Wall Street คือ ? คู่มือสู่หัวใจของอุตสาหกรรมการเงินสหรัฐฯ
Wall Street คือ คำที่ใช้เรียกขานกันทั่วโลก เพื่ออ้างถึงคำทั่วไปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากตามธรรมเนียมแล้ว อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในหรือรอบๆ ถนน วอลล์สตรีท และสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้น Wall Street ก็เป็นสิ่งที่หลายคนคาดหวัง แต่หากยังไม่แน่ใจมาหาคำตอบพร้อมกันที่นี่!
ก่อนเริ่มลงทุนคุณรู้ไหม Wall Street คือ ?
Wall Street คือ ?
ในปลายสุดทางใต้สุดของเกาะแมนฮัตตัน ซึ่งปัจจุบันคือนิวยอร์กที่ถูกยึดครองโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 เพื่อปกป้องการตั้งถิ่นฐานของพวกตนจากชาวอเมริกันพื้นเมืองและชาวอังกฤษ จากนั้นชาวดัตช์ได้สร้างกำแพงป้องกันที่ทอดยาวจากตะวันออกไปตะวันตก ซึ่งในปัจจุบันเราเรียกกันว่าวอลล์สตรีท (Wall Street)
เนื่องจากถนนที่เป็นที่รู้จักและเดินทางได้สะดวกระหว่างท่าเทียบเรือในแม่น้ำอีสต์ (East River) และแม่น้ำฮัดสัน (Hudson River) ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่สำคัญสำหรับการพาณิชย์ การซื้อขายสินค้าหลายประเภท รวมไปถึงหุ้นและพันธบัตรอีกด้วย
และหนึ่งในหลายๆ ที่ที่เหล่านักซื้อขายตราสารทางการเงินเหล่านี้พบกัน ก็คือใต้ต้น buttonwood และในเดือนพฤษภาคม 1792 ก็มีเทรดเดอร์ 24 รายนัดพบกันใต้ต้นไม้นี้เพื่อลงนามในข้อตกลง โดยสรุปกฎและค่าธรรมเนียมที่ควบคุมการทำธุรกรรมต่างๆ นี้ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อข้อตกลง Buttonwood และถือเป็นการก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ Wall Street ตลาดหุ้น ด้วยเช่นกัน
การซื้อขายแลกเปลี่ยนใน Wall Street
ในยุคก่อนดิจิทัล วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการซื้อขายตราสารทางการเงิน คือต้องคลุกคลีอยู่กับผู้คนที่สนใจซื้อขายตราสารเดียวกัน และสถานที่นัดพบเหล่านี้ก็ค่อยๆ พัฒนาเป็น "การซื้อขายแลกเปลี่ยน" ที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละแห่งแต่ละสถานที่ก็มีความเชี่ยวชาญในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์หรือหลักทรัพย์ทางการเงินที่แตกต่างกัน
ปัจจุบัน Wall Street คือ ชื่อถนนที่เป็นแหล่งที่ตั้งของเหล่าบริษัทที่ดำเนินการการซื้อขายแลกเปลี่ยนทางการเงินยังคงอยู่ในบริเวณ Wall Street รวมถึงตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของโลกตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ รวมถึง New York Mercantile Exchange (ตลาดซื้อขายฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์) The New York Futures Exchange (ตลาดฟิวเจอร์สและออปชัน) และ New York Board of Trade (ตลาดอนุพันธ์สินค้าโภคภัณฑ์)
ซึ่งสถานที่ตั้งของตลาดการแลกเปลี่ยนเหล่านี้ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เหล่าธนาคาร โบรกเกอร์ และผู้เล่นทางการเงินต่างๆ มาตั้งสำนักงานในบริเวณ Wall Street แห่งนี้
หากมีภาพหนึ่งที่อยู่ในใจเมื่อได้ยินชื่อ Wall Street คือ ภาพเสารูปทรงแบบสถาปัตยกรรมดอริก (Doric) อันโด่งดังหน้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก แต่ที่น่าแปลกคือด้านหน้าของอาคารตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กไม่ได้อยู่ที่ Wall Street แต่อยู่ที่ Broad Street
การซื้อขายและการลงทุนในตลาดหุ้น Wall Street
และเมื่อใดก็ตามที่เกิดการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินของสหรัฐฯ เช่น หุ้นหรือพันธบัตร ก็มีโอกาสมากที่ธุรกรรมส่วนหนึ่งจะได้รับการจัดการโดยองค์กรที่ตั้งอยู่ในย่านการเงินของนิวยอร์กหรือวอลล์สตรีท
แต่คุณจะซื้อขายหรือลงทุนโดยตรงในอุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐฯ ได้อย่างไร? หรือสามารถเป็นส่วนหนึ่งใน Wall Street และทำกำไรจากความสำเร็จนี้ได้หรือไม่? หรือจะสามารถชอร์ตหุ้นของบริษัทและรับประโยชน์ได้ไหม? มาดูกันว่าหุ้นในตลาดหุ้น Wall Street มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
Financial Markets (ซูเปอร์มาร์เก็ตทางการเงิน)
