เศรษฐศาสตร์การเมือง คืออะไร เกี่ยวข้องกับการลงทุนได้อย่างไรบ้าง?

เศรษฐศาสตร์การเมืองของตลาดการเงินเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายที่อธิบายให้ครอบคลุมได้ภายในไม่กี่ประโยคเพียง

เศรษฐกิจและตลาดการเงิน (และตราสารทางการเงิน) โดยเฉพาะ ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเมืองและความไม่มั่นคงทางการเมือง แต่เราก็ไม่สามารถแบ่งแยกการอธิบายในเรื่องนี้ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมืองก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถสร้างวงจรที่ส่งผลลบต่อกันจนไม่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกเลยก็เป็นได้

บทความนี้ เราจะพูดถึงส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจการเมืองและการศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมืองโลก

เศรษฐศาสตร์การเมืองเบื้องต้น

เศรษฐศาสตร์การเมืองและเศรษฐศาสตร์พอจะเป็นคำที่ใช้แทนกันได้บ้าง อย่างไรก็ตาม พวกเขาเพิ่งเริ่มแตกแขนงออกไปเอง และตอนนี้มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนในสังคมสมัยใหม่

เศรษฐศาสตร์ เน้นไปที่การโน้มน้าวและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเป็นหลัก เศรษฐกิจการเมืองจะเน้นที่ปัจจัยบางประการที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนและอิทธิพลที่พวกเขามีต่อกัน เป็นการผสมผสานระหว่างการศึกษาการเมืองกับการสังเกตเศรษฐศาสตร์

เศรษฐศาสตร์การเมือง คืออะไร?

เศรษฐกิจการเมือง มีสามประเภทหลัก ๆ ที่เราเห็นทั่วโลก

• สังคมนิยม
• ทุนนิยม
• คอมมิวนิสต์

เศรษฐศาสตร์การเมือง คือ วิชาที่ศึกษาเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างการเมืองกับเศรษฐกิจตลอดจนอิทธิพลที่มีต่อรัฐบาลและประชาชนในภูมิภาคหรือประเทศ แม้ว่าจะเรียกว่าเศรษฐศาสตร์การเมือง แต่ผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับสังคมวิทยา เศรษฐศาสตร์ และรัฐศาสตร์เพื่อเรียนรู้ว่าพวกเขามีอิทธิพลต่อกันและกันอย่างไร

• การผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ
• ความมั่งคั่งมีการกระจายอย่างไร
• กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
• อุปสงค์และอุปทาน
• อิทธิพลของนโยบายสาธารณะต่อสังคม
• อิทธิพลของรัฐบาลต่อสังคม
• ใครได้กำไรมากที่สุด

บทบาทของเศรษฐศาสตร์การเมือง

เศรษฐศาสตร์การเมือง คือ การผสมผสานเศรษฐศาสตร์มาตรฐานเข้ากับการวิจัยและการค้นพบใหม่ ๆ ทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากเศรษฐกิจการเมือง มุ่งเน้นไปที่การที่การเมืองมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจและในทางกลับกัน พวกเขาสามารถสังเกตเห็นแนวโน้มร่วมกันและรวบรวมแนวคิดเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่กำลังเล่นอยู่และเคยเล่นในอดีต

ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้คนเข้าใจสังคมส่วนบุคคลและการกระทำของพวกเขาได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสนอแนวทางแก้ไขในการเปลี่ยนแปลงสังคมเหล่านั้นสำหรับผู้ที่สนใจ ช่วยให้เราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและคาดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

การผลิตและการค้าสัมพันธ์กับรัฐบาล

รัฐบาลมีบทบาทบางอย่างเกี่ยวกับการผลิตและการค้า โดยปกติจะมีสาขาของรัฐบาลกลางเช่นกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาและการบริหารการค้าระหว่างประเทศที่ดูแลและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระดับที่ใหญ่กว่านั้น สภาคองเกรสสามารถควบคุมเฉพาะสินค้าและบริการที่แต่ละรัฐผลิต แล้วจึงทำการค้าระหว่างกันและระหว่างประเทศ นี่เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมว่าเศรษฐกิจการเมือง รัฐบาล และกฎหมายมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างไร

