5 เคล็ดลับในการบริหารเงินทุนใน Forex ให้ประสบความสําเร็จ

วณิชชา สุมานัส
10 นาที

การบริหารจัดการเงินทุน (Money Management) ใน Forex เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามช่วงที่มีการเทรด อาจจะเป็นเพราะขาดความรู้หรือการไม่มีประสบการณ์ในการเทรดมาก่อน ซึ่งเทรดเดอร์มักเพิกเฉยต่อการบริหารเงินทุนและทำให้เกิดความเสียหายในที่สุด และนี่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสําคัญที่ทําให้เทรดเดอร์บางคนประสบความสําเร็จ และในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์บางคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องการบริหารเงินก็ไม่ประสบความสําเร็จ

อะไรคือการบริหารเงินทุน (Money Management) และการบริหารเงินทุนสำคัญอย่างไร และจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เราจะสามารถใช้การบริหารเงินทุนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร ในบทความนี้ จะมีคำตอบให้คำถามเหล่านี้

การบริหารเงินทุน (Money Management) ใน Forex

พูดง่าย ๆ ก็คือการบริหารเงินทุน (Money Management) ใน Forex เป็นชุดของกฎที่เทรดเดอร์นำไปปรับใช้ปฏิบัติตามเพื่อจัดการเงินให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียเพิ่มผลกําไรและเพิ่มขนาดบัญชีเทรดให้มากขึ้น

หลายคนมักเข้าใจและสับสนในเรื่อง "การบริหารเงินทุนใน Forex" กับ "การบริหารความเสี่ยง" เนื่องจากเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างคล้ายกัน การบริหารความเสี่ยงเป็นเรื่องของการระบุ การวิเคราะห์และการหาปริมาณความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเทรดเพื่อบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการป้องกันตัวเองจากผลเสียที่จะตามมาจากการเทรดด้วย การบริหารเงินทุนใน Forex เป็นการมุ่งเน้นไปที่การปกป้องเงินทุนที่มีอยู่

ทั้งนี้ การเทรดแบบดั้งเดิมจะช่วยบอกได้ว่า การบริหารเงินทุนจะช่วย "ลดความสูญเสียในระยะสั้นและให้เทรดเดอร์ทำกำไรได้ในระยะยาว กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นการลดการสูญเสีย เพิ่มผลกําไรสูงสุดและหวังว่า จะช่วยผลักดันให้เป็นเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสําเร็จและทํากําไรได้

เคล็ดลับยอดนิยมในการบริหารเงินทุน (Money Management) ใน Forex ให้ประสบความสำเร็จ

เทรดเดอร์ใหม่มักมีอะไรมากมายที่ต้องเรียนรู้เพิ่มและต้องเข้าใจเมื่อจะเทรด Forex ดังนั้น เพื่อให้หลาย ๆ อย่างง่ายขึ้น ในบทความนี้จะได้พูดถึงเคล็ดลับที่เมรดเดอร์ใช้บ่อยเพื่อช่วยให้เทรดเดอร์มีระบบเทรดให้ประสบความสําเร็จในตลาด Forex

ให้เทรดเฉพาะรายที่ยอมให้ขาดทุนได้

เคล็ดลับแรกที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักนึกถึงเสมอคือ ยอมเทรดรายการไหนก็ได้ที่ยอมเสียได้ ซึ่งแน่นอนจะต้องเสียไม่มาก สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ควรฝากเงินเท่าที่สามารถทำได้ หรือควรฝากเงินเท่าที่จะเทรดได้ด้วยบัญชีเทรดของตัวเองเท่านั้น และไม่ควรพิจารณาทำอย่างอื่น

เทรดเดอร์อาจจะต้องกำหนดว่าในการเทรดแต่ละเดือนสามารถเสียได้แค่ไหน และหากขาดทุนตามที่ได้กำหนดไว้ ก็อาจเป็นปัจจัยในการตัดสินใจว่า ให้เลิกเทรดได้ แนวคิดคือ เทรดเดอร์ควรจะยอมเสียเงินหรือขาดทุนตรายเท่าที่การขาดทุนนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตหรือความเป็นอยู่ในอนาคต อย่าเทรดด้วยเงินที่ต้องการใช้นำไปใช้จ่ายในเรื่องของค่าเช่า ค่าจำนองอสังหาริมทรัพย์ อาหาร และค่าเดินทางไปทํางาน ฯลฯ

