อยากลงทุนในหุ้นอังกฤษ ต้องรู้จักบริษัทเหล่านี้

Jitanchandra Solanki Feb 14, 2024 10 นาที

สหราชอาณาจักรหรือที่เราเรียกกันว่าอังกฤษ คือประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก นอกจากนี้ในด้านการลงทุนสหราชอาณาจักรยังเป็นที่ตั้งของบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกมีบริษัทใหญ่ๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange) หรือตลาดหุ้นอังกฤษ ที่ทั้งนักลงทุนและเทรดเดอร์สามารถลงทุนในชหุ้นบลูชิพไปจนถึงหุ้นเพนนี

หากคุณเป็นอีกคนที่สนใจลงทุนในหุ้นอังกฤษ ต้องทำความรู้จักกับเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นอังกฤษเหล่านี้ ซึ่งเราจะนำคุณไปเจาะลึกถึงข้อมูล Market Cap ไปพร้อมกัน !

อย่าลงทุนในหุ้นอังกฤษ ถ้าคุณไม่รู้จักบริษัทเหล่านี้!

อยากลงทุนในหุ้นอังกฤษต้องรู้จักบริษัทเหล่านี้
อยากลงทุนในหุ้นอังกฤษ ทำอย่างไร ?
10 อันดับบริษัทใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นอังกฤษ
ทำไมต้องลงทุนในหุ้นอังกฤษกับ Admirals?

อยากลงทุนในหุ้นอังกฤษต้องรู้จักบริษัทเหล่านี้

	บริษัท	Symbol	Sector	Market Cap (พันล้านยูโร)
1	Shell	SHEL	น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ	£148.74
2	AstraZeneca	AZN	ยา	£132.97
3	HSBC	HSBA	การเงิน	£104.13
4	Unilever	ULVR	สินค้าอุปโภคบริโภค	£93.06
5	Diageo	DGE	เครื่องดื่ม	£81.70
6	GlaxoSmithKline	GSK	ยา	£76.52
7	British American Tobacco	BATS	บุหรี่	£74.05
8	BP	BP.	น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ	£71.33
9	Rio Tinto	RIO	เหมืองแร่	£68.24
10	Glencore	GLEN	เหมืองแร่	£55.69
11	Anglo American	AAL	เหมืองแร่	£48.10
12	Reckitt Benckiser	RKT	สินค้าอุปโภคบริโภค	£43.93
13	RELX	REL	เทคโนโลยีการสื่อสาร	£42.62
14	National Grid	NG.	สาธารณูปโภค	£38.366
15	Vodafone	VOD	โทรคมนาคม	£35.08
16	Lloyds Banking Group	LLOY	การเงิน	£33.06
17	London Stock Exchange	LSEG	การเงิน	£32.30
18	Prudential	PRU	การเงิน	£30.63
19	Barclays	BARC	การเงิน	£30.06
20	Compass Group	CPG	อาหารทางเลือก	£29.15

ที่มา: London Stock Exchange, 27 กุมภาพันธ์ 2022

บริษัทเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของดัชนีตลาดหุ้น FTSE 100 ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามหุ้นที่ใหญ่ที่สุด 100 ตัว ที่จดทะเบียนใน (ตลาดหุ้นอังกฤษ) ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน รู้จักและเข้าใจหุ้นอังกฤษ - FTSE 100 คลิกที่ลิ้งค์ได้เลย

อยากลงทุนในหุ้นอังกฤษ ทำอย่างไร ?

1. เปิดบัญชีเทรด ที่ Admirals มีบัญชีหลากหลายประเภทให้คุณเลือกใช้ เช่น

บัญชี Invest.MT5 เพื่อให้คุณสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่าง หุ้นอังกฤษและรวบรวมการจ่ายเงินปันผลเพื่อโอกาสในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟของคุณ
บัญชี Trade.MT5 เพื่อให้คุณสามารถซื้อขาย CFD (สัญญาสำหรับส่วนต่าง) ในหุ้นอังกฤษ ซึ่งสามารถซื้อขายได้ทั้งระยะสั้นและยาว และเพิ่มโอกาสในการกำไรจากตลาดที่เพิ่มขึ้นและลดลงด้วยเลเวอเรจ (Leverage)
บัญชีทดลองเทรด คุณสามารถเปิดบัญชีทดลองเทรด เพื่อทำการซื้อขายในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง และฝึกฝนทักษะ และทดลองใช้กลยุทธ์การเทรดจนกว่าจะพร้อมลงในจริงในบัญชีจริง!