การผลิตและการค้าสัมพันธ์กับรัฐบาล

รัฐบาล มีบทบาทบางอย่างเกี่ยวกับการผลิตและการค้า โดยปกติจะมีสาขาของรัฐบาลกลางเช่นกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาและการบริหารการค้าระหว่างประเทศที่ดูแลและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระดับที่ใหญ่กว่านั้น สภาคองเกรสสามารถควบคุมเฉพาะสินค้าและบริการที่แต่ละรัฐผลิต แล้วจึงทำการค้าระหว่างกันและระหว่างประเทศ นี่เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมว่าเศรษฐกิจการเมือง รัฐบาล และกฎหมายมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างไร

การกระจายรายได้และความมั่งคั่ง

เศรษฐกิจการเมือง พยายามที่จะกำหนดวิธีที่บุคคลและกลุ่มอื่น ๆ ได้รับรายได้ตลอดจนการสะสมความมั่งคั่งและอำนาจ นี่คือจุดที่ทฤษฎีการเมืองและเศรษฐศาสตร์โดดเด่นจากกันและกันผ่านนโยบายในการเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน หรือการขาดแคลน

การเทรดสาย Global Macro

แม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพเองก็นิยมเข้าไปฝึกฝนในระบบบัญชีเงินจำลอง หรือที่เรียกว่า "Demo Account" อยู่อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งโดยเฉพาะเหรียญใหม่อย่าง Solana เรายิ่งต้องมีการทดสอบระบบเทรดก่อนว่า ระบบเทรดของเราสอดรับกับพฤติกรรมราคาที่ผ่านมาหรือไม่

บัญชี Demo Account จะสร้างความมั่นใจให้กับนักเทรดที่มีประสบการณ์อยู่แล้วและช่วยปิดจุดอ่อนต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ ก็เป็นเครื่องมือสำหรับ "เทรดเดอร์มือใหม่" ในการเรียนรู้ตลาด เพราะว่า!

• สามารถเทรดได้เหมือนตลาดจริงทุกประการ
• สามารถใช้เครื่องมือเทรดและสัมผัสถึงสภาพแวดล้อมแบบบัญชีจริงทุกประการ
• คำนวณกำไรขาดทุนเหมือนเงินจริงทุกประการ และคำนวณตามราคาตลาดจริงๆ

คุณสามารถฝึดเทรดได้เรื่อยๆ โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ ผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ที่จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบประสบการณ์การเทรดของคุณเองได้

ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์การเมือง

ทุนนิยมในเศรษฐศาสตร์การเมือง

ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองนี้ ซึ่งแพร่หลายที่สุดในสหรัฐอเมริกา อธิบายถึงแนวคิดที่ว่าผลกำไรและผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นแรงจูงใจและแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังเศรษฐกิจและความก้าวหน้า บุคคลและนักแสดงอื่นๆ ในตลาดเศรษฐกิจมีความสนใจและนั่นคือสิ่งที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจของพวกเขา

พวกเขาควบคุมการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ กำหนดราคาเพื่อพยายามสร้างกำไรสุทธิหรือคงความสามารถในการแข่งขัน และสร้างห่วงโซ่อุปทานและอุปสงค์

สังคมนิยม

สังคมนิยม เน้นการผลิตและการกระจายสินค้าและผลกำไรควรถูกควบคุมโดยสังคมโดยรวม แทนที่จะเป็นกลุ่มย่อยเล็กๆ ของคนเช่นในระบบทุนนิยม

ข้อโต้แย้งและการสนับสนุนเบื้องหลังเศรษฐกิจการเมืองนี้คือความมั่งคั่งที่เกิดจากกลุ่มสังคมนั้นถูกสร้างขึ้นโดยผู้เข้าร่วมที่เต็มใจโดยไม่คำนึงถึงสถานะ ความมั่งคั่ง เชื้อสายและอื่น ๆ ของบุคคลเหล่านั้น เป้าหมายของลัทธิสังคมนิยมคือการลดหรือปิดช่องว่างระหว่างชนชั้นสูงเพียงไม่กี่คนที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย และคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีความมั่งคั่งหรืออำนาจอย่างมีนัยสำคัญ