การเทรด Forex ไม่ใช่รับประกันว่าจะทำเงินได้ หลายคนล้มเลิกและงดเทรด Forex ไปเพราะสูญเสียเงินและขาดทุน ดังนั้น อย่าเทรดหากยังไม่พร้อมที่จะเสียเงินหรือขาดทุน

ประเมินความเสี่ยงในการเทรด

เมื่อรู้แล้วว่าพอจะกำหนดงบได้เท่าไรในการเทรด เทรดเดอร์ก็จะต้องกําหนดจํานวนเงินที่ยอมเสี่ยงเทรด และวิธีการวัดผล ซึ่งจะช่วยกําหนด Stop Loss ให้การเทรดแต่ละครั้งได้

การวัดและประเมินความเสี่ยงว่ามีข้อข้อดีและข้อเสียอย่างไรมีด้วยกัน 2 วิธี

  1. ยอดเงินรวม

เทรดเดอร์บางคนกําหนดความเสี่ยงสูงสุดต่อการเทรดเป็นจํานวนเงินคงที่ ตัวอย่าง เช่น เทรดเดอร์อาจฝากเงิน 10,000 ปอนด์เข้าบัญชีเทรดของตัวเอง และกำหนดไว้ว่า เงินในจำนวนนี้ สามารถเสี่ยงให้ขาดทุนได้ 500 ต่อการเทรด

วิธีการแบบนี้ก็เป็นวิธีการบริหารเงินแบบง่าย ๆ สําหรับการเทรดแต่ละครั้ง เทรดเดอร์มักรู้ตัวอยู่แล้วว่า อะไรเป็นความเสี่ยงบ้าง หากเทรด 10 ครั้งต่อวัน เทรดเดอร์ก็ควรจะทราบได้เองว่า สามารถเสี่ยงที่จะขาดทุนหรือเสียเงินได้ 5,000 ปอนด์ต่อวัน

ข้อเสียของกลยุทธ์นี้คือเทรดไปเรื่อยและไม่ได้ดูว่า เงินจะเหลือในบัญชีเท่าไร แต่หากเทรดไปเรื่อย ๆ และได้กำไรมาก ๆ ก็ยังควรที่จะยึดกับแผนเดิมในการกำหนดจำนวนเงินที่ยอมขาดทุนหรือสูญกำไรต่อการเทรดแต่ละครั้ง ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดการขาดทุนมาก ๆ ได้เช่นกัน

ในอีกแง่หนึ่ง หากขาดทุนจำนวนมากในช่วงเทรด แต่งบที่จัดสรรให้พร้อมขาดทุนนั้นอยู่ที่ 100 ปอนด์ แสดงว่ากําลังเสี่ยงต่อการขาดทุนด้วยยอดเงินที่สูงขึ้น และเป็นผลให้ยอดเงินในบัญชีลดลงอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน

  1. กำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ตายตัว

วิธีการประกันความเสี่ยงหนึ่งที่ใช้กันบ่อยคือการกำหนดงบเป็นเปอร์เซ็นต์ตายตัวคำนวนจากยอดเงินในบัญชีในการเทรดแต่ละครั้งดังนั้นหากเทรดเดอร์มียอดเงินในบัญชี 10,000 ปอนด์และต้องการจัดสรรงบ 2% ของเงินทุนสำหรับการเทรดครั้งแรกก็คำนวณได้ 200 ปอนด์

ข้อดีจากการใช้วิธีนี้คือความเสี่ยงต่อการเทรดจะผันผวนไปตามยอดเงินในบัญชี ซึ่งจะแตกต่างจากการมียอดเงินที่กำหนดจำนวนไว้ชัดเจนแล้ว ในทางทฤษฎีแล้ว ความเสี่ยงเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์ใดก็ตาม

แต่ข้อเสียคือ หากต้องขาดทุนหรือไม่สามารถทำกำไรได้เป็นระยะเวลานาน ๆ ความเสี่ยงต่อการเทรดก็น้อยลง ซึ่งหมายความว่า หากเริ่มเทรดได้กำไร ก็จะจะใช้เวลาซักพักเพื่อที่จะเทรดคืนทุน

อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่า คุณตั้งใจจะเสี่ยงกับการเทรดแค่ไหน ให้กําหนดว่า คุณตั้งเป้าทํากําไรจากความเสี่ยงนั้น และใช้ความเสี่ยงนั้นเพื่อช่วยทํากําไรจากการเทรดของคุณ

ทั้งนี้ ทางเลือกนี้จะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และโปรไฟล์การเทรดโดยการเทรดที่คุณอยากจะลองเสี่ยง ความเสี่ยงต่ออัตราส่วนผลตอบแทน 1:1 จะหมายถึง ตัวอย่างเช่น หากการขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้คือ $100 เป้าหมายกําไรของคุณจะเป็น $100 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน 1:3 สําหรับความเสี่ยงจํานวนเท่ากันจะให้ผลกําไรเป้าหมายที่ $300

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนควรสูงกว่า 1:1 ซึ่งเป็นเพราะ ถ้าคุณทำกำไรได้จากการเทรด 3 ครั้งติดต่อกันแล้ว ขาดทุนการเทรดซัก 3 ครั้งติดต่อกัน และอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะอยู่ที่ 1:1 ซึ่งอาจทํากําไรได้แค่ 0 ปอนด์ เท่านั้น

ในขณะที่ ถ้าคุณกําลังเทรดด้วยความเสี่ยงต่ออัตราส่วนผลตอบแทนของ 1:2 และคุณมีสามารถทำกำไรได้ 3 ครั้ง ตามด้วยการขาดทุนอีก 3 ครั้ง เนื่องจากผลกําไรสูงกว่าการขาดทุนแต่ละการเทรด แสดงว่า คุณจะยังคงมีกําไรอยู่

ภาพประกอบ: Admirals MetaTrader 5 - แผนภูมิ GBPUSD H1 ช่วงวันที่: 6 พฤศจิกายน 2563 - 11 พฤศจิกายน 2563 วันที่เก็บข้อมูล: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ผลการดำเนินงานในอดีตไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

พิจารณาใช้เลเวอเรจ

เลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์ Forex เปิดโพซิชั่นที่ใหญ่กว่าเงินทุนที่ยอมให้ลงทุนได้ โดยพื้นฐานแล้ว เทรดเดอร์ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเปิดโพซิชั่นที่มีเลเวอเรจอยู่ ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์มีเลเวอเรจ 1:20 เทรดเดอร์จะสามารถเปิดโพซิชันมูลค่า £10,000 ด้วยเพียง £500 ในบัญชีตัวเอง

ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องวิธีการเทรดที่ดี และหากใช้กลยุทธ์อย่างถูกต้อง ก็จะมีประโยชน์อย่างมากและสามารถทำให้กลายเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถทำกำไรได้มาก

นอกจากจะช่วยให้สามารถเข้าถึงโพซิชั่นขนาดใหญ่ด้วยเม็ดเงินจำนวนน้อยแล้ว เลเวอเรจยังสามารถขยายผลกําไรการค้าให้สามารถทำกำไรอีกได้

อย่างไรก็ตาม และนี่เป็นสิ่งสําคัญ เลเวอเรจเป็นดาบสองคม กําไรที่ขยายจากการเทรดที่ชนะนั้นอาจกลายเป็นการขาดทุนแบบเพิ่มเท่าตัวได้ในการเทรดไม่สามารถทำกำไรได้ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง

การถอนเงินออกจากบัญชี

เทรดเดอร์หลายคนรู้สึกเสียดายที่ไม่เคยถอนเงินออกมาตอนได้กำไร หรือบางคนอาจจะทำ แต่ก็ไม่ได้ทำเป็นประจำ

หากเริ่มทํากําไรในบัญชีเทรดได้มากแล้ว ให้ถอนเงินออกมาบ้าง และเอาเงินไปใช้เกิดประโยชน์

อย่างที่เรากล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการเงินเทรด Forex เป็นการช่วยเพิ่มผลกำไร และเพื่อให้ได้ผลกำไร เทรดเดอร์จำเป็นต้องดูแลผลกำไรของตัวเอง ยิ่งมีเงินอยู่ในบัญชีเทรดนานมากแค่ไหน คุณจะเทรดเงินจำนวนนั้นไปมากขึ้นและในที่สุดก็จะเสียเงินในบัญชีทั้งหมด