2. เลือกตราสารที่ต้องการ

เทรด CFD ในหุ้นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร มากกว่า 200 แห่ง
เทรดหุ้นอังกฤษในหุ้นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดกว่า 300 แห่งในสหราชอาณาจักร
เทรดดัชนี FTSE 100 หรือหุ้นอังกฤษ index เพื่อติดตามบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรตามมูลค่าตลาด

3. เริ่มต้นการเทรดได้ตามต้องการ

ที่ Admirals คุณสามารถซื้อขายและลงทุนได้ทันทีบน MT4 หรือ MT5 ที่สามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ทั้งเดสก์ท็อป เว็บไซต์ และมือถือ พร้อมเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ระดับพรีเมียมมากมายได้แบบฟรีๆ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดล่าสุด จากสัมมนาออนไลน์ไปกับเราและเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญที่จัดขึ้นถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์

สัมมนาการเทรดออนไลน์ฟรี

เรียนสดกับเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

ลงทะเบียนฟรี

10 อันดับบริษัทใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นอังกฤษ

1. Shell (SHEL)

Shell ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี 1890 เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก โดยติดอันดับท็อป 10 ของ Fortune 500 Global

เป็นที่รู้จักในชื่อ Royal Dutch Shell เนื่องจากมีต้นกำเนิดมาจากลอนดอนและอัมสเตอร์ดัม อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2022 บริษัทได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ลอนดอน และเปลี่ยนชื่อเป็น Shell PLC

Shell มีพนักงานมากกว่า 86,000 คนทั่วโลก และมีรายได้กว่า 261.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 โดยราคาหุ้น Shell ทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในช่วงการระบาดใหญ่ แต่การฟื้นตัวของราคาน้ำมันก็ทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวมากกว่า 50%

2. AstraZeneca (AZN)

AstraZeneca คือ บริษัทเภสัชกรรมที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน และเป็นหนึ่งในบริษัทยารายใหญ่ที่สุดของโลกที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ เช่น การวิจัยโรคมะเร็ง ประสาทวิทยา โรคระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง

สำนักงานใหญ่ของ AstraZeneca ตั้งอยู่ที่ Cambridge Biomedical ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยด้านสุขภาพและการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดย AstraZeneca จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ในสตอกโฮล์ม และตลาดหุ้นอเมริกา

AstraZeneca มีพนักงานมากกว่า 76,100 คนและมีรายได้ 37.41 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 ในช่วงการระบาดใหญ่ AstraZeneca ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19

3. HSBC (HSBA)

HSBC หนึ่งในธนาคารข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินการในกว่า 60 ประเทศ และให้บริการมากกว่า 40 ล้านบริษัท ก่อตั้งขึ้นในปี 1865 ปัจจุบันเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในยุโรป แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดในฮ่องกง แต่ HSBC ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอนดอน

HSBC ให้บริการใน 3 ส่วน คือ การธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและการตลาดทั่วโลก และด้านความมั่งคั่งและการธนาคารส่วนบุคคล โดย HSBC มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 219,000 คน และมีรายได้กว่า 49.55 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 และมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลถึง 10.8 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ หากคุณสนใจลงทุนในหุ้นธนาคารเพิ่มเติม โดยเฉพาะหุ้นธนาคารสหรัฐฯ สามารถคลิกที่ลิ้งค์ได้เลย!

4. Unilever (ULVR)

Unilever บริษัทสัญชาติอังกฤษ-ดัตช์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1929 โดยให้บริการสินค้าอุปโภคบริโภคและเป็นเจ้าของแบรนด์มากกว่า 400 แบรนด์ อย่าง Hellmann's, Knorr, Lipton, Magnum, Ben and Jerry's, Dove, Persil, Vaseline เป็นต้น ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในครัวเรือนต่างๆ ทั่วโลก ทั้งในด้านอาหาร ของใช้ส่วนตัว และของใช้ในบ้าน

โดย Unilever มีพนักงานมากกว่า 149,000 คนทั่วโลก และมีรายได้กว่า 52.44 พันล้านยูโรในปี 2021 และหุ้น Unilever สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน แต่ยังมีรองรับใน Euronext Amsterdam และเป็นส่วนประกอบของดัชนี FTSE 100 และ AEX 25

5. Diageo (DGE)

Diageo บริษัทเครื่องดื่มระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 โดยเป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นเจ้าของแบรนด์มากกว่า 200 แบรนด์ เช่น Guinness, Bailey’s, Smirnoff, Johnnie Walker และอื่นๆ อีกมากมาย รายได้ส่วนใหญ่มาจากการผลิตสก๊อตและเบียร์

Diageo ถือหุ้น 34% ใน Moet Hennessy ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ LVMH ซึ่งหุ้น Diageo สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนและมีรายการรองในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก นอกจากนี้ Diageo ยังมีรายรับสูงถึง 19.15 พันล้านปอนด์ในปี 2021

6. GlaxoSmithKline (GSK)

GlaxoSmithKline หนึ่งในบริษัทยารายใหญ่ที่สุดของโลก ก่อตั้งในปี 1715 ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทยา 4 แห่งในปี 2000 และได้พัฒนาวัคซีนมาลาเรียขึ้นเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ถูกจัดอยู่ในรายการเป็นยาขององค์การอนามัยโลก

GlaxoSmithKline มีส่วนร่วมในการวิจัย พัฒนา และการผลิตวัคซีนและยารักษาโรค นอกจากนี้มีการสร้างสรรค์สินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่อีกด้วย รายรับในปี 2021 อยู่ที่ 34.11 พันล้านปอนด์ และเช่นเดียวกับหุ้นอังกฤษอื่นๆ ที่สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

7. British American Tobacco (BATS)

British American Tobacco ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 เป็นผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกบุหรี่และยาสูบระดับโลก แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เปลี่ยนไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า แม้ว่าจะมีคนสูบบุหรี่น้อยลง แต่ British American Tobacco ยังคงเป็นผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีรายได้ค่อนข้างคงที่

รายได้ของ British American Tobacco ในปี 2021 อยู่ที่ 25.68 พันล้านปอนด์ และหุ้น British American Tobacco สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบิร์ก และตลาดหลักทรัพย์ไนโรบี

8. BP PLC (BP)

BP เดิมชื่อ The British Petroleum Company ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ดำเนินธุรกิจใน 5 ทวีปและในเกือบ 80 ประเทศ โดย BP ดำเนินการในทุกด้านของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการสำรวจ การสกัด การกลั่น การจัดจำหน่าย การตลาด และการค้าขาย หากสนใจลงทุนในหุ้นน้ำมันเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์ได้เลย!

หุ้น BP สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต กล่าวได้ว่า BP ผลิตน้ำมันได้เกือบ 4 ล้านบาร์เรลต่อวันและมีรายรับที่ 164.19 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021

9. Rio Tinto (RIO)

Rio Tinto บริษัทเหมืองแร่ของแองโกล-ออสเตรเลีย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1873 เป็นบริษัทผู้ผลิตโลหะมีค่ารายใหญ่ที่สุดในโลก เช่น ทอง เหล็ก ทองแดง อลูมิเนียม และเพชร หุ้น Rio Tinto สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ทั้งนี้หากคุณสนใจลงทุนในหุ้นเหมืองทองแดง สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ได้เลย!

หุ้น Rio Tinto เป็นส่วนประกอบของดัชนีตลาดหุ้น FTSE 100 และ S&P/ASX 200 ในขณะที่ Rio Tinto และบริษัทเหมืองแร่อื่นๆ ประสบปัญหาในช่วงการระบาดใหญ่ ราคาหุ้น Rio Tinto กลับพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2021 โดยมีรายได้อยู่ที่ 63.49 พันล้านดอลลาร์

10. Glencore (GLEN)

Glencore ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 ซึ่งก่อตั้งขึ้นผ่านการควบรวมกิจการของ Glencore และ Xstrata ในปี 2013 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและนักการตลาดสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีรายได้ในปี 2021 ที่ 203.75 พันล้านดอลลาร์ โดยดำเนินกิจการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) และเหมืองแร่ แห่งแองโกล-สวิส

โดยในปี 2020 บริษัทมีปริมาณสังกะสีที่ซื้อขายได้ 60% และทองแดงที่ซื้อขายได้ 50% อย่างไรก็ตาม Glencore ได้จัดหาโลหะ แร่ธาตุ น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ หุ้น Glencore สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนและมีรายชื่ออื่นในตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบิร์ก

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ทำไมต้องลงทุนในหุ้นอังกฤษกับ Admirals?

✔️ Admirals คือบริษัทที่มีชื่อเสียงที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และได้รับใบอนุญาตและกำกับดูแลโดย FCA, CySEC, JSC และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ทั่วโลก

✔️ ️ สามารถเปิดบัญชี Invest.MT5 เพื่อลงทุนในหุ้นและ ETF ต่างประเทศ เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนระยะยาวด้วยค่าคอมมิชชั่นเบาๆ พียง 0.1% สำหรับหุ้นในสหราชอาณาจักร และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำเพียง 1 ปอนด์!

✔️ ซื้อขายหุ้นและ CFD กองทุน ETF เพื่อซื้อขายระยะยาวและระยะสั้น และอาจได้กำไรจากการขึ้นและลงของราคาของหุ้นอังกฤษ

✔️ ยกระดับการซื้อขายของคุณ ด้วยส่วนเครื่องมือวิเคราะห์ระดับพรีเมียมที่ทันสมัยรวมทั้งการเข้าถึงอินดิเคเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกทางเทคนิค ซึ่งสามารถค้นหาแนวคิดการซื้อขายที่นำไปปฏิบัติได้จริงสำหรับการลงทุนในหุ้นอังกฤษ และตลาดอื่นๆ อีกหลายพันแห่ง

ลงทุนในหุ้นอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มต้นง่ายๆ ได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ได้เลย! ▼▼▼

ข้อมูลเกี่ยวกับบทความ/สื่อที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์:

บทความหรือสื่อที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทั้งหมด ทั้งการประมาณการ การคาดการณ์ การทบทวนตลาด มุมมองรายสัปดาห์ หรือการประเมินหรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน (ต่อไปนี้เรียกว่า "การวิเคราะห์") ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทการลงทุนของ Admirals ที่ดำเนินการภายใต้เครื่องหมายการค้า Admirals (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "Admirals") โปรดทำความเข้าใจในข้อมูลเหล่านี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความนี้คือการสื่อสารการตลาด โดยมีเนื้อหาในการเผยแพร่เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น
จึงไม่สามารถตีความว่าเป็นคำแนะนำหรือคำแนะนำในการลงทุนได้ อีกทั้งบทความนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นตาม
ข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใดๆ ในการดำเนินการก่อนการเผยแพร่งานวิจัยด้านการลงทุน
ลูกค้าแต่ละรายทำการตัดสินใจลงทุนทั้งหมดด้วยตนเอง โดย Admirals จะไม่รับผิดชอบต่อ
ความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าจะอิงจากเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
Admirals ได้กำหนดขั้นตอนภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและการจัดการความขัดแย้ง
ทางผลประโยชน์ ด้วยมุมมองที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าและการวิเคราะห์ข้อมูล
บทความวิเคราะห์นี้ จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ Jitan Solanki ผู้ร่วมให้ข้อมูลอิสระ (ต่อไปนี้เรียกว่า
"ผู้เขียน") ตามการประเมินส่วนบุคคล
เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดเชื่อถือได้และข้อมูลทั้งหมดที่ถูกนำเสนอนี้เข้าใจง่าย ทันเวลา แม่นยำ และครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ Admirals จะไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ข้อมูลที่มีอยู่ในการวิเคราะห์
ไม่ควรตีความว่าผลการดำเนินงานของเครื่องมือทางการเงินในอดีตหรือแบบจำลองใดๆ ที่ระบุในเนื้อหาว่า
เป็นคำแนะนำโดยชัดแจ้ง โดยปริยาย หรือโดยนัย จาก Admirals สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต มูลค่าของเครื่องมือทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง และไม่รับประกันการรักษามูลค่าของสินทรัพย์
ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับส่วนต่าง; CFD) เป็นการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนหรือกำไร โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน

Jitanchandra เป็นบรรณาธิการสายตลาดการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในการเทรดสกุลเงิน ดัชนีหุ้น และตลาดหุ้นของสหรัฐฯ เขาคือนักวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง และการันตีด้วยปริญญาเกียรตินิยมด้านบริหารธุรกิจ