คอมมิวนิสต์

ลัทธิคอมมิวนิสต์มักถูกตีความผิดว่าเป็นสังคมนิยมโดยบุคคลที่สับสน ความแตกต่างที่สำคัญคือการผลิตและแจกจ่ายทรัพยากรและทรัพย์สินที่ใช้ร่วมกันทั้งหมดควรได้รับการควบคุมโดยรัฐบาลกลางซึ่งต่างจากสังคมทั้งหมด

ความแตกต่างที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือภายใต้ลัทธิสังคมนิยม ปัจเจกบุคคลสามารถถือครองและเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ เศรษฐกิจการเมืองนี้สร้างทฤษฎีขึ้นโดย Karl Marx ผู้ซึ่งเข้าใจว่าระบบทุนนิยมสามารถสร้างความแตกแยกที่ยิ่งใหญ่ระหว่างคนรวยและคนจนในระบบเศรษฐกิจเดียวได้อย่างไร

คุณสามารถเรียนรู้เรื่องราวการเทรด และเศรษฐกิจการเมืองได้ผ่าน Webinar ของเรา

ความไม่มั่นคงทางการเมืองส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร?

การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า ความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงหรือลดลง ซึ่งได้มีการศึกษาค้นคว้าจนเป็นความรู้ทั่วไป อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นได้เจาะลึกลงไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้เกิดปฏิกิริยาเชิงลบในระบบเศรษฐกิจอย่างไร

ความไม่มั่นคงทางการเมืองไม่เพียงแต่ลดการเติบโตของผลิตภาพในประเทศเท่านั้น แต่ยังช่วยลดจำนวนสินค้าที่ผลิตและแม้แต่จำนวนคนด้วย นี่คือการรับรู้ที่สำคัญในฐานะทุนมนุษย์ หรือการเติบโตส่งผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนสินค้าที่จับต้องได้ ทุนมนุษย์ถือเป็นกลไกหลักที่ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจไปข้างหน้า

ความไม่มั่นคงทางการเมือง จึงไม่เพียงแต่ลดการเติบโตทางกายภาพเท่านั้น แต่การเติบโตของมนุษย์ก็แสดงให้เห็นด้วยว่ามันตัดผ่านสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้โดยตรง ซึ่งหมายความว่าจนกว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองจะได้รับการแก้ไขและปัญหาได้รับการแก้ไข การเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงช้าลง

การเลือกตั้งระดับประเทศ

ตลอดประวัติศาสตร์จะเห็นว่า ทุกประเทศเศรษฐกิจตกต่ำในปีก่อนการเลือกตั้ง นี่เป็นเพราะปัจจัยหลายประการ

ประการแรก คือ ผู้นำทางการเมืองจำนวนมากจะใช้การเปลี่ยนแปลงมากมายในสวัสดิการและสิ่งอื่น ๆ ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเพื่อดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผู้นำทางการเมืองรายนั้นมีโอกาสได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง

ผู้นำเหล่านี้พึ่งพาผลประโยชน์ระยะสั้น และผลกระทบต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างไร ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมักจะสนใจผลประโยชน์ในระยะสั้นมากกว่าผลประโยชน์ระยะยาวในการตัดสินใจเลือกผู้นำคนใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สามารถนำไปสู่หนี้สินของรัฐบาลได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากพวกเขาใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อให้ผลประโยชน์เหล่านี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับ "การลดภาษี" หากผู้นำทางการเมืองตัดสินใจที่จะเพิ่มภาษีหรือเก็บภาษีไว้เหมือนเดิม ผู้นำทางการเมืองอาจฉายแสงในทางที่ไม่ดีต่อหน้าผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลนี้เอง ภาษีจึงอาจลดลงได้ระยะหนึ่งก่อนการเลือกตั้ง

ธุรกิจและอุตสาหกรรมจำนวนมาก ยังละเว้นจากการตัดสินใจครั้งใหญ่หรือการลงทุนใกล้กับการเลือกตั้งมากเกินไป หากมีบุคคลอื่นเข้ามามีอำนาจ นโยบายและกฎหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขา สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อธนาคารเช่นกันเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ให้สินเชื่อมากนัก

ทบทุกคนในประเทศให้ความสำคัญกับปัญหาระยะสั้นเมื่อใกล้ถึงช่วงเลือกตั้ง ธุรกิจไม่ได้คิดถึงผลกระทบหรือการเติบโตในระยะยาว ดังนั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงชะลอตัวลงชั่วขณะหนึ่ง

