ดัชนี FTSE MIB: ทุกเรื่องที่ควรรู้ เพื่อเตรียมตัวลงทุนดัชนี FTSE MIB

ดัชนี FTSE MIB นั้นคืออะไร ? บทความนี้สำหรับผู้ที่สนใจในตลาดหุ้นอิตาลีโดยเฉพาะ! ใน 10 นาทีนี้ เราจะนำคุณไปทำความรู้จักและเข้าใจในดัชนี FTSE MIB รวมทั้งแนวทางในการลงทุนดัชนี FTSE MIB ไปพร้อมกัน ที่นี่ที่เดียว!

ดัชนี FTSE MIB คือ ?

คุณอาจเคยสงสัยว่าอิตาลีมีตลาดไหม หรือเรียกตลาดหุ้นอิตาลีเรียกว่าอะไร หรือดัชนีตลาดหุ้นอิตาลีเป็นอย่างไร แน่นอนว่าคุณสามารถหาคำตอบที่ต้องการทั้งหมดได้จากที่นี่

ความเป็นมาของดัชนี FTSE MIB

ดัชนี FTSE MIB สร้างขึ้นในปี 1932 โดย Palazzo Mezzanotte เพื่อรวบรวมตลาดหุ้นทั้งหมดที่กระจายอยู่ทั่วมิลาน จนถึงปลายศตวรรษที่ 18 มีการเจรจาเในจัตุรัสต่างๆ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเมืองมิลาน ในปี 1808 ได้มีพระราชกฤษฎีกาของอุปราช Eugène Napoléon บุตรชายของ Joséphine de Beauharnais ให้จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์มิลาน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Monte della Pietà

ต่อมาในปี 1932 อาคาร Palazzo Mezzanotte อันโอ่อ่า ได้เปิดทำการต่อหน้า Duce Benito Mussolini แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากของลัทธิฟาสซิสต์ในตลาดหลักทรัพย์อิตาลีใหม่ ลักษณะที่เป็นเหตุเป็นผลของอาคารเห็นได้ชัดใน Piazza Affari 

รู้จักกับดัชนี FTSE MIB (indexftse:ftsemib)

ดัชนี FTSE MIB เรียกอีกอย่างว่า FTSE MIB 40, ดัชนีอิตาลี, ดัชนีอิตาลี, ดัชนี FTSE มิลาน เป็นต้น

ดัชนี FTSE MIB ถูกใช้แทน MIB-30 ในเดือนกันยายน 2004

ดัชนี FTSE MIB อยู่ภายใต้การบริหารของ Standard & Poor ตั้งแต่วันก่อตั้งจนถึงเดือนมิถุนายน 2009 เมื่อส่งต่อไปยัง FTSE Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Borsa Italiana: London Stock Exchange Group นั่นเอง

ดัชนี FTSE MIB จึงถูกกำหนดให้เป็น "ดัชนีอ้างอิงหลักสำหรับตลาดหุ้นอิตาลี" ประกอบด้วยหุ้น 40 หุ้นที่มีสภาพคล่องและเงินทุนขนาดใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิตาลี

หากคุณเคยถามตัวเองว่า 'FTSE MIB 40 คืออะไร' ตอนนี้คุณอาจเห็นคำตอบแล้ว เนื่องจากประกอบด้วยบริษัท 40 แห่ง บางคนจึงเรียกดัชนี FTSE MIB ว่า FTSE MIB 40 ซึ่งครอบคลุมประมาณ 80% ของ มูลค่าตลาดของประเทศและประกอบด้วยชื่อที่รู้จักกันดีในธุรกิจและอุตสาหกรรมของอิตาลีนั่นเอง

ตัวอย่างบริษัทในดัชนีประกอบด้วย ที่คุ้นเคยทั่วโลก

• Campari
• Fiat Chrysler
• Ferrari
• Italgas
• Telecom Italia
• Mediaset
• UniCredit

