG - CBRE Group
  • #EQIX - Equinix Inc
  • #AMT - American Tower Corp

กลยุทธ์การลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม

เมื่อเรารู้จักกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว ในเริ่มต้น เราไม่จำเป็นต้องรู้จักกับหุ้นทุกตัวในอุตสาหกรรมนั้น ๆ แต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือเรื่อง "วัฏจักรของธุรกิจ" ซึ่งมันจะบ่งบอกว่า ช่วงเวลาใด เราควรจะลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใด แล้วเราอาจจะค่อยมาเลือกหุ้นที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมนั้น ๆ วิธีการนี้เป็นการเลือกลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม เป็นลักษณะที่เรียกว่า Top-Down Investing หรือ "มองภาพใหญ่ก่อน"

วัฏจักรของธุรกิจ

วัฏจักรธุรกิจ (Business Cycle) คือ ช่วงเวลาของเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นลำดับ และวนกลับมา "จบที่จุดเริ่มต้น" นิยมวัดจากการขยายและหดตัวของ GDP โดยแบ่งเป็น 4 วงจรดังต่อไปนี้

  1. Early Cycle : "วงจรช่วงต้น" เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากภาวะถดถอย (จากวงจรที่ 4) มักเกิดจาก การที่ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผลลัพธ์คือ "เงินกู้ราคาถูก" หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมาก ทำให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนและดันตัวเลข GDP สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
  2. Mid cycle : ระยะกลางมักเป็นช่วงเวลาของการเติบโตที่ค่อยไปค่อยไป หรือ "เติบโตปานกลาง" และมักเป็นช่วงที่ใช้เวลานานที่สุด ตลาดสินเชื่อขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
  3. Late cycle : "ภาวะรุ่งเรือง" ถือเป็นรอบปลายของวัฏจักรแล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงทำ New High อย่างต่อเนื่อง แต่สัญญาณสำคัญคือจะเติบโตในอัตราเร่งที่ลดลง และเงินเฟ้อจะสูงขึ้นจนเริ่มกระทบกำลังซื้อของผู้คนในระบบเศรษฐกิจ สุดท้าย จุดจบของปาร์ตี้จะมาถึงเมื่อธนาคารกลางตัดสินใจ "ขึ้นดอกเบี้ย" เพิ่มยับยั้บกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรงเกินไป
  4. Recession : ภาวะถดถอย เริ่มต้นจากตลาดสินเชื่อที่ค่อย ๆ หดตัวลงจากนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางที่เข้มงวดมากขึ้น (เพื่อกดเงินเฟ้อ) ซึ่งทำให้การขยายตัวของภาคธุรกิจชะลอตัวลง เพราะไม่มีเงินสินเชื่อราคาถูกเข้ามาช่วยเหมือนวงจรก่อน ๆ ส่งผลให้กำไรของธุรกิจค่อย ๆ หดตัวเช่นกัน ผลลัพธ์คือการว่างเงินและกำลังซื้อที่หายไป

แม้จะดูเหมือนว่า Mid Cycle นั้นเหมาะกับการลงทุนมากที่สุด แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ธุรกิจแต่ละประเภทหรือแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นได้ประโยชน์จากแต่ละ Cycle แตกต่างกันไป บางธุรกิจเติบโตในช่วง Recession เป็นต้น ลองพิจารณาตารางจาก Fidelity ด้านล่างนี้

Disclaimer : รูปภาพที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ ที่ให้บริการโดย Admirals สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

จะเห็นว่า Early Cycle ช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นคืนจากภาวะตกต่ำ ตลาดหุ้นอาจทำผลงานได้มากกว่า 20% ต่อปี ต้องตระหนักว่าช่วงนี้คือ "ช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำ" ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จาก Cycle นี้ จะมีหลายกลุ่มมาก ที่ชัดเจนที่สุด คือ "ธนาคาร" และธุรกิจในกลุ่ม Financials Sector เนื่องจากจะมีต้นทุนดอกเบี้ยถูก บริษัทเหล่านี้จะได้ส่วนต่างดอกเบี้ยที่ดี ขอเพียงศึกษาจากตารางด้านบน จะค่อย ๆ ประติดประต่อแผนการลงทุนด้วยตัวเองได้

ตัวอย่างกองทุน ETF ตามกลุ่มอุตสาหกรรม

ในกรณีที่คุณมีเป้าหมายในการลงทุนแล้วว่า จะเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมไหน แต่ไม่อยากเข้าไปศึกษารายชื่อหุ้นแต่ละบริษัทด้วยบริษัท เราสามารถเลือกวิธีการที่ชาญฉลาดโดยให้มืออาชีพบริหารเงินทุนให้เราผ่านกองทุน ETF โดยเราสามารถเลือก Theme การลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรมได้เลย ตัวอย่างกองทุนที่มีชื่อเสียง

  • กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน
    • #VDE : Vanguard Energy ETF
    • #IXC : iShares Global Energy
  • กลุ่มอุตสาหกรรมบริการสื่อสาร
    • #XLC : Communication Services Select Sector SPDR Fund
    • #IYZ : Shares U.S. Telecommunications ETF

ในโบรกเกอร์ Admirals จะมีกองทุน ETF ให้ซื้อขายจากหลากหลายประเทศ โดยจะเทรดผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 หรือ MT5 ตามภาพด้านล่างนี้ วิธีการดูว่า ETF ที่อ้างอิงตามกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นมีอะไรบ้าง แนะนำให้ค้นหาชื่อ Sector ในโปรแกรม MT5 เช่น "health care" ตามภาพด้านล่างนี้ ทดลองใช้งานโปรแกรม MetaTrader 5 ได้ฟรี คลิกที่นี่

สุดท้ายนี้ หากคุณพร้อมและอยากเริ่มต้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ การเลือกเฉพาะอุตสาหกรรมที่คุณเข้าใจ ก็ถือว่าเป็นหลักการที่เหมาะสมและน่าสนใจมาก ๆ แต่ก่อนอื่นนั้น คุณควรจะแน่ใจก่อนว่า คุณเข้าใจวิธีการใช้งานแพลตฟอร์มการเทรดเป็นอย่างดีแล้วหรือไม่ ซึ่งเราแนะนำให้คุณ เปิดบัญชีเงินจำลองหรือ "Demo Account"

บัญชีดังกล่าวจะจำลองเงินมาให้คุณเทรด แต่จะเทรดในตลาดจริง สภาพแวดล้อมเหมือนจริงทุกประการ คำนวณกำไร-ขาดทุนให้ตามราคาตลาดจริงๆ เพียงแต่เป็นระบบเงินจำลองเท่านั้น บัญชี Demo จึงเป็นเหมือนห้องแล็บสำหรับการเทรด และถ้าพร้อมแล้ว คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่าง

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เกี่ยวกับ Admirals

Admirals เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ชนะรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับ ใบอนุญาตและกำกับดูแลจากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เริ่มเทรดเลยวันนี้

คำปฏิเสธข้อเรียกร้อง (Disclaimer): เอกสารนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำการลงทุน, การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน, ข้อเสนอหรือคำชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน โปรดทราบว่า ในกรณีของการวิเคราะห์การซื้อขายใด ๆ ที่อ้างอิงถึงผลการดำเนินงานหรือสถิติในอดีต พฤติกรรมของข้อมูลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใด ๆ คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงเป็นอย่างดีแล้ว

TOP ARTICLES
ลงทุนในหลักทรัพย์ สร้างพอร์ตลงทุน อย่างไร?
สร้างพอร์ตลงทุน นับเป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนจำเป็นคำนึงถึงมีในการลงทุนในหลักทรัพย์ หากยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร คำตอบของคุณอยู่ที่นี่ส่องเทคนิคการลงทุนของ Warren Buffett Warren นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสุดสุด ! ทุกเรื่องที่ควรรู้ในการสร้างพอร์ตลงทุน สร้างพอร์ตเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ง่ายๆ ใน...
ลงทุนอะไรดี ในปี 2024 วางแผนการลงทุนอย่างเหมาะสม เริ่มต้นที่นี่!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การลงทุนอาจเป็นส่วนสำคัญในแผนการสำหรับอนาคตทางการเงินในระยะยาว เราจึงขอชวนคุณมาเตรียมให้พร้อมสำหรับการลงทุนในปีนี้ ไปพร้อมกับแนวคิดการลงทุนที่ดีที่สุดในปี 2024 ที่จะนำคุณไปส่องแนวคิดการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมวิธีเริ่มลงทุนด้วยค่าคอมมิชชั่นเบาๆ รวมทั้งการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ร...
หุ้นโค้กทางเลือกของคนอยากมี Passive Income ?
ส่องหุ้นโค้ก ในปี 2023 บริษัทน้ำอัดลมชั้นนำที่นอกจากผลตอบแทนที่โดดเด่นแล้ว ยังมาพร้อมกับการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องตลอดหลาย 10 ปี ด้วยมูลค่าที่สูงขึ้นในทุกๆ ครั้ง แล้วคุณมีหุ้นตัวนี้ในพอร์ตแล้วหรือยัง ? หากจะกล่าวว่า โคคา โคล่า (Coca Cola) หรือที่เราเรียกกันว่าโค้ก (Coke) คือหนึ่งในแบ...
ดูทั้งหมด