มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คืออะไร?

Admirals
20 นาที

หากคุณได้อ่านหรือดูข่าวใด ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณจะเคยได้ยินคำว่า "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" หรือ "โปรแกรมอัดฉีดเม็ดเงิน" ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจที่ถูกทำลายลงจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19

แต่คุณเข้าใจหรือไม่ว่าคำนี้หมายถึงอะไร? ที่สำคัญคุณเข้าใจหรือไม่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้อย่างไร มีผลต่อการลงทุนของคุณหรือไม่? ในบทความนี้ เราจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดเอง

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คืออะไร?

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ ชุดของมาตรการที่รัฐบาลหรือธนาคารกลางนำมาใช้เพื่อแทรกแซงเศรษฐกิจที่กำลังมีปัญหาการฝืดเคือง กระตุ้นเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น นโยบายนี้จะใช้กับเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงที่เรียกว่า "Recession" หรืออาจใช้กับช่วงที่เจอปัญหาทางเศรษฐกิจฉับพลันอย่าง ไฟไหม้ป่า, โรคระบาด หรือฟองสบู่แตก เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ คำว่า "นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ" จึงอยู่ในหัวข้อข่าวมาตลอดหลายสิบปี และในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหายจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 รัฐบาลของหลายประเทศจึงหันมาใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อแทรกแซงและบรรเทาทุกข์ให้กับทั้งบุคคลทั่วไป และธุรกิจที่ต้องการเงินกู้เพื่อเอากลับไปพยุงธุรกิจของตัวเอง

แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการแทรกแซงของรัฐบาลในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ คือ การเพิ่มค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งเม็ดเงินจะกระจายหรือเปลี่ยนมือไปยังหน่วยเศรษฐกิจอื่น ๆ ในระบบ และอาจใช้มาตรการอื่น ๆ ประกอบกัน เช่น การลดภาษี นี่คือหนึ่งในหลักการสำคัญของ Keynesian ซึ่งพยายามโต้แย้งทฤษฎีเก่า โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจไม่สามารถแก้ไขตนเองได้เสมอไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการแทรกแซงของรัฐบาลในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ

แล้วรัฐบาลและธนาคารกลางจะเข้ามาแทรกแซงเศรษฐกิจได้อย่างไร? มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีลักษณะอย่างไร? และหมายความว่าอย่างไรสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน?

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำงานอย่างไร?

ก่อนอื่นควรทราบก่อนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถดำเนินการได้ผ่านนโยบายการเงินทั้งของธนาคารกลางหรือนโยบายการคลังของรัฐบาล โดยมีเครื่องมือต่าง ๆ ดังนี้

นโยบายการเงิน

ธนาคารกลาง มีเครื่องมือหลัก 2 อย่าง ในการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยและการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

อัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ย เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจมาก อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จะลดแรงจูงใจสำหรับผู้คนและสถาบันในการออมเงินไว้ในธนาคาร เนื่องจากได้รับดอกเบี้ยน้อยลง ดังนั้น จึงมีแรงจูงใจเพิ่มขึ้นในการใช้จ่ายหรือลงทุน

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ยังหมายความว่า ต้นทุนการกู้ยืมเงินจะมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคืนน้อยลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการกู้ยืมไปลงทุน ทำให้ปริมาณเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น

ในหลายประเทศ แม้กระทั่ง สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก นับตั้งแต่เหตุการณ์ "เศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่" ในปี 2008 เพราะประเทศเหล่านี้ต้องการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ซึ่งจะดึงเศรษฐกิจออกจากภาวะถดถอยได้

มาตรการ QE

มาตรการ QE หรือ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ เป็นวิธีการที่ธนาคารกลางจะอัดฉีมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แน่นอนว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนอีกเช่นกัน

โดยธนาคารกลาง จะดำเนินการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินจำนวนมาก เช่น พันธบัตรจากสถาบันการเงินอื่น ๆ หรือของรัฐบาล วิธีการนี้ จะช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและอำนวยความสะดวกในการที่สถาบันการเงินอื่น ๆ จะหาแหล่งสำหรับขายพันธบัตรของตน (การที่บริษัทกู้ยืมโดยการออกพันธบัตร)

การรับซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดลดลง ซึ่งจะกระตุ้นให้นักลงทุนสถาบัน เปลี่ยนมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าอย่างหุ้น (ตราสารทุน)

นโยบายการคลัง

เป้าหมายของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คือ การเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เครื่องมือที่รัฐบาลมีเรียกว่า "นโยบายการคลัง" หลัก ๆ มี 2 วิธี