สุดท้ายนี้ เราพบว่าอัตราเงินเฟ้อ มักเพิ่มขึ้นในช่วงใกล้การเลือกตั้ง หลายฝ่ายแย่งชิงอำนาจใช้เงินจำนวนมากเพื่อส่งเสริมตนเองและปราบฝ่ายตรงข้าม

อเมริกาเหนือ

สหรัฐอเมริกาซึ่งจัดทุก 4 ปี ไม่รวมการเลือกตั้งระดับย่อย เราจะเห็นว่าปัญหาต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงเกือบตลอดเวลา

สำหรับสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจมักได้รับการโหวตให้เป็นปัญหาการเลือกตั้งอันดับหนึ่งในช่วงปีการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังคงเห็นว่าผู้คนลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนใหม่โดยพิจารณาจากคำสัญญาระยะสั้นที่มีต่อประธานาธิบดี

มีข้อยกเว้นสำหรับการศึกษาข้างต้น แคนาดาดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากต้องพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง ยังคงมีเสถียรภาพแม้ในช่วงปีการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม นี่หมายความว่าเศรษฐกิจของแคนาดาต้องพึ่งพาเศรษฐกิจของประเทศที่พวกเขาส่งออกไปมากที่สุด แต่พวกเขาเป็นประเทศที่ดำเนินการตามความต้องการ หากเศรษฐกิจโลกกำลังลดลงและประเทศที่พวกเขาค้าขายด้วยไม่สามารถซื้อได้มากเท่าที่ควร เศรษฐกิจของแคนาดาก็จะเริ่มลดลงเช่นกัน

ยุโรป

ยุโรปต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองมากมาย กับปัญหาต่าง ๆ เช่น Brexit และความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์การเมืองหลายคนระบุว่าเป็น "หนึ่งในปัญหาหลัก"

สาเหตุของเศรษฐกิจตกต่ำและความไม่มั่นคงทางการเมืองในยุโรป ดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับความสิ้นหวังของคนรุ่นใหม่และคนที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่พอใจรัฐบาล บางส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการที่สหราชอาณาจักรถูกแยกออกจากส่วนที่เหลือของสหภาพยุโรป (Brexit)

แม้จะมีมาตรการเพื่อทำให้กระบวนการนี้ราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้ ECB (ธนาคารกลางยุโรป) ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและทำให้เกิดกรณีความยากจนที่สูงขึ้น

ความท้อแท้เป็นปัจจัยใหญ่ใน "ความไม่มั่นคงทางการเมือง" และความเสื่อมของเศรษฐกิจ กับเยาวชนที่อยู่ในวัยที่จะลงคะแนนเสียงและเปลี่ยนแปลงความคิดที่ว่าความคิดเห็นของพวกเขาไม่สร้างความแตกต่าง

คนรุ่นใหม่หลายคนจึงไม่พยายามที่จะลงคะแนนเสียงหรือเปลี่ยนนโยบาย เนื่องจากพวกเขามองว่าตนเองไม่ได้สร้างความแตกต่าง สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความไม่มั่นคง และการแสดงผลของความไม่มั่นคงที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม

แม้ในช่วงเวลาที่มีเสถียรภาพ "คนรุ่นใหม่" มักคาดหวังว่าจะอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากกลัวความไม่มั่นคงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยก็ตาม

การต่อสู้ของ "คนรุ่นใหม่" กับ "ธุรกิจที่ย่ำแย่" และแนวปฏิบัติด้านการจัดการยังทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างมาก

พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นสำหรับคนงาน อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ การขาดแคลนแรงงาน และการไม่สามารถดำเนินธุรกิจในปัจจุบันได้ยังทำให้เกิดความไม่มั่นคงในขณะที่ปัญหาเหล่านี้กำลังได้รับการแก้ไข

เอเชีย

ในประเทศที่อยู่ใกล้พรมแดนของแอฟริกาและเอเชีย โดยเฉพาะประเทศอาหรับ (จอร์แดน อียิปต์ เลบานอน และตูนิเซีย) จากการศึกษาพบว่า การทุจริตเป็นหนึ่งในปัจจัยความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเด็นต่าง ๆ เช่น คุณภาพด้านกฎระเบียบ

