ลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปได้ไง ถ้าไม่รู้จักดัชนีหุ้นยุโรปเหล่านี้!
ในวันนี้เราจะชวนคุณมาพูดคุณถึงข้อมูลโดยรวมที่น่าสนใจของดัชนีหุ้นยุโรป เช่น CAC40, FTSE100, DAX 40 รวมทั้งดัชนีต่างๆ ในยุโรป ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างพอร์ตลงทุนตลาดหุ้นยุโรปได้หลากหลายอย่างมีความเข้าใจได้ ด้วยบทบาทสำคัญของตลาดหุ้นในการลงทุน ดังนั้น การเรียนรู้และทำความเข้าใจดัชนีหุ้นหลักสำคัญของโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญ อ่านพร้อมกันที่นี่!
รู้จักและเข้าใจดัชนีหุ้นยุโรปต่างๆ
ดัชนีหุ้นคืออะไร?
ดัชนีหุ้นใช้แสดงมูลค่าของกลุ่มหุ้นจากประเทศ ภูมิภาค ภาคส่วนต่างๆ หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยแสดงประสิทธิภาพโดยรวม ปัจจุบัน และในอดีตของดัชนีหุ้นนั้นๆ
Charles Dow สร้างดัชนีหุ้นตัวแรก ในเดือนพฤษภาคม 1896 ซึ่งเป็นการรวมบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 12 บริษัทในสหรัฐฯ และในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ (DJI) ก็เป็นดัชนีที่รวมบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุด 30 บริษัทในสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นทุกแห่งไม่เพียงแต่ในยุโรปเท่านั้นที่มีดัชนีหุ้นมาตรฐาน และบางแห่งก็มีหลายดัชนี เนื่องจากคงเป็นไปไม่ได้ที่จะติดตามหุ้นทุกตัวในทุกประเทศ ดัชนีหุ้นช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนสามารถวัดประสิทธิภาพโดยรวมของหุ้นหรือประเทศใดประเทศหนึ่งได้
นักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง และนักวิเคราะห์สามารถใช้ดัชนีหุ้นยุโรปเพื่อทำความเข้าใจว่าตลาดและบริษัทการเงินในยุโรปมีการดำเนินงานในตลาดเหล่านั้นได้ดีมากน้อยเพียงใด
ในดัชนีตลาดหุ้นยุโรปนั้นมีดัชนีสำคัญๆ เช่น ดัชนี FTSE100 แสดงถึงบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ดัชนี DAX40 แสดงถึงกลุ่มบริษัทเยอรมันที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด 40 แห่ง
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นยุโรป หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้คือการลองเทรดในบัญชีทดลองฟรี บัญชีทดลองเปิดโอกาสให้คุณซื้อขายในตลาดด้วยเงินเสมือนจริง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถดูว่าตลาดทำงานอย่างไรและทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายของคุณในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ปราศจากความเสี่ยง เพียงคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!
ดังที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ดัชนีหุ้นยุโรปแสดงถึงประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างๆ ในประเทศใดประเทศหนึ่ง เช่น
- เมื่อพูดถึงวิธีที่ดัชนีของยุโรปแสดงถึงมูลค่าของประเทศ กลุ่ม หรือภาคส่วน หากค่าของดัชนี DAX ของเยอรมันเพิ่มขึ้นหรือลดลง จะเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของเยอรมนี
- เมื่อราคาของดัชนีหุ้นเพิ่มขึ้น มูลค่ารวมของหุ้นก็จะสูงขึ้นด้วย เช่นเดียวกับเมื่อดัชนีหุ้นลดลง ซึ่งหมายความว่ามูลค่าโดยรวมของดัชนีจะลดลง
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของดัชนีหุ้นไม่ได้บ่งชี้ว่าราคาหุ้นแต่ละตัวสำหรับดัชนีจะขยับขึ้นหรือลง เป็นค่าเฉลี่ยของหุ้นที่มีค่ามากที่สุด แต่เมื่อหุ้นบางตัวขึ้น บางตัวอาจลง สิ่งสำคัญคือใครจะมีชัยเหนือหุ้นตัวอื่น เช่นเดียวกับเมื่ออยู่ในสภาวะตลาดหมี: หุ้นหรือกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่แนวโน้มขาลง อย่างไรก็ตาม บางส่วนอาจเป็นตลาดกระทิง
ดัชนีหุ้นยุโรปยอดนิยม
แล้วดัชนีหุ้นยุโรป มีอะไรบ้าง ? มาดูกันว่าดัชนียุโรปที่เป็นที่นิยมของเหล่าเทรดเดอร์และนักลงทุนมีอะไรบ้าง ?