อีกหนึ่งวิธีที่ชัดเจนในการลงทุนในอุตสาหกรรมหลักของ Wall Street คือ การซื้อหุ้นของ "Financial Markets หรือ ซูเปอร์มาร์เก็ตทางการเงิน" ซึ่งหมายถึงสถาบันการเงินที่ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย บริการเหล่านี้รวมถึงการธนาคารและการให้กู้ยืมในชีวิตประจำวัน ตลอดจนบริการขั้นสูง เช่น โบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ ประกันภัย และแม้แต่วาณิชธนกิจซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีบทบาทในหลายส่วนของธนาคารและตลาดการเงิน โดยกลุ่มการเงินขนาดใหญ่ในหมวดนี้ คือ
- Goldman Sachs Group Inc
- JP Morgan Chase & Co
- Morgan Stanley Inc
- Bank of America
- Citigroup
- Wells Fargo & Co
บัคคาเนียร์ส (Buccaneers)
หากคุณต้องการซื้อขายและลงทุนในพื้นที่ท้าทายมากกว่ามากกว่า ก็สามารถพิจารณาบริษัทเหล่านี้
- Apollo Global Management
- Ares Management
- The Blackstone Group
- Carlyle
- KKR
ซึ่งบริษัทเหล่านี้ ได้รับการอธิบายว่าเป็น "ผู้จัดการการลงทุนทางเลือก" จากการขยายการให้บริการกองทุนลงทุนในหลายประเภท โดยเริ่มต้นในฐานะผู้เล่นเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน เช่น Distressed Credit หรือ สินเชื่อด้อยคุณภาพ ซึ่งหมายถึงหลักทรัพย์ของรัฐบาลหรือบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้ และอยู่ในความคุ้มครองการล้มละลาย หรือมีความเดือดร้อนทางการเงิน และกำลังจะเข้าสู่สถานการณ์ดังกล่าวในอนาคตอันใกล้
ตัวอย่างเช่น KKR หรือ Kohlberg Kravis Roberts ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมหุ้นเอกชนสมัยใหม่ แม้ว่าบริษัทจะบรรลุข้อตกลงการซื้อขาดครั้งแรกในปี 1976 แต่ KKR ก็มีชื่อเสียงจากหนังสือและภาพยนตร์อย่าง Barbarians at the Gate และต่อมาก็เข้าซื้อกิจการของ RJR-Nabisco ด้วยการใช้ Leveraged buyout หรือ LBO ซึ่งเป็นการเข้าซื้อกิจการของบริษัทอื่นด้วยการการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นการซื้อโดยใช้เลเวอเรจที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น และอีก 17 ปีต่อมา
ผู้จัดการกองทุนแบบดั้งเดิม
ผู้จัดการกองทุนจะรวบรวมเงินจากนักลงทุนรายย่อยเพื่อการลงทุน ซึ่งเป็นการปรับสเกลในการลงทุนได้สะดวกและช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้น
โดยมี BlackRock Inc. เป็นผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ากว่า 7.43 ล้านล้านดอลลาร์ (สิ้นปี 2019)
ผู้จัดการกองทุน 10 อันดับแรกของโลกที่ไม่ได้จดทะเบียนต่อสาธารณะ เช่น Vanguard และ Fidelity ก็เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงิน เช่น State Street และ Goldman Sachs หรือไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ เช่น Allianz และ Amundi เป็นต้น
ไม่น่าเชื่อว่า BlackRock ที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1988 ซึ่งอายุน้อยกว่าบริษัทอื่นทั้งหมด แต่ก็มีประวัติที่น่าสนใจ ซึ่งมีการทำงานร่วมกับ Blackstone ในการจัดหาเงินทุนเบื้องต้น ซึ่งนำไปสู่การถือหุ้นของบริษัทถึง 50%
โบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ (Stockbrokers)
หากต้องการซื้อหรือขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เช่น NYSE คุณต้องลงทะเบียนใน (หรือเป็นสมาชิกของ) ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่บางครั้งอาจมีที่มาจากการแลกเปลี่ยนและบางครั้งมาจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
ด้วยเหตุนี้ เมื่อบุคคลทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนต้องการซื้อหรือขายหุ้นจึงมักจะผ่านโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้น
ทั้งนี้ คุณสามารถลงทุนในโบรกเกอร์หุ้นรายใหญ่ของสหรัฐฯ ด้วยบัญชีของ Admirals ได้ ดังนี้
- Charles Schwab Corp
- Interactive Brokers Group
- T Rowe Price Group
Trade With MetaTrader 5
Admirals ให้บริการเทรดเดอร์ด้วยแพลตฟอร์มการซื้อขายหลายสินทรัพย์อันดับ 1 ของโลก อย่าง MT5 ฟรี! ซึ่งเทรดเดอร์จะสามารถสร้างกราฟข้อมูลตลาด และการวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมทั้งสามารถใช้งานฟีเจอร์เพื่อการซื้อขายระดับพรีเมียม คลิกแบนเนอร์ด้านล่าง เพื่อเริ่มดาวน์โหลดได้เลย!