ที่น่าสนใจ คือ การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ตัวแปรเศรษฐกิจมหภาคไม่เกี่ยวข้องกับความไม่มั่นคงทางการเมือง และเปลี่ยนแปลงช้ามากในการตอบสนองต่อความขัดแย้งทุกรูปแบบ

ผลการวิจัยที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งจากการวิจัยครั้งนี้พบว่า การลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Shell ทำได้ดีกับความไม่แน่นอนของนโยบายในประเทศที่มีรายได้ต่ำ มีความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการลงทุนกับความไม่แน่นอนของนโยบายในระยะยาว

แอฟริกา

แอฟริกาที่สามารถต่อสู้เพื่อเอกราชยังคงแสดงสัญญาณของความไม่มั่นคงทางการเมืองและความเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจตั้งแต่กลายเป็นหน่วยงาน น่าเสียดายที่ในอดีต ผู้คนมองว่านี่เป็นข้ออ้างว่า บางประเทศหรือบางพื้นที่จึงต้องถูกควบคุมโดยไม่ดูสาเหตุที่แท้จริง

นักเศรษฐศาสตร์การเมืองได้เริ่มมองว่าเหตุใดประเทศต่างๆ ที่เพิ่งได้รับเสรีภาพมาต่อสู้ดิ้นรน และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างมาก สิ่งที่พวกเขาพบคล้ายกับสิ่งที่เรากำลังเริ่มคาดหวังในตอนนี้ นั่นคือการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมืองเป็นอย่างมาก

ด้วยความรู้ที่เรามีในตอนนี้ ทำให้รู้สึกว่าเมื่อประเทศใดประเทศหนึ่งถอยห่างจากการสนับสนุนประเทศอื่นอย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว จะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจตกต่ำจำนวนมากตามมา

แม้แต่กับผู้นำที่ดีและแข็งแกร่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยังส่งผลกระทบต่อความไม่มั่นคงทางการเมือง ปัญหาทั้งสองจึงต้องได้รับการจัดการในคราวเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยผู้คนที่มองแต่การแก้ไขระยะสั้นในช่วงปีการเลือกตั้ง ปัญหาเหล่านี้จะไม่ได้รับการแก้ไข

อเมริกาใต้

อเมริกาใต้และละตินอเมริกา ติดอยู่ในภาวะถดถอยติดลบมาเกือบ 30 ปีแล้ว มีความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความเปราะบางทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก โรคระบาดไม่ได้ช่วยและทำให้รัฐบาลพิการมากกว่าที่เป็นอยู่

เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ทำให้ทุนมนุษย์หรือการเติบโตของมนุษย์ลดลง จึงสมเหตุสมผลที่การสูญเสียชีวิตอย่างรุนแรงเช่นนั้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่คล้ายคลึงกันในระบบเศรษฐกิจ เปรูเพียงประเทศเดียวสูญเสียผู้คนเกือบ 1,000 คน ต่อล้านคนในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกต่อประชากรในช่วงการระบาดใหญ่

ชิลีและเอกวาดอร์ เป็นประเทศที่เสียชีวิตต่อประชากรสูงสุดรายต่อไป ในปี 2021 พวกเขาเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งและทำลายล้างสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่มีความสุขและไม่แยแส ไม่เพียงแต่ความไม่มั่นคงทางการเมืองจะสูงเท่านั้น

แต่ประเทศเหล่านี้มีผลดีต่อนักลงทุน เนื่องจากการทำเหมืองและการผลิตทองแดง แม้ว่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาจะมีการเติบโตที่ดีสำหรับนักลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงมากมาย เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมืองทำให้เกิดปัญหาและการหยุดชะงักมากมายเมื่อพูดถึงซัพพลายเชนทั่วโลก

การศึกษาแสดงให้เห็นว่า เปรูมีโอกาสประมาณ 75% ที่จะประสบปัญหาการลดลงมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การล่มสลายของพรรคระดับชาติ และการแข่งขันที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้

