เทรดหุ้นหรือลงทุนในพันธบัตร - หุ้นกับพันธบัตรต่างกันอย่างไร ?

Roberto Rivero

กล่าวได้ว่าหุ้นและพันธบัตรมักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการลงทุน แม้ว่าทั้งคู่จะมีเป้าหมายอย่างเดียวกันคือเพื่อสร้างผลตอบแทน แต่วิธีการในการลงทุนนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ในบทความนี้ เราจะช่วยให้คุณเข้าใจการลงทุน วิธีคิด แนวทางการเทรดหุ้นและพันธบัตร รวมทั้งข้อแตกต่างในการลงทุนทั้ง 2 ประเภทนี้มากขึ้น เพื่อให้คุณเลือกได้ว่าการเทรดหรือการลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับแผนการเทรดหรือแผนการลงทุนของคุณมากที่สุด 

เทรดหุ้น (Stocks)

การซื้อหุ้นหรือเทรดหุ้นหรือที่เราเรียกกันว่าตราสารทุนนี้ ก็เปรียบได้เหมือนกับการซื้อส่วนหนึ่งของบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น และร่วมเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นๆ

ดังนั้น เมื่อพูดถึงหุ้น ความสำเร็จและผลตอบแทนจากการลงทุนจึงขึ้นอยู่กับความสำเร็จของบริษัท ยิ่งบริษัททำกำไรได้ดีเท่าไหร่ การลงทุนของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าหากผลกำไรลดลงหรือขาดทุนก็จะส่งผลถึงคุณด้วยเช่นกัน 

พันธบัตร (Bonds)

พันธบัตร คือ สิ่งที่เรียกว่าตราสารหนี้ หรือบางครั้งก็เรียกหุ้นกู้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อซื้อพันธบัตร ผู้ซื้อได้ให้กู้ยืมเงินแก่นิติบุคคลที่ออก - ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือรัฐบาล (หากออกโดยรัฐบาลก็จะเรียกว่าพันธบัตรรัฐบาล) โดยการซื้อพันธบัตรนี้จะมีกำหนดชำระคืนที่ชัดเจน พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่คงตัว

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้การเทรดหุ้นและการซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้แตกต่างกันคือ จำนวนเงินที่ได้รับชำระคืน ซึ่งจะได้รับคืนในอัตราที่คงที่ตั้งแต่เริ่มแรก และแน่นอนว่าความสำเร็จในอนาคตของผู้ออกพันธบัตรจะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเลขนี้ ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าซื้อพันธบัตรจะไม่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อต้องพิจารณาในภายหลัง

เข้าร่วมสัมนาออนไลน์กับ Admirals!

หากคุณสนใจศึกษาหาความรู้ในการซื้อขายและการลงทุน การสัมมนาออนไลน์อีกเป็นทางเลือกง่ายๆ ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสัมนาของเราในเซสชั่นต่างๆ ทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ พร้อมให้คุณเรียนรู้แนวคิดการเทรดและเทคนิคการลงทุนต่างๆ จากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จากทั่วโลก และแน่นอนว่าทุกอย่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม! คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ เพื่อตรวจสอบหัวข้อสัมนาที่คุณสนใจ พร้อมลงทะเบียนเข้าร่วมสัมนาได้เลยทันที!

สัมมนาการเทรดออนไลน์ฟรี

เรียนสดกับเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

หุ้นและพันธบัตรต่างกันอย่างไร ?

หลังจากทำความเข้าใจในการเทรดหุ้น (ตราสารทุน) และซื้อพันธบัตร (ตราสารหนี้) กันแล้ว เรามาทำความเข้าใจในข้อแตกต่างของการลงทุนในแต่ละแบบกันต่อจากนี้ 

รายได้ (Income) และกำไรจากหุ้น (Capital Gain) 

แม้ว่าการลงทุนทั้ง 2 แบบจะมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนเช่นเดียวกัน แต่เทรดหุ้นและลงทุนพันธบัตรก็มีรูปแบบการดำเนินการที่แตกต่างกันมาก หรือก็คือการได้รับรายได้จากผลกำไรของการลงทุนและการมีรายได้ประจำ