องค์ประกอบดัชนี FTSE MIB

จาก 40 บริษัทดั้งเดิมที่เปิดตัวในดัชนีต่ออายุเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2009 มี 16 บริษัทที่ยังคงสถานะอยู่ในตะกร้าสินค้าอย่างต่อเนื่อง (เครื่องหมาย *) 18 บริษัท

จากตารางด้านบน ภาคส่วนที่แสดงมากที่สุดในดัชนีหุ้นอิตาลี ได้แก่ ภาคการธนาคาร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการสาธารณะ โดยมีหุ้นดัชนี FTSE MIB 6 หุ้นต่อภาค

บริษัทที่มีทุนมากที่สุดในดัชนีหุ้นอิตาลีคือ Enel ด้วยมูลค่า 77.3 พันล้านยูโร (ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2021) ตามมาด้วย Eni ที่ใรมูลค่า 69.88 พันล้านยูโร

สิ่งสำคัญคือต้องกล่าวถึงว่านอกเหนือจากดัชนี FTSE MIB แล้วในตลาดหุ้นเปลี่ยนยังมีดัชนีรองอื่นๆ ดังนี้

• FTSE MIB Dividend - ดัชนีนี้จะแสดงถึงเงินปันผลทั่วไปทั้งหมดที่มีการประกาศและจ่ายโดยบริษัททั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีหลัก
  
  
• FTSE MIB All Shares - ดัชนีนี้จะจัดกลุ่มบริษัทที่เป็นส่วนหนึ่งของดัชนี FTSE MIB หลัก และดัชนีขนาดเล็กอีกสองดัชนี ได้แก่ FTSE MIB Small-cap และ FTSE MIB Mid-cap
  
  
• FTSE MIB Small Cap - ดัชนีนี้จะรายงานประสิทธิภาพของหุ้นในทุกบริษัทที่ไม่ได้รวมอยู่ใน FTSE MIB และ FTSE MIB mid-cap โดยพิจารณาจากมูลค่าบริษัท
  
  
• FTSE MIB Mid Cap - ดัชนีนี้จะรวบรวมหุ้น 60 อันดับแรกที่ไม่อยู่ในดัชนี FTSE MIB โดยพิจารณาจากมูลค่าบริษัท
  
  
• FTSE MIB Star - ดัชนีนี้จะรวมหุ้นทั้งหมดของบริษัทในกลุ่ม STAR เช่น บริษัทขนาดกลางที่มีมูลค่าสินทรัพย์ระหว่าง 40 ล้าน - 1 พันล้านยูโร
  
  
• FTSE MIB Aim Italia - ดัชนีนี้รวมหุ้นทั้งหมดของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่ดำเนินการในตลาด AIM (Alternative Investment Market) ซึ่งเป็นตลาดระหว่างประเทศของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) 
  
  
• FTSE MIB Implied Volatility Index (IVI) - ดัชนีความผันผวนที่วัดความผันผวนโดยนัย 180, 90, 60 และ 30 วันต่อปีของดัชนี FTSE MIB ตามราคาตัวเลือกของดัชนี

หากคุณต้องการซื้อขายในดัชนีที่สำคัญที่สุดของยุโรปในสภาวะตลาดที่ดีที่สุด สิ่งที่คุณต้องทำคือเปิดบัญชีซื้อขายกับ Admirals! ที่มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์กราฟ MT5 แบบเรียลไทม์ได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พร้อมปลั๊กอินที่จะช่วยให้คุณซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดหรือใช้บัญชีทดลองเทรดของเราได้ทันที! 

ดัชนี FTSE MIB คำนวณอย่างไร ?

ดัชนีหุ้น (Stock indices) คือ การสังเคราะห์มูลค่าของตะกร้าหุ้นที่เป็นตัวแทน การเคลื่อนไหวของดัชนีเป็นการประมาณที่ดีของการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปในมูลค่าของหลักทรัพย์ที่รวมอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งมีวิธีการคำนวณดัชนีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของหุ้นในตะกร้า ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

• ดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักเท่ากัน (Equal weighted index): ดัชนีที่กำหนดให้หุ้นทุกตัวในดัชนีมีน้ำหนักเท่ากัน โดยไม่คำนึงถึงขนาดของบริษัทหรือราคาของหุ้นแต่ละตัวในดัชนี 
  