เศรษฐกิจการเมืองหลัก ๆ 4 ประเภท

เศรษฐกิจการเมืองเป็นการผสมผสานระหว่างเศรษฐศาสตร์ การเมือง และทฤษฎีต่าง ๆ ตลอดจนวิธีการโต้ตอบ ระบบเศรษฐกิจจึงมีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจเศรษฐกิจการเมืองโดยรวม ระบบเศรษฐกิจในการกำหนดวิธีการควบคุมปัจจัยของการเติบโตและการผลิต เช่น ที่ดิน ทุนดิบ แรงงานคน และทรัพยากรทางกายภาพ

มีระบบเศรษฐกิจหลัก 4 ระบบที่แต่ละระบบทำงาน โดยอิงตามเงื่อนไขและข้อสันนิษฐานที่ไม่ซ้ำกัน แต่ยังมีลักษณะพื้นฐานที่ใช้ร่วมกันระหว่างระบบทั้งหมด

เศรษฐกิจแบบดั้งเดิม

อุตสาหกรรมหลักสร้างผลิตภัณฑ์และรายได้ส่วนใหญ่ในระบบเศรษฐกิจประเภทนี้ "การเกษตร" โดย เศรษฐกิจแบบดั้งเดิมมีความยั่งยืนมากและมีของเสียจากการผลิตเกินขนาดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากแบบจำลองนี้ไม่สามารถผลิตสินค้าที่พึงประสงค์ได้ในสถานการณ์ส่วนใหญ่

เศรษฐกิจตลาดเสรี

ระบบเศรษฐกิจนี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดของ "ตลาดเสรี" ที่มีการแทรกแซงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แม้แต่ทรัพยากรดิบก็ไม่ได้ถูกควบคุมหรือจัดสรรโดยรัฐบาล ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสินค้าเป็นแกนหลักของสิ่งที่ควบคุมเศรษฐกิจประเภทนี้และมาจากประชาชนเกือบทั้งหมด

ระบบเศรษฐกิจนี้ไม่ค่อยพบเห็นในโลกแห่งความเป็นจริง เนื่องจากเศรษฐกิจทางการเมืองทำให้เศรษฐกิจที่โดดเด่นทั้งหมดได้รับอิทธิพลจากรูปแบบอำนาจบางอย่าง ตัวอย่าง กฎหมายและการแทรกแซงเหล่านี้มักถูกมองว่าควบคุมการค้าที่เป็นธรรมและการผูกขาดทางอุตสาหกรรม

เศรษฐกิจคำสั่ง (Command)

เศรษฐกิจตามแผน มักมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจการเมืองมากกว่าระบบอื่น ๆ เนื่องจากถูกควบคุมโดยผู้มีอำนาจส่วนกลางเพียงแห่งเดียวเช่นรัฐบาล

โมเดลนี้จึงเข้ากันได้ดีกับ "สังคมคอมมิวนิสต์" เนื่องจากทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันและทางเลือกในการผลิตถูกควบคุมโดยรัฐบาล รัฐบาลในเศรษฐกิจการเมืองนี้ควบคุมทรัพยากรที่มีค่าและสำคัญอย่างน้ำมันอย่างเข้มงวด เมื่อมีทรัพยากรที่มีอยู่มากมายสำหรับเศรษฐกิจ

อุตสาหกรรมและภาคส่วนอื่น ๆ ที่ถือว่ามีความสำคัญน้อยกว่าจะถูกส่งต่อและควบคุมโดยประชาชน เหล่านี้รวมถึงอุตสาหกรรมเช่นการเกษตร เศรษฐกิจการบังคับบัญชาเข้มงวดเป็นพิเศษและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางการค้าและการผลิตอย่างช้า ๆ การควบคุมอำนาจจากส่วนกลาง

เศรษฐกิจผสม

"ระบบคู่" บางครั้งใช้เพื่ออธิบายระบบตลาดเสรีที่มีการควบคุมด้านกฎระเบียบอย่างเข้มงวด ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีกโลกตะวันตก ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสมผสาน ซึ่งอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นแบบส่วนตัว แต่ระบบนี้ มีแนวโน้มว่าจะเป็นระบบโดยพฤตินัยของเศรษฐกิจการเมืองทั่วโลก

