เข้าใจ Recession (ภาวะเศรษฐกิจถดถอย) พร้อมคู่มือรับมือฉบับใช้ได้จริง!

Jitanchandra Solanki

คุณรู้หรือไม่ว่า ผู้คนกว่า 2 