1. ดัชนี FTSE 100 - ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 หนึ่งในดัชนีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในตลาดยุโรป ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีดัชนีหุ้นของตนเองเช่นกัน - FTSE100 FTSE (หรือ Footsie) เป็นตัวแทนของ 100 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ซึ่งรวมถึงหุ้นยอดนิยมต่างๆ ดังนี้
2. ดัชนี DAX 40 - ดัชนีหุ้นเยอรมัน
DAX คือ ดัชนีที่พิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดและปริมาณการสั่งซื้อ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 40 แห่งในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนี และได้รับการจัดการโดย Deutsche Borse ซึ่งจะคำนวณราคาจะทุก ๆ วินาทีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2006 ด้วยระบบ Xetra
เนื่องจากเยอรมนีเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป DAX40 จึงเป็นหนึ่งในดัชนีหุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดทั่วโลก
3. ดัชนี CAC 40 - ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศส
ดัชนี CAC 40 นับเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่สำคัญที่สุดในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงของ Paris Stock Exchange ที่ติดตามบริษัทในฝรั่งเศสที่ใหญ่ที่สุด 40 แห่ง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1987 ด้วยมูลค่าเริ่มต้นที่ 1,000 point
ดัชนีนี้คำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาตลาดหุ้นของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 40 แห่งที่จดทะเบียนใน Euronext Paris
4. ดัชนี STOXX 50 - ดัชนีหุ้นยูโรโซน
หากคุณสนใจที่จะซื้อขายเศรษฐกิจยูโรโซนโดยรวม ต้องรู้จัก Euronext ตัวบ่งชี้ที่คุณสามารถใช้ในการอ้างอิง!
Euronext คือ ตลาดหลักทรัพย์หลักในภูมิภาคยุโรป และดัชนี Euronext (ดัชนี EURO STOXX 50) รวมบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 50 แห่งในภูมิภาคยุโรป โดยพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
5. IBEX 35 Index - ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สเปน
IBEX 35 ดัชนีเกณฑ์มาตรฐานของ Madrid Stock Exchange ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์หลักในสเปน ซึ่งจัดการโดย Bolsas y Mercados Españoles (BME) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการหลักของตลาดหุ้นสเปนทั้งหมด ซึ่งเพิ่งถูกซื้อโดย Swiss group SIX
IBEX 35 ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 และเปิดทำการเมื่อวันที่ 14 มกราคม 1992 โดยเป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หมายความว่าบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่าจะมีน้ำหนักมากกว่าโดยประกอบด้วยบริษัทสเปน 35 แห่ง ที่มีสภาพคล่องสูงสุดใน Madrid Stock Exchange
6. ดัชนี SMI 20 - ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์
Swiss Stock Index (SMI20) ดัชนีของตลาดหุ้นในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ไม่จ่ายหุ้นปันผล ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1988 ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 1,500 จุด และประกอบด้วยหุ้น 20 อันดับแรกที่มีสภาพคล่องสูงสุดและมีผลประกอบการดีที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ (SPI)
7. ดัชนี AEX 25 - ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัม
ดัชนี AEX ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยประกอบด้วยบริษัทของเนเธอร์แลนด์ที่ใหญ่ที่สุด 25 บริษัท เช่น ASML Holding, Royal Dutch Shell, Unilever และหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดของ Euronext Amsterdam เดิมชื่อ Amsterdam Stock Exchange