วิธีแรก คือ การลดภาษีซึ่งจะทำให้ประชาชนที่เงินเหลือเก็บมากขึ้น มีอำนาจในการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลคาดหวัง ให้ประชาชนนำเงินที่เหลือไปบริโภคที่เพิ่มขึ้น

วิธีที่สอง คือ ให้รัฐบาลเพิ่มการใช้จ่าย (อาจเรียกว่า "กระจายเม็ดเงิน") ซึ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจย่ำแย่โดยเฉพาะ เช่น การสงเคราะห์ให้กับบุคคลหรือธุรกิจที่สำคัญ ๆ ดังที่เราจะได้เห็นมาตลอดการระบาดของไวรัส Covid-19

ในสหรัฐฯ รัฐบาลได้จัดให้ประชาชนแต่ละคน ได้รับเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ซึ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนกรณีของ สหราชอาณาจักร มีการให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจในรูปแบบของเงินกู้ราคาถูก, โครงการลดหย่อนภาษีหรือค่าใช้จ่ายบางประเภท สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถยังคงจ้างงานพนักงานไว้ได้ ประชาชนก็มีเงินไปใช้จ่าย

ทั้งนี้ รัฐบาลอาจใช้วิธีการลงทุนกับโครงสร้างสาธารณะ, โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น เขื่อน, ทางรถไฟ, อุโมงค์ เพื่อสร้างการจ้างงานก็ได้เช่นกัน เนื่องจาก ผู้รับเหมาก่อสร้างมักมีคนงานใต้การบริหารจำนวนมาก ก็เท่ากับเป็นการกระจายเม็ดเงินให้บุคคลเหล่านั้น

ความเสี่ยงของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง คือ แทนที่จะเพิ่มการบริโภค บุคคลอาจมีแนวโน้มที่จะประหยัดรายได้เพิ่มเติมที่ได้รับจากการลดหย่อนภาษีหรือการจ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลต่อตลาดการลงทุนอย่างไร?

ตอนนี้เราทราบแล้วว่า มีมาตรการใดบ้างที่รัฐบาลและธนาคารกลาง สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของพวกเขา คำถามจริง ๆ สำหรับพวกเรา คือ มันส่งผลต่อตลาดการเงินไหน? อย่างไรบ้าง?

ตลาด Forex

อัตราแลกเปลี่ยน คือ มูลค่าของสกุลเงินของประเทศหนึ่งเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ มีปัจจัยหลายประการที่แตกต่างกันที่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ "อัตราดอกเบี้ย"

อัตราดอกเบี้ย

ค่าเงินมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์เชิงบวก (Positive Correlation) ระหว่างอัตราดอกเบี้ยและมูลค่าของสกุลเงิน ซึ่งหมายความว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อาจนำไปสู่สกุลเงินที่มีมูลค่าสูงขึ้น หรือแข็งค่าขึ้นนั่นเอง แน่นอนว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง มีแนวโน้มทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลงเช่นกัน

โดยความสัมพันธ์นี้ สามารถอธิบายได้ด้วยปัจจัยหลัก 2 ประการ ประการแรก คือ การลงทุนจากต่างประเทศ หากเป็นกรณีที่อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง หมายถึง ผลตอบแทนพันธบัตรจะลดลงด้วย นักลงทุนสถาบันที่ต้องการความแน่นอนของกระแสเงินสด จะย้ายเงินจากพันธบัตรของประเทศดังกล่าวไปประเทศอื่นที่ดอกเบี้ยสูงกว่า เม็ดเงินไหลออก (ขายสกุลเงินนั้นทิ้ง เพื่อไปถือสกุลเงินอื่น) ค่าเงินจะอ่อนค่าลงตามกลไกตลาด

ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น มีแนวโน้มจะเพิ่มแรงจูงใจ ให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ นำเม็ดเงินส่วนเกินของตนไปฝากไว้ และดันค่าเงินให้แข็งค่าขึ้นเช่นกัน

กราฟ GBPJPY ราย Daily: November 2018 - March 2021; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

กรณีนี้ อธิบายได้ค่อนข้างชัดเจน สหราชอาณาจักรมีระดับของอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่คุณอาจคาดหวังได้จาก คู่สกุลเงิน GBP/JPY คือ แนวโน้มเป็นกราฟขาขึ้น หรือค่าเงิน GBP มีมูลค่ามากกว่า JPY ในระยะยาว

มาตร QE หรือการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

มาตรการ QE ทำให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้น กระตุ้นให้การบริโภคเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับสินทรัพย์ใด ๆ การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินในระบบ จะนำไปสู่การลดลงของมูลค่าในที่สุด เป็นไปตามกลไกราคา

หากมีการประกอบกันระหว่าง 'อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ' และการอัดฉีดเงินผ่านมาตรการ QE จะยิ่งเพิ่มอัตราเร่งของปริมาณเงินในระบบ นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ และนำไปสู่การลดลงของมูลค่าเงินในที่สุด

สิ่งที่จะทำให้คุณเข้าใจกลไลการเปลี่ยนแปลงของตลาด Forex และนโยบายการเงิน รวมถึงเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจระดับโลก หรือที่เรียกว่า Global Macro นั้น คือการฝึกฝนการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาด ซึ่งแม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพก็ยังต้องติดตามและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และคำแนะนำของเรา คือ ควรจะเปิดบัญชีทดลองเพื่อศึกษาตลาด และทดลองลงทุนได้ฟรี ๆ

เปิดบัญชีทดลองฟรี!