  
• ดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักตามราคา (Price weighted index): หุ้นที่มีราคาสูงจะมีอิทธิพลสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีมากกว่า การคำนวณนั้นง่ายมาก เนื่องจากได้รับจากผลรวมอย่างง่ายของราคาหลักทรัพย์ที่ประกอบกันเป็นดัชนี แต่ดัชนีเหล่านี้ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดอย่างถูกต้อง โดยดัชนีที่มีการถ่วงน้ำหนักราคา คือ Dow Jones (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และ Nikkei 225 (ญี่ปุ่น)
• ดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด (Value weighted indices): เนื่องจากน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวจะมีสัดส่วนขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ซึ่งแตกต่างจากวิธีการคำนวณอื่นๆ ทำให้มีการปรับปรุงดัชนีตามการทำธุรกรรมขององค์กร เช่น การแบ่งกลุ่มการจัดกลุ่ม การจ่ายปันผลนอกเหนือจากการจ่ายตามปกติ เป็นต้น

ดัชนีหลักๆ ส่วนใหญ่จึงคำนวณด้วยการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด เช่น

• S&P 500
• ดัชนี NYSE คอมโพสิต 
• FTSE 100 (ดัชนีสหราชอาณาจักร)
• CAC 40 (ดัชนีฝรั่งเศส)
• DAX 40 (ดัชนีเยอรมนี)
• Topix (ดัชนีญี่ปุ่น)

นอกจากนี้ยังมีดัชนีตราสารทุนสามารถจัดประเภทตามภาคอุตสาหกรรมที่หลักทรัพย์ในพอร์ตอ้างอิง เช่น ดัชนีหุ้น Stoxx หรือตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เช่น ดัชนี MSCI

แต่โดยทั่วไปดัชนีเกือบทั้งหมดจะคำนวณจากราคาตลาด แต่ระบบนี้ก็มีความคลาดเคลื่อนจากการที่ไม่ได้พิจารณาจากค่าตอบแทนที่ให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่จะพิจารณาเฉพาะค่าตอบแทนที่ได้รับจากการขายหุ้นเท่านั้น

เนื่องจากเงินปันผลจะไม่ถูกนำมาพิจารณา และในวันจ่ายเงินปันผล หุ้นจะมีค่าเสื่อมราคาเล็กน้อย ซึ่งตามทฤษฎีแล้วควรจะเท่ากับเงินปันผลที่จ่ายปันผล ซึ่งดัชนีที่อิงจากราคาหุ้นเพียงอย่างเดียวก็อาจมีการปรับลดลงอีก โดยเฉพาะเมื่อมีการจ่ายเงินปันผลจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดมุมมองด้านลบจากนักลงทุนอีกด้วย

หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การเทรดเพิ่มเติม ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเรียนรู้จากเทรดเดอร์มือโปรจากสัมมนาการเทรดออนไลน์ ที่คุณสามารถร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเทรดเดอร์ทั่วโลก ได้แบบฟรีๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือลงชื่อเข้าร่วมสัมนา คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

วิเคราะห์ดัชนี FTSE MIB

เริ่มจากการวิเคราะห์ทางเทคนิครายเดือนของดัชนี FTSE Milan ที่พัฒนามาจากราคาของดัชนีหุ้นหลักในอิตาลีที่อยู่ในช่วงกว้างมาก โดยมีโซนแนวรับแนวต้านที่ระหว่าง 15,000 - 24,000 จุด

เมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ เราจะเห็นการสะสมเงินของผู้ซื้อ ในขณะที่ราคาเข้าใกล้แนวต้าน เราจะเห็นการสะสมเงินของผู้ขายนั่นคือเป็นช่วงที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นและถูกใช้เป็นระดับสำคัญในระยะยาว

โดยตราบใดที่ราคายังคงอยู่ในช่วงนั้นๆ เราจะไม่สามารถพูดถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มหรือการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น การเคลื่อนที่ของราคาในแต่ละช่วงก็จะดำเนินต่อไปจนกว่าจะทะลุขีดจำกัดทางเทคนิค โดยสามารถดูจากกราฟของดัชนี FTSE MIB ด้านล่าง