พันธบัตรสามารถสร้างรายได้ให้กับนักลงทุนโดยการจ่ายดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่าการจ่ายคูปอง (Coupon) อย่างสม่ำเสมอตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นจนกว่าจะครบกำหนด และเมื่อครบกำหนดแล้ว ผู้ออกพันธบัตรก็จะคืนเงินต้นเต็มจำนวนให้กับผู้ซื้อ

ส่วนการเทรดหุ้นนั้น จะเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นด้วยการปันผล จากราคาหุ้นที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ถือหุ้นก็จะได้กำไรจากราคาที่เพิ่มมากขึ้น (หรือที่เรียกว่า Capital Gain) ด้วยเช่นกัน หุ้นจำนวนมากมีการแจกจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นประจำซึ่งจะแตกต่างจากคูปอง หรือในบางครั้งก็ไม่อาจแจกจ่ายเงินปันผลนี้ได้เลยหากไม่สามารถทำกำไรได้ และโดยทั่วไปบริษัทอายุน้อยที่เติบโตอย่างรวดเร็วมักจะไม่จ่ายเงินปันผล (หรือจ่ายให้กับบริษัทที่เล็กกว่า) ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่และเติบโตเต็มที่กว่าจะทำ

เพื่อให้ได้กำไรจากหุ้นหรือเพื่อเก็บเงินปันผล นักลงทุนจำเป็นต้องขายหุ้นในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อมาในตอนแรก ซึ่งจะแตกต่างจากการซื้อพันธบัตรที่มีอัตราผลตอบแทนคงที่ นักลงทุนในตลาดหุ้นจะไม่สามารถทราบอย่างชัดเจนเลยว่าการลงทุนในหุ้นนี้จะสร้างเงินได้เท่าไหร่ ซึ่งในทางทฤษฎีสำหรับหุ้นแล้ว ผลตอบแทนที่เป็นไปได้นั้นเรียกได้ว่าไม่มีขีดจำกัด

หนี้สินรวม (Debt) และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (Equity)

อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า เมื่อซื้อพันธบัตรก็เหมือนคุณกำลังให้รัฐบาลหรือหน่วยงานนั้นๆ กู้ยืมเงิน ซึ่งจะได้รับชำระคืนพร้อมกับดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

พันธบัตร จึงสามารถแทนด้วยคำพูดที่ง่ายๆ ว่า "IOU ที่มาจาก I owe you" ระหว่างนักลงทุนหรือผู้ถือตราสารหนี้ (ผู้ซื้อพันธบัตรหรือผู้ให้กู้) และบริษัทหรือรัฐบาล (ผู้ออกพันธบัตรหรือผู้กู้) ผู้ถือตราสารหนี้หรือหุ้นกู้นี้จะไม่มีอิทธิพลเหนือหน่วยงานที่กู้ยืมเงินหรือส่วนได้เสียใดๆ ในธุรกิจที่ผู้ให้กู้เกี่ยวข้อง หากแต่เป็นเพียงผู้ให้กู้ที่ต้องชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยในระยะเวลาที่กำหนด้เท่านั้น

นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การเทรดหุ้นและการซื้อพันธบัตรแตกต่างกัน การซื้อหุ้นในบริษัทจะเป็นการซื้อหุ้นในบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น และผู้ซื้อจะเป็นเจ้าของร่วม ซึ่งหมายความว่าเป็นการแบ่งปันความสำเร็จหรือความล้มเหลวของบริษัทในอนาคต และผู้ถือหุ้นก็มักจะได้รับสิทธิในการออกเสียงหรือสามารถพูดได้ว่าอยากให้บริษัทดำเนินไปอย่างไร

ความเสี่ยงที่รับได้ (Risk Profile)

นอกจากอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันแล้วคงที่ สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องพิจารณาคือซื้อพันธบัตรกับเทรดหุ้นเป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงแตกต่างกันมาก และด้วยผลตอบแทนที่เป็นไปได้ที่สูงขึ้น หุ้นก็มีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ความเสี่ยงของหุ้น

ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหุ้น คือ หลังจากที่ทำการซื้อแล้ว ราคาหุ้นอาจจะลดลง จากสาเหตุหลักอย่างบริษัทมีผลประกอบการต่ำกว่ามาตรฐานกหรือจากปัจจัยอื่นๆ อย่าง เรื่องอื้อฉาวในบริษัท บริษัทดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นที่นิยม หรือแม้กระทั่งการตกเป็นเหยื่อของกฎระเบียบใหม่ที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น

ความเสี่ยงของพันธบัตร

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการซื้อพันธบัตรจะถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ "ปลอดภัย" แต่สิ่งสำคัญคือพันธบัตรก็มีความเสี่ยงที่จะถูกผิดนัด กล่าวคือ ความเสี่ยงที่ผู้ออกพันธบัตรจะไม่จ่ายดอกเบี้ยที่ตกลงกันหรือเงินต้นนั่นเอง

ซึ่งระดับความเสี่ยงของพันธบัตรนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ออกพันธบัตร หากเป็นพันธบัตรในกลุ่มระดับลงทุน (Investment Grade) ซึ่งจะเป็นออกโดยนิติบุคคลที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็จะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำด้วยเช่นกัน

ในทางกลับกันก็มีพันธบัตรที่มีผลตอบแทนสูง ที่เรียกว่า "Junk Bond" ที่ออกโดยหน่วยงานที่มีอันดับเครดิตต่ำหรือบริษัทที่ประสบปัญหาทางการเงินและมีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดหรือไม่จ่ายดอกเบี้ยหรือชำระคืนเงินต้นให้กับนักลงทุน จึงมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้มากกว่าพันธบัตรที่ออกโดยองค์กรและรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม เมื่อชั่งน้ำหนักความเสี่ยงและผลตอบแทนของพันธบัตรเทียบกับหุ้นแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่ควรพิจารณาคือ หากบริษัทมีการชำระบัญชี ผู้ถือพันธบัตรจะได้รับการจัดลำดับความสำคัญเหนือกว่าผู้ถือหุ้น

เลือกเทรดหุ้นหรือพันธบัตร หรือควรเทรดหุ้นและพันธบัตรไปพร้อมกัน ? 

หากถามว่าลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน ? เราขอตอบตามตรงว่าไม่มีคำตอบที่แท้จริงสำหรับคำถามนี้ เนื่องจากหุ้นและพันธบัตรเป็นเครื่องมือการลงทุนที่แตกต่างกันมาก จึงสามารถนำมาใช้เพื่อการบรรลุเป้าหมายที่แตกต่างกันได้

โดยพันธบัตรอาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีรายได้คงที่ ในขณะที่การเทรดหุ้นอาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มุ่งเป้าไปที่การเติบโต

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะบอกว่าพอร์ตการลงทุนที่ดีนั้น ประกอบด้วยการถือครองหุ้นและลงทุนพันธบัตร กล่าวคือ การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

เทรดหุ้นและซื้อพันธบัตรกับ Admirals

ด้วยบัญชี Invest.MT5 จาก Admirals คุณสามารถลงทุนในหุ้นกว่า 4,300 รายการ จาก 15 ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!

นอกจากนี้ บัญชี Invest.MT5 ยังให้คุณลงทุนในพันธบัตร ETF (กองทุนที่ซื้อขายแลกเปลี่ยน) ได้หลากหลาย พันธบัตร ETF ที่รวบรวมเงินของนักลงทุนเพื่อลงทุนพันธบัตรโดยเฉพาะ ซึ่งหมายความว่าด้วยการลงทุนเพียงครั้งเดียว คุณจะได้ลงทุนพันธบัตรที่หลากหลายในครั้งเดียว 

เทรดหุ้นและลงทุนพันธบัตรกับ Admirals เริ่มต้นง่ายๆ ได้ ดังนี้

  1. ลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานบัญชี Invest.MT5
  2. ดาวน์โหลดและเข้าใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT5
  3. กด Control + U เพื่อเปิดหน้าต่าง Symbols ดังที่แสดงด้านล่าง จากตรงนี้คุณก็สามารถค้นหาหุ้นหรือพันธบัตร ETF ได้ เมื่อพบหุ้นที่ต้องการแล้ว เลือก "Show Symbol" จากนั้นกด "OK"
ภาพจาก: Admirals MetaTrader 5 - สัญลักษณ์ตัวย่อ