บริษัทประกันภัย
อุตสาหกรรมประกันภัยมักถูกมองข้ามจากผู้ที่วิเคราะห์อุตสาหกรรมการเงิน แต่ในงานประกันภัยก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ ดังนี้
- การเรียกเก็บเงินจากลูกค้าในรูปเบี้ยประกัน
- รวจสอบเงินทุนว่าเพียงพอที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน
ซึ่งนอกจาก 2 กิจกรรมข้างต้นนี้ บริษัทประกันภัยยังมักจะนำเบี้ยประกันภัยที่ได้รับไปลงทุน และนั้นทำให้กลุ่มบริษัทประกันกลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในโลก
บริษัทประกันภัยที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอเมริกาซึ่งมีหุ้น (หรือ CFD) ที่คุณสามารถซื้อขายกับ Admirals ได้ ได้แก่
- American International Group, or AIG
- Hanover Insurance Group
- Metlife
การลงทุนด้วยความสามารถเฉพาะตัว
ในระดับของตัวเองแต่มีการประกันเป็นแกนหลักคือ บริษัทที่ลงทุนด้วยทักษะเฉพาะตัว ไปพร้อมกับการดำเนินการทางด้านประกัน โดย Berkshire Hathaway บริษัทการลงทุนในตำนาน ที่นำโดย Warren Buffet และ Charlie Munger
แม้ว่าในทางเทคนิคจะเป็นกลุ่มบริษัทในเครือ Berkshire Hathaway จะดำเนินธุรกิจประกันภัยผ่านบริษัทสาขาประมาณ 70 แห่ง ซึ่งรวมถึง General Re, GEICO และ NRG เช่นเดียวกับบริษัทประกันอื่นๆ ที่ใช้เงินทุนจากเบี้ยประกันในการลงทุน
แต่ Berkshire Hathaway ก็เติบโตขึ้นเป็นนักลงทุนรายใหญ่และมีความหลากหลายโดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมูลค่า 817 พันล้านดอลลาร์ในพอร์ตของบริษัท ซึ่งดำเนินการทั้งในภาครัฐและเอกชนในวงกว้าง อีกทั้งยังมีด้านการเงินอย่าง American Express, Bank of America, Wells Fargo) และที่ไม่ใช่การเงินอย่าง Coca-Cola, American Airlines, Apple, IBM ซึ่งนับเป็นรบริษัทที่ได้รับคัดเลือกโดยนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลทั้ง 2 คน
แม้ Berkshire Hathaway จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก แต่ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Omaha Nebraska ซึ่งค่อนข้างห่างจาก Wall Street
การลงทุนอื่นๆ ในประกัน
อีกหนึ่งวิธีในการซื้อขายในธุรกิจประกันภัย คุณอาจต้องดูโบรกเกอร์ประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยลูกค้าองค์กรในการเลือกประกันที่ดีที่สุดตามความต้องการ โดยมี 2 บริษัทที่จดทะเบียนใน NYSE ได้แก่
- Brown & Brown Inc.
- Marsh & McLennan Cos
Marsh & McLennan หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของโลกในอุตสาหกรรมนายหน้าประกันภัย และยังได้กระจายไปสู่อุตสาหกรรมบริการอื่นๆ เช่น การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ
กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน
หากคุณสนใจที่จะเป็นเจ้าของ มีส่วนแบ่งหรือขาย Short ในโครงสร้างพื้นฐานของ Wall Street ก็สามารถพิจารณาหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจากใน 4 กลุ่มนี้
- Intercontinental Exchange (ICE) ซึ่งเป็นเจ้าของตลาดหุ้น 12 แห่ง รวมถึง NYSE นอกจากนี้ ICE ยังเป็นเจ้าของสำนักหักบัญชีกลาง 6 แห่งทั่วโลกอีกด้วย
- NASDAQ Inc เจ้าของตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและบริษัทสาขาขนาดเล็กในยุโรปนอร์ดิก
- CBOE Global Markets ซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินการแลกเปลี่ยนตัวเลือก 4 รายการ การแลกเปลี่ยนตราสารทุน 7 รายการ การแลกเปลี่ยน Futures 1 รายการ และตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหนึ่งรายการ รวมถึงดัชนีความผันผวนของ CBOE
- CME Group Inc ซึ่งเป็นกลุ่มการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์ทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเจ้าของ Chicago Mercantile Exchange, Chicago Board of Trade, New York Mercantile Exchange และอื่นๆ กลุ่มนี้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่อิงตามข้อมูลอื่นๆ และ 27% ของ S&P Dow Jones Indices ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ให้บริการ S&P 500 และ DJIA
กลุ่มบริษัทที่มีรายได้มั่นคง
หากต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมการเงิน แต่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักร ก็อาจพิจารณาเลือกหุ้น ดังนี้
- Bank of New York Mellon Corp
- Northern Trust Corp
- State Street Corp
ธนาคารทางเทคนิคหรือองค์กรทั้ง 3 รายการด้านบนนี้มีรายได้ส่วนใหญ่จากการให้บริการ "ผู้รับฝากทรัพย์สิน" และบริการที่เกี่ยวข้องแก่ธนาคารอื่นๆ และนักลงทุนรายใหญ่ สายธุรกิจนี้ให้รายได้ที่ค่อนข้างคาดเดาได้ ในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากการเติบโตโดยรวมของอุตสาหกรรมการเงิน
กลุ่มบริษัทข้อมูลและการวิจัย
Wall Street ใช้ข้อมูลข่าวสารและการวิจัยจำนวนมาก ทำให้มีซัพพลายเออร์ระดับโลก 3 รายที่มีรากฐานมาจาก Wall Street และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ได้แก่
- Factset Research Systems
- S&P Global Inc.
- Moody’s Corp.
ตัวอย่างเช่น S&P ที่ก่อตั้งในปี 1860 โดย Henry Varnum Poor ที่เชี่ยวชาญในการจัดหาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นรถไฟ ซึ่งเป็นการลงทุนยอดนิยมในยุคนั้น
ซึ่ง S&P นอกจากการวิจัยและข้อมูลแล้ว บริษัทยังเป็นเจ้าของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกและส่วนใหญ่ของดัชนี S&P Dow Jones ผู้ผลิตดัชนี S&P 500 และ Dow Jones Industrial Average รวมถึงดัชนีอื่นๆ อีกด้วย
และในเดือนพฤศจิกายน 2020 บริษัทได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการ IHS Markit ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ข่าวกรองทางการเงินรายอื่นด้วยมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์
สรุปแล้ว Wall Street คือ ?
Wall Street มีผู้เล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมการเงินระดับโลก ซึ่งผลการดำเนินการของบริษัทเหล่านี้มักจะขึ้นๆ ลงๆ ตามสภาวะของตลาดการเงิน
แม้ว่าบริษัทส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการเป็นหุ้นส่วนขนาดเล็ก แต่บริษัททั้งหมดก็มีชื่อและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และแน่นอนว่าคุณเองก็สามารถลงทุนในหุ้น Wall Street ด้วยการซื้อหรือขายหุ้นและ CFD กับ Admirals ได้ที่นี่
ทำไมต้องลงทุนกับ Admirals
คุณสามารถซื้อขายหุ้นตัวเดียวของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งหุ้นใน Wall Street ตลาดหุ้น ด้วยบัญชีของ Admirals อย่างบัญชี Invest.MT5 จะช่วยให้คุณซื้อหุ้นและ ETF ที่ดีที่สุดจาก 16 ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้แก่
- สร้างกระแสของรายได้แบบพาสซีฟโดยการรวบรวมการจ่ายเงินปันผล
- เปิดบัญชีด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง $1 และลงทุนเริ่มต้นเพียง $0.01 ต่อหุ้น ด้วยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมขั้นต่ำเพียง $1 สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
- เข้าถึงข้อมูลการตลาดได้แบบเรียลไทม์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แน่นอนว่าคุณสามารถเปิดบัญชีและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมโดยคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!
รู้จักกับ Admirals
Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนทำธุรกรรมในเครื่องมือทางการเงิน และเนื่องจากสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา การวิเคราะห์การซื้อขายข้างต้นจึงไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