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ตลาดหุ้น

การลดอัตราดอกเบี้ย จะเพิ่มแรงจูงใจในการใช้จ่ายเงิน แต่สิ่งสำคัญคือ "ได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อยลง" ดังนั้น นักลงทุนจึงมักมองหาช่องทางการลงทุน ที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ในทางกลับกัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จะเพิ่มแรงจูงใจในการเก็บเงินไว้ในธนาคาร ซึ่งจะส่งลบต่อตลาดหุ้น

  • ดอกเบี้ยขึ้น = ส่งผลลบต่อหุ้น
  • ดอกเบี้ยลง = ส่งผล "ดี" ต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม นั้นเป็นกรณีทั่วไป เราอาจต้องพิจารณาหุ้นบางประเภทที่ได้รับผลตรงกัน เช่น กรณีที่เกิดการลดอัตราดอกเบี้ย บริษัทส่วนใหญ่อาจได้ประโยชน์ แต่การลดดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง บริษัทที่เป็นธุรกิจนำเข้า จะมีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น ดังนั้น กรณีนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลเสียต่อหุ้นหรือบริษัทดังกล่าว

สำหรับในกรณีของ มาตรการ QE นั้น เนื่องจากเป็นหลักการที่ธนาคารกลางเพิ่มปริมาณเงิน โดยการเข้าซื้อพันธบัตร ส่งผลให้ราคาพันธบัตรเพิ่มขึ้น และผลตอบแทนโดยรวมของตลาดพันธบัตรจะลดลง พูดง่าย ๆ คือ การทำ QE จะกดอัตราดอกเบี้ยในตลาดให้ต่ำลง และย้อนกลับไปที่หลักการฝากเงิน นั้นคือ คนจะหนีจากเงินฝาก และวิ่งไปหาตลาดหุ้น สรุปคือการทำ QE จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นนั่นเอง

เทรดทองกับ Admirals แล้วได้อะไร?

  • สามารถใช้ 'เลเวอเรจ' ลงทุนได้มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันได้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ "Leverage คือ"
  • Negative Balance Protection : คุ้มครองเงินในบัญชีไม่ให้ต่ำกว่าศูนย์ บัญชีเทรดจะไม่มียอดติดลบ นักลงทุนจะไม่มีโอกาสเป็นหนี้โบรกเกอร์แบบตลาดหุ้นทั่วไป
  • เทรดด้วยแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งบน Windows, Mac, Web, Android และ iOS
  • ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินของตัวบัญชีได้ด้วยการเข้าไปเทรด Hedging ได้ตลอด 24 ชั่วโมง / 5 วันต่อสัปดาห์
  • เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 25 USD เท่านั้น!

สำหรับท่านที่ต้องการเปิดบัญชีเทรดทองออนไลน์ หรือต้องการทดลองใช้ "ระบบเงินจำลอง" ซึ่งจำลองเงินปลอมมาให้คุณฝึกเทรดทองในตลาดจริงๆ ได้ คุณสามารถลงทะเบียนเปิดใช้งานได้ฟรี คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง!

ตัวอย่างการลงทุนท่ามกลางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของ Biden ที่มีมูลค่าประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของการกระจายเม็ดเงินให้กับพลเมืองสหรัฐฯ โดยตรง ประกอบกับการให้ประโยชน์ด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธุรกิจขนาดเล็ก การลดภาษีและผลประโยชน์อื่น ๆ

แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้น เราอาจคาดหวังว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ลองพิจารณาคู่เงิน EURUSD เราจะเห็นการเพิ่มขึ้นของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปี 2021

กราฟ EURUSD ราย Daily: November 2018 - March 2021; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม การลดลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลดีต่อการส่งออกของสหรัฐ เพราะทำให้สินค้าส่งออกสหรัฐฯ มีราคาถูกลงในสายตาของผู้บริโภคต่างชาติ ดังนั้นหุ้นของบริษัท ผู้ส่งออกจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี Apple ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีรายได้ราว 60% จากยอดขายในต่างประเทศ เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า

กราฟ AAPL (หุ้น Apple) ราย Daily: June 2015 - March 2021; Disclaimer : กราฟราคาที่แสดง ณ ที่นี้ ใช้เพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำหรือคำชักชวนให้มีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ที่ให้บริการโดย Admirals (CFDs, ETFs, Shares) สถิติในอดีตไม่สามารถใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้

เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว เราเชื่อว่า คุณน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" มากยิ่งแล้วว่ามันคืออะไร, การดำเนินการของทั้งธนาคารกลางและรัฐบาลมีอะไรบ้าง รวมถึง คุณคงมีแนวคิดที่จะเริ่มต้นลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ กำลังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนัก

แม้จะเป็นโอกาสที่มากมายมหาศาล ตามภาษิต High Risk - High Return ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เราจึงอยากให้คุณหมั่นฝึกฝนและทบทวนกลยุทธ์การเทรดผ่านบัญชี Demo Account อย่างสม่ำเสมอ

ใช้งาน MetaTrader 5 และเปิดบัญชีทดลองฟรี!

  • เปิดบัญชี Demo ได้ฟรี และเปิดใหม่ได้เรื่อย ๆ หากบัญชีหมดอายุ
  • มีหุ้นให้ทดลองเทรดเหมือนตลาดจริงมากกว่า 4,000 หุ้นจากตลาดหุ้นสำคัญ 17 ตลาดทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี ฯลฯ
  • เทรดตลาด Commodity สำคัญ ๆ ได้ครบทุกตัว ทองคำ, น้ำมัน, แร่ธรรมชาติ ฯลฯ
  • ฝึกลงทุนแบบนักลงทุน VI ด้วยพันธบัตรและกองทุน ETF ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ARK, iShare, SPDR

การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมาก ๆ คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย

ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อการวิเคราะห์:

สื่อ, สารสนเทศที่ได้นำเสนอมีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์รายเดือนหรือรายสัปดาห์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals SC Ltd. ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้

  • นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใด ๆ ในการจัดการก่อนการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
  • การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง ซึ่ง Admirals SC Ltd.จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
  • ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าของเราและความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ Admirals SC Ltd ได้กำหนดกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • การวิเคราะห์จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ (นักวิเคราะห์) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้เขียน") เนื้อหาเป็นไปตามการประมาณการณ์ส่วนบุคคล
  • ในขณะที่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือและมีการนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่เข้าใจได้ทันเวลา แม่นยำและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Admirals SC Ltd ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของ ข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์
  • ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหรือแบบจำลองใด ๆ ในอดีตของเครื่องมือทางการเงินที่ระบุไว้ในเนื้อหา ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยโดย Admirals SC Ltd สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในอนาคต มูลค่าของตราสารทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นและลดลง ไม่มีการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับความแตกต่าง; CFD) เป็นลักษณะของการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มการซื้อขายโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้
TOP ARTICLES
การเทรดคืออะไร? ทำเงินได้จริงไหม มือใหม่เทรดอะไรดี
การเทรดคืออะไร ? หากยังไม่เข้าใจก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการเริ่มต้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้าวผัดกะเพราจานละ 60-70 บาท สถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ที่เงินเฟ้อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รายได้จากงานประจำไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และการมีรายได้มากกว่า 2 ช่องทางขึ้น...
คุณรู้จักและเข้าใจเทรดเดอร์และอาชีพเทรดเดอร์มากแค่ไหน ?
พอได้ยินคำว่า "เทรดเดอร์" หลายคนจะนึกถึงภาพของคนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โบกกระดาษไปมาและตะโกนเสียงดังใส่กันให้ดูวั่นวายไปหมด เทรดเดอร์เป็นอาชีพที่บางครั้ง หลายคนอาจเข้าใจผิด แม้ปัจจุบันจะมีการปรับเปลี่ยนการทำงานมากขึ้น นับตั้งแต่ที่โลกมีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนบนโลกแล้วเทรดเดอร์คือใค...
บัญชี ECN คือ ? แล้วบัญชี STP คือ ? ควรเลือกบัญชีเทรดแบบไหนดี ?
บัญชี ECN คือ ? แล้ว บัญชี STP คือ ? หรือมีรายละเอียดที่แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน บอกได้เลยว่าการเลือกเปิดบัญชีเทรด Forex นั้น เทรดเดอร์มักได้ยินโบรกเกอร์แนะนำให้เปิดบัญชีหลักๆ อยู่ 2 บัญชีนี้ แต่คำถาม คือ บัญชี STP และบัญชี ECN คือ ? มีความแตกต่างกันอย่างไร และเราควรจะเลือกเปิดบัญชี STP หรือ บัญชี EC...
ดูทั้งหมด