AEX คือหนึ่งในดัชนีหลักของ Euronext ร่วมกับ CAC 40 ในปารีส, BEL 20 ในบรัสเซลส์ และ PSI-20 ในลิสบอน
8. ดัชนี OBX 25 - ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ออสโล
ตลาดหลักทรัพย์ออสโล ประเทศนอร์เวย์ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1818 ซึ่งดัชนี OBX 25 เป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ออสโลที่แสดงรายชื่อบริษัท 25 แห่งที่มีสภาพคล่องสูงสุด เช่น Equinor, DNB และ Telenor แม้ว่ารายชื่อส่วนใหญ่ในดัชนีจะเป็นบริษัทมหาชนจำกัดของนอร์เวย์ แต่ตลาดหลักทรัพย์ออสโลก็อนุญาตให้บริษัทต่างชาติที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและเกณฑ์ที่ระบุเข้าร่วมได้
ข้อดีของการซื้อขายดัชนีหุ้นยุโรป
ดัชนียุโรปนับเป็นเครื่องมือทางการเงินที่น่าสนใจในตลาดการเงิน ซึ่งสามารถสรุปข้อดีที่น่าสนใจได้ ดังนี้
✔️ซื้อขายตามการเคลื่อนไหวของประสิทธิภาพโดยรวมของกลุ่มหุ้นในยุโรป ไม่ใช่หุ้นรายตัว
✔️ กระจายพอร์ตทันทีเมื่อเทียบกับหุ้นรายตัว
✔️ กลยุทธ์การเทรดที่น่าสนใจและการเคลื่อนไหวของราคายอดนิยมในดัชนี เช่น การเทรด Gap
✔️ ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ แม้ในตลาดหุ้นที่สำคัญในยุโรป เมื่อเทียบกับเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ETF และพันธบัตร
✔️ ราคาดัชนีหุ้นยุโรปได้รับการพัฒนาโดยไม่มีการปั่นราคาหรือการผูกขาดที่อาจเป็นไปได้ เนื่องจากราคาถูกคำนวณโดยกลุ่มของหุ้น จึงควบคุมราคาได้ยาก อีกทั้งบางบริษัทก็สามารถพยุงราคาหุ้นของตนได้
✔️ สามารถซื้อขายดัชนีที่เรารู้จักกันดี เช่น DAX 40, FTSE100 เป็นต้น
✔️สามารถการซื้อขายได้ทั้งในระยะยาวและระยะสั้น
ข้อเสียของการเทรดดัชนีหุ้นยุโรป
เช่นเดียวกับตลาดการเงินอื่นๆ การเทรดดัชนียุโรปก็อาจมีข้อเสียที่สามารถสรุปได้ ดังนี้
- ดัชนีหุ้นยุโรปบางตัวมีสภาพคล่องน้อยกว่าตลาดอื่นๆ
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายในดัชนีที่มีการซื้อขายน้อยอาจสูงกว่าที่อื่นในบางกรณี
- ชั่วโมงการซื้อขายจำกัด - แม้ว่าจะสามารถซื้อขายฟอเร็กซ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ตลาดหุ้นจะเปิดเฉพาะในช่วงเวลาทำการในท้องถิ่นเท่านั้น เนื่องจากตลาดปิด อาจมีช่องว่างของราคาที่ยากต่อการคาดการณ์และจัดการอย่างแม่นยำ
ตลาดหุ้นยุโรปตามมูลค่าตามราคาตลาด
ที่มา: statista.com - อัพเดต ตุลาคม 2022
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของดัชนีหุ้นยุโรป
การซื้อขายดัชนีหุ้นของยุโรปจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการทำงานของดัชนีและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคา นี่คือปัจจัยหลักที่คุณต้องระวังเมื่อทำการซื้อขายดัชนีหุ้นยุโรป
1. หุ้นที่ประกอบเป็นดัชนี
เนื่องจากดัชนีหุ้นคือราคาเฉลี่ยของหุ้นแต่ละตัวในดัชนี หุ้นแต่ละตัวจึงมีผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าของดัชนี แม้ว่าหุ้นยุโรปมักจะเคลื่อนไหวในแนวขนาน แต่ก็มีบางครั้งที่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อดัชนีที่มีอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการประการผลประกอบการทางการเงินของบริษัทต่างๆ ดังนั้น การรู้จักหุ้นในดัชนีหุ้นที่กำลังซื้อขายจึงมีนับเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับการสร้างขอบเขตการลงทุนและช่วงเวลาในการลงทุนของคุณ ซึ่งหากจำหุ้นทั้งหมดไม่ได้ก็สามารถเลือกพิจารณาเฉพาะหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดในดัชนี
2. สภาวะเศรษฐกิจ
นักลงทุนจะเพิ่มการลงทุนในดัชนียุโรปก็ต่อเมื่อมีความเชื่อว่าเศรษฐกิจในยุโรปกำลังไปได้ดีพร้อมกับปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นเหล่านี้ และในทางตรงกันข้าม ในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง นักลงทุนก็อาจลดการลงทุนในหุ้นและดัชนียุโรปซึ่งจะนำไปสู่การลดลงของดัชนี
3. ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
ในระยะสั้น เทรดเดอร์จะติดตามปฏิทินเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่เหตุการณ์สำคัญที่จะมีอิทธิพลต่อทิศทางทั่วไปของตลาด แต่ก็อาจส่งผลระยะสั้นต่อราคาของดัชนีหุ้นยุโรป ซึ่งรายงานเหล่านี้โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยมีกิจกรรมที่สำคัญที่สุดอยู่ในยุโรป ดังนี้
- GDP
- ข้อมูลการจ้างงานและการจ้างงาน
- ดัชนี MPI และ PMI
- ดัชนี Zew PMI ของเยอรมนี
- รายงาน IFO ของเยอรมนี
4. นโยบายการเงิน
การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของธนาคารกลางส่งผลกระทบต่อสกุลเงินเป็นหลัก และยังส่งผลต่อตลาดหุ้นด้วย
ดังนั้น หลังจาก ECB ประกาศผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวด ดัชนียุโรปก็มีแนวโน้มสูงขึ้น และหาก ECB ดำเนินนโยบายเข้มงวด ดัชนีในยุโรปก็มีแนวโน้มลดลง กล่าวได้ว่าธนาคารกลางแต่ละแห่งจึงมีอิทธิพลต่อดัชนีหุ้นในประเทศของตน และ ECB ก็จะมีอิทธิพลต่อดัชนีหุ้นยุโรป
5. ความเชื่อมั่นของตลาด
ความเชื่อมั่นของตลาดมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทิศทางของดัชนียุโรป และบางครั้งก็อาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ทำให้ดัชนีหุ้นสูงขึ้นได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็น Position ของนักลงทุนในตลาดด้วย
ดังนั้น พฤติกรรมของนักลงทุนจึงเป็นตัวกำหนดทิศทางของดัชนีตลาดหุ้นที่สำคัญ โดยตัวอย่างที่เกิดซ้ำ คือการแทรกแซง (ที่อาจเกิดขึ้น) ของธนาคารกลาง หากเศรษฐกิจมีผลประกอบการไม่ดี แต่นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางจะเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมและตลาด นักลงทุนก็สามารถลงทุนต่อไปและผลักดันดัชนีหุ้นได้ แต่ถ้าด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง การดำเนินการของธนาคารกลางไม่เด็ดขาดหรือรวดเร็วพอ ตลาดหุ้นอาจร่วงลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงได้เช่นกัน
กล่าวได้ว่า อารมณ์ตลาดหรือที่เรียกว่าจิตวิทยาตลาด คือมุมมองและการกระทำของนักลงทุนในตลาด ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของเทรดเดอร์หรือนักลงทุนสำหรับการลงทุนดัชนีหุ้นยุโรปรวมทั้งดัชนีอื่นๆ ด้วย
ชั่วโมงการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ยุโรป
หากคุณกำลังมองหาการซื้อขายดัชนีหุ้นยุโรป สิ่งแรกสำคัญที่ควรรู้คือเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ยุโรป
ที่มา: forexchurch.com
นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบเวลาทำการซื้อขาย CFD ดัชนีหุ้นบนแพลตฟอร์ม MetaTrader ของเราได้ โดยไปที่หน้าข้อกำหนดของสัญญา เพื่อดูรายละเอียด
ปัจจัยหลักที่มีแนวโน้มต่อความผันผวนในดัชนีหุ้นยุโรป
⬅️ การเปิดตลาดหุ้นยุโรป
⬅️ รายงานข่าวเศรษฐกิจ
⬅️ การแถลงข่าวของ ECB
⬅️ การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ ECB
⬅️ ผลประกอบการของบริษัทหลักในดัชนีและข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบรษัท
และคุณก็สามารถตรวจสอบวันที่ของรายงานที่เกี่ยวข้อง เช่น วันที่จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในปฏิทินเศรษฐกิจของเราได้เช่นกัน
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
- หุ้นธนาคาร - หุ้นธนาคารประเทศน่าลงทุน
- 3 อันดับ หุ้นเหมืองทองแดงต่างประเทศ สำหรับการลงทุนในระยะยาว
- Pfizer ประเทศอะไร: จะซื้อขายหุ้น Pfizer ได้ที่ไหน?
รู้จักกับ Admirals
Admirals โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก เช่น FCA, CySEC, และ ASIC เป็นต้น โดย Admirals ให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MT4 และ MT5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