4. ค้นหาสัญลักษณ์ใน "Market Watch" จากด้านซ้ายมือของจอ จากนั้นคลิกขวาแล้วเลือก "Chart Window" เพื่อเปิดกราฟราคา
5. เลือก "New Orders หรือคำสั่งซื้อใหม่" จากด้านบนของหน้าจอ เพื่อเปิดหน้าต่างคำสั่ง กรอกจำนวนหุ้นที่ต้องการซื้อ พร้อมตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ที่ต้องการ จากนั้นคลิก "Buy" เพื่อส่งคำสั่งซื้อไปยังตลาด

ภาพจาก: Admirals MetaTrader 5 – กราฟรายวัน Apple Inc. –
New Order ตั้งแต่วันที่ : 15 กรกฎาคม 2020 – 20 กันยายน 2021 วันที่เก็บภาพ: 20 กันยายน 2021
หมายเหตุ: ประสิทธิภาพที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต 

ทำไมต้องลงทุนกับ Admirals? 

นอกจากจะสามารถลงทุนในหุ้นกว่า 4,300 รายการพร้อมด้วย ETF กว่า 300 ตัว จาก 15 ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ใช้บัญชี Invest.MT5 อีกมากมาย ดังนี้

  • เปิดบัญชีด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง €1
  • คอมมิชชั่นการดำเนินการต่ำและไม่มีค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี
  •  ใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายหลายสินทรัพย์อันดับหนึ่งของโลกอย่าง MT5 ฟรี! 
  • สามารถใช้งานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะทางเทคนิคได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเข้าถึงกบทความในคลังความรู้การลงทุนที่หลากหลายและต่อเนื่องได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม!

เปิดบัญชีกับเราฟรีๆ ได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มการซื้อขายได้แล้ววันนี้!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 

TOP ARTICLES
ลงทุนในหลักทรัพย์ สร้างพอร์ตลงทุน อย่างไร?
สร้างพอร์ตลงทุน นับเป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนจำเป็นคำนึงถึงมีในการลงทุนในหลักทรัพย์ หากยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร คำตอบของคุณอยู่ที่นี่ส่องเทคนิคการลงทุนของ Warren Buffett Warren นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสุดสุด ! ทุกเรื่องที่ควรรู้ในการสร้างพอร์ตลงทุน สร้างพอร์ตเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ง่ายๆ ใน...
ลงทุนอะไรดี ในปี 2024 วางแผนการลงทุนอย่างเหมาะสม เริ่มต้นที่นี่!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การลงทุนอาจเป็นส่วนสำคัญในแผนการสำหรับอนาคตทางการเงินในระยะยาว เราจึงขอชวนคุณมาเตรียมให้พร้อมสำหรับการลงทุนในปีนี้ ไปพร้อมกับแนวคิดการลงทุนที่ดีที่สุดในปี 2024 ที่จะนำคุณไปส่องแนวคิดการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมวิธีเริ่มลงทุนด้วยค่าคอมมิชชั่นเบาๆ รวมทั้งการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ร...
หุ้นโค้กทางเลือกของคนอยากมี Passive Income ?
ส่องหุ้นโค้ก ในปี 2023 บริษัทน้ำอัดลมชั้นนำที่นอกจากผลตอบแทนที่โดดเด่นแล้ว ยังมาพร้อมกับการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องตลอดหลาย 10 ปี ด้วยมูลค่าที่สูงขึ้นในทุกๆ ครั้ง แล้วคุณมีหุ้นตัวนี้ในพอร์ตแล้วหรือยัง ? หากจะกล่าวว่า โคคา โคล่า (Coca Cola) หรือที่เราเรียกกันว่าโค้ก (Coke) คือหนึ่งในแบ...
ดูทั้งหมด