สรุปส่งท้าย

เคล็ดลับในการบริหารจัดการเงินเพื่อเทรด Forex ให้ประสบความสําเร็จคือเทรดเดอร์ควรเข้าใจจุดยืนของตัวเองเมื่อเริ่มเทรด นอกจากนี้ อย่าลืมปฏิบัติตามกฎที่วางไว้ก่อนหน้า เพื่อให้เป็นแนวทางในการเทรดและประสบความสำเร็จ โดยเทรดเดอร์อาจจดบันทึกความคิดต่าง ๆ ไว้ ให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรดโดยรวมก็ได้:

  • ต้องไม่เสี่ยงเสียเงินเกิน 3% ของยอดเงินในบัญชีในการเทรดแต่ละครั้ง
  • ความเสี่ยงต่ออัตราส่วนผลตอบแทนที่ควรได้คือ 1:2 ต่อการเทรดแต่ละครั้ง
  • ยิ่งเสียเงินสะสมแต่ละสัปดาห์จะไม่เกิน £2,000 ซึ่งหากทำตามเป้าหมายที่กำหนดได้ ก็น่าจะหยุดเทรดซักสัปดาห์ก่อนก็ได้

ก่อนที่จะเริ่มต้นการลงทุนหรือการเทรดจริง ๆ สิ่งสําคัญคือต้องทําความคุ้นเคยกับความซับซ้อนของตลาดเงินเสียก่อน โดยสามารถฝึกเทรดในบัญชีทดลองก่อนที่จะเสี่ยงสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้

ลงทุนกับ Admirals

ด้วยบัญชี MetaTrader 5 จาก Admirals คุณสามารถซื้อหุ้นและกองทุนแลกเปลี่ยน (ETF) จาก 15 ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เลย!

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เกี่ยวกับ Admirals

Admirals เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ชนะรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับ ใบอนุญาตและกำกับดูแลจากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เริ่มเทรดเลยวันนี้

คำปฏิเสธข้อเรียกร้อง (Disclaimer) : เอกสารนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำการลงทุน, การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน, ข้อเสนอหรือคำชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน โปรดทราบว่า ในกรณีของการวิเคราะห์การซื้อขายใด ๆ ที่อ้างอิงถึงผลการดำเนินงานหรือสถิติในอดีต พฤติกรรมของข้อมูลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใด ๆ คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงเป็นอย่างดีแล้ว”

TOP ARTICLES
การเทรดคืออะไร? ทำเงินได้จริงไหม มือใหม่เทรดอะไรดี
การเทรดคืออะไร ? หากยังไม่เข้าใจก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการเริ่มต้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้าวผัดกะเพราจานละ 60-70 บาท สถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ที่เงินเฟ้อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รายได้จากงานประจำไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และการมีรายได้มากกว่า 2 ช่องทางขึ้น...
คุณรู้จักและเข้าใจเทรดเดอร์และอาชีพเทรดเดอร์มากแค่ไหน ?
พอได้ยินคำว่า "เทรดเดอร์" หลายคนจะนึกถึงภาพของคนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โบกกระดาษไปมาและตะโกนเสียงดังใส่กันให้ดูวั่นวายไปหมด เทรดเดอร์เป็นอาชีพที่บางครั้ง หลายคนอาจเข้าใจผิด แม้ปัจจุบันจะมีการปรับเปลี่ยนการทำงานมากขึ้น นับตั้งแต่ที่โลกมีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนบนโลกแล้วเทรดเดอร์คือใค...
บัญชี ECN คือ ? แล้วบัญชี STP คือ ? ควรเลือกบัญชีเทรดแบบไหนดี ?
บัญชี ECN คือ ? แล้ว บัญชี STP คือ ? หรือมีรายละเอียดที่แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน บอกได้เลยว่าการเลือกเปิดบัญชีเทรด Forex นั้น เทรดเดอร์มักได้ยินโบรกเกอร์แนะนำให้เปิดบัญชีหลักๆ อยู่ 2 บัญชีนี้ แต่คำถาม คือ บัญชี STP และบัญชี ECN คือ ? มีความแตกต่างกันอย่างไร และเราควรจะเลือกเปิดบัญชี STP หรือ บัญชี EC...
ดูทั้งหมด