จากกราฟจะเห็นได้ว่า ตลอดปี 2020 และ 2021 ดัชนีมีความผันผวนอย่างมาก เช่นเดียวกับภาคส่วนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดใหญ่ในครั้งนี้

วิเคราะห์หุ้นดัชนี FTSE MIB กันบ้าง:

✔️ENI

ในภาคน้ำมันซึ่งสะท้อนความอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดและสร้างความเสียหายจำนวนมากในปี 2020 เมื่อช่วง 12.25 ยูโรต่อหุ้นหายไป ส่งผลให้ราคายังคงมีแนวโน้มลดลงโดยไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะกลาง แต่การมาถึงและการกระจายของวัคซีนอาจเป็นสิ่งที่ดีมากเมื่อเทียบกับวิวัฒนาการของราคา

✔️UNICREDIT

เช่นเดียวกับภาคการธนาคารและภาคการเงินทั้งหมดในยุโรป ภาคการเงินของอิตาลีก็ได้รับผลกระทบจากโควิดทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลให้ไม่สามารถกู้คืนตำแหน่งหรือบางส่วนของสินทรัพย์ได้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำที่กำหนดโดยธนาคารกลางยุโรป

หากไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือมาตรการกระตุ้นทางการคลัง คุณจะไม่เห็นการฟื้นตัวของราคาในภาคธุรกิจ

✔️ ENEL

จนถึงตอนนี้ แนวโน้มในเชิงบวกของกิจการที่ประสบกับความผันผวนอย่างมากในปี 2021 ผลลัพธ์จากไตรมาสที่แล้วบ่งชี้ว่าราคาหุ้น ENEL สามารถฝ่าแนวต้านและทรงตัวที่ระดับใกล้กับแนวต้านระยะสั้น 

✔️ GENERAL

เป็นอีกครั้งที่ GENERAL ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีมีความผันผวนสูงมาก ในขณะนี้ ราคาดูเหมือนจะพยายามเอาชนะแนวต้านในระยะกลาง แต่ยังไม่สามารถฟื้นตัวจากระดับของต้นปีได้ และยังคงมีความอ่อนแออยู่มาก

ซึ่งโดยหลักการแล้ว เรากำลังเห็นการฟื้นตัวในภาคส่วนนี้เนื่องจากผลประโยชน์จากหลักประกัน แต่ก็ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะสามารถพูดถึงสถานการณ์ในเชิงบวกได้

✔️ FIAT CHRYSLER

เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่สามารถทำกำไรได้ในเชิงบวกในปี 2020 แม้ว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอและเกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมประเภทนี้ก็ตาม โดยราคาหุ้น FIAT CHRYSLER มีการจัดการเพื่อทะลุระดับแนวต้านที่สำคัญ แต่ยังไม่สามารถสร้างฐานได้ในขณะนี้

ในแง่พื้นฐานแล้ว ผลลัพธ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในระยะสั้นและระยะกลาง ดังนั้นหากสามารถฟื้นตัวและรวมระดับได้ ก็จะแตกต่างจากสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมาก

เช่นเดียวกับบริษัทส่วนใหญ่ เรากำลังพูดถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการลดราคาเนื่องจากการมาถึงของโควิด ซึ่งเห็ยได้ชัดเจนว่า ผลลัพธ์ทางธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างไรในไตรมาสนี้ และวิวัฒนาการของราคาของดัชนี ตลอดจนของบริษัทใหญ่ส่วนใหญ่ได้เอาชนะระดับแนวต้านที่สำคัญในระยะกลางและระยะยาว

ซึ่งตัวบ่งชี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ได้เห็นมาเป็นเวลาหลายเดือน และสิ่งนี้ทำให้เห็นถึงวิวัฒนาการในระยะกลางที่เป็นไปได้ในเชิงบวก

ดัชนี FTSE MIB: คำถามที่พบบ่อย