รัฐบาล จึงควบคุมส่วนที่เหลือของภาคส่วน ซึ่งจบลงด้วยการบริการสาธารณะเกือบทั้งหมด ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังระบบเศรษฐกิจนี้ ควรจะผสมผสานด้านที่ดีที่สุดของทั้งตลาดเสรีและระบบคำสั่ง

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับระบบคำสั่ง โดยทั่วไปจะไม่เห็นสิ่งนี้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากการสร้างสมดุลที่ถูกต้องนั้นยาก ในท้ายที่สุด รัฐบาลในระดับสากลมีแนวโน้มที่จะใช้การควบคุมเศรษฐกิจมากเกินไปจนเกินความจำเป็นอย่างแท้จริง

เศรษฐกิจการเมืองของตลาดการเงิน

ตลาดการเงิน มีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อนโยบายใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ยากต่อการทำความเข้าใจผลกระทบแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ บ่อยครั้งที่ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมในช่วงเวลาที่หลากหลาย เช่น รายเดือนหรือครึ่งปีเมื่อข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงทุกวันหรือเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในอดีตแสดงให้เราเห็นว่า ตลาดการเงินส่งผลกระทบต่อการเมืองในลักษณะเดียวกับที่การเมืองส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโดยพึ่งพาอาศัยกัน

น่าเสียดายที่การดูข้อมูลในอดีตทำให้เกิดปัญหา อิทธิพลโดยตรงต่อตลาดการเงิน แต่ก็มักถูกมองข้ามในระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่าการประกาศนโยบายมักไม่ได้รับการศึกษาอย่างครบถ้วนว่าประกาศดังกล่าวมีอิทธิพลต่อตลาดการเงินอย่างไร

อิทธิพลนี้ได้รับการศึกษาอย่างละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเมือง ขณะนี้ ผู้คนกำลังศึกษาว่าตลาดการเงินสามารถตอบสนองต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ดีขึ้นอย่างไร

ดาวน์โหลดโปรแกรมเทรดฟรี!

คุณรู้หรือไม่ว่า? MetaTrader 5 หรือ "MT5" เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่มีเครื่องมือการวิเคราะห์กราฟขั้นสูง, ระบบการเทรดอัตโนมัติ ปรับแต่งเครื่องมือและกราฟได้ตามต้องการ อีกทั้ง โบรกเกอร์ Admirals ยังได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษ

• เปิดบัญชีทดลองได้ฟรี
• และหากต้องการลงทุนในตลาดจริง เงินฝากขั้นต่ำเพียง 25 USD หรือประมาณ 750 บาทเท่านั้น!
• มีหุ้นมากกว่า 4,000 รายการจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
• สามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดถึง 1:1000 ทำให้ซื้อขายได้มากกว่าปกติ 1,000 เท่า เหมาะสำหรับการแก้สถานการณ์ต่าง

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี Demo หรือบัญชีจริง คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

เศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางการเมืองส่งผลต่อตลาดการเงินอย่างไร?

ตลาดหุ้น

เศรษฐศาสตร์การเมือง มักมีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดและหุ้น แต่ประวัติศาสตร์และแนวโน้มที่บันทึกไว้ได้แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบค่อนข้างน้อยและโดยอ้อม

ความไม่แน่นอนทางการเมือง มีบทบาทในความผันผวนของตลาดหุ้น แม้ว่าจะเป็นเพียงในระยะสั้นในกรณีส่วนใหญ่ ในท้ายที่สุด กฎระเบียบใด ๆ ที่มาจากการเมืองที่ไหลลงมาสู่บริษัทต่าง ๆ และนักลงทุนจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในตลาดก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในบรรทัดล่างสุดของบริษัทเท่านั้น

ในสหรัฐอเมริกา ผู้นำทางการเมืองของพรรครีพับลิกัน ได้รับการสนับสนุนมากกว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเดโมแครต เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะลดกฎเกณฑ์โดยทั่วไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า แต่ไม่ถึงขั้นที่นโยบายกลายเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม

ตลาดตราสารหนี้

ตลาดตราสารหนี้เป็นคำที่ใช้อธิบายการจ่ายเงินให้กับนักลงทุน โดยปกติจะอยู่ในรูปของดอกเบี้ยคงที่หรือเงินปันผลที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในวันที่ลงทุน

สินทรัพย์เหล่านี้ส่วนใหญ่ครบกำหนดแล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับชำระคืนตามจำนวนที่ลงทุนเดิมนอกเหนือจากดอกเบี้ยที่ได้รับตลอดระยะเวลาที่สินทรัพย์นั้นเติบโตเต็มที่ ตลาดตราสารหนี้ทั่วไปสองประเภท ได้แก่ พันธบัตรองค์กรและพันธบัตรรัฐบาล ตัวอย่างอื่น ๆ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรเทศบาล และบัตรเงินฝาก

พันธบัตรรัฐบาล

พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยชื่อเดียวกันเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายและภาระผูกพันอื่น ๆ ของรัฐบาล เหล่านี้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งโดยทั่วไปจะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำเนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนด้านตราสารหนี้

การลงทุนประเภทนี้มักได้รับการปกป้องจากผลกระทบของเศรษฐกิจการเมืองแม้ว่าจะยังอ่อนไหวต่อภาวะเงินเฟ้อก็ตาม ในกรณีเช่นนี้ อัตราดอกเบี้ยรายได้คงที่จะจับคู่ได้อย่างรวดเร็วหรือแม้แต่แซงหน้าด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุด

บทสรุปของเศรษฐศาสตร์การเมือง

การศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง สามารถนำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่ดีขึ้นในอนาคต ด้วยการศึกษาและการวิจัยทางประวัติศาสตร์ที่เพียงพอ อาจสามารถช่วยประเทศต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกไป

แม้ว่าเราจะเข้าใจถึงอิทธิพลพื้นฐานเกี่ยวกับความไม่สมดุลทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกำหนดและควบคุมทุกปัจจัยที่ส่งผลกระทบทั้งสองอย่าง ยังมีตัวแปรและแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักอีกมากมายที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าเราจะเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐศาสตร์การเมืองอย่างไร

ยังมีเรื่องราวอีกมากที่ต้องเรียนรู้ หากต้องการแก้ไขปัญหาที่ระบาดในหลายประเทศในปัจจุบัน เรายังไม่ทราบอีกมาก และมีปัจจัยหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในคราวเดียว ซึ่งทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีวิธีแก้ปัญหาที่แก้ไขทุกอย่างได้ในครั้งเดียว

ดูเหมือนว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในทุกด้าน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาที่เราเผชิญ แต่เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้

เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ Admirals!

• เปิดบัญชีทดลอง หรือ Demo ได้ฟรี และเปิดใหม่ได้เรื่อย ๆ หากบัญชีหมดอายุ
• เทรดตลาด Commodity สำคัญ ๆ ได้ครบทุกตัว ทองคำ, น้ำมัน, แร่ธรรมชาติ ฯลฯ
• ฝึกลงทุนแบบนักลงทุน VI ด้วยพันธบัตรและกองทุน ETF ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ARK, iShare, SPDR
• ทดลองเทรดค่าเงิน Forex ได้หลากหลาย ทั้งสกุลเงินหลัก USD, EUR, GBP หรือสกุลเงินเอเซีย AUD, NZD, SGD เป็นต้น

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อการวิเคราะห์:

สื่อ, สารสนเทศที่ได้นำเสนอมีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์รายเดือนหรือรายสัปดาห์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals SC Ltd. ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้

• นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใด ๆ ในการจัดการก่อนการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
• การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง ซึ่ง Admirals SC Ltd.จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
• ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าของเราและความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ Admirals SC Ltd ได้กำหนดกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์
• การวิเคราะห์จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ (นักวิเคราะห์) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้เขียน") เนื้อหาเป็นไปตามการประมาณการณ์ส่วนบุคคล
• ในขณะที่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือและมีการนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่เข้าใจได้ทันเวลา แม่นยำและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Admirals SC Ltd ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของ ข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์
• ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหรือแบบจำลองใด ๆ ในอดีตของเครื่องมือทางการเงินที่ระบุไว้ในเนื้อหา ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยโดย Admirals SC Ltd สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในอนาคต มูลค่าของตราสารทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นและลดลง ไม่มีการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น
• ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับความแตกต่าง; CFD) เป็นลักษณะของการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มการซื้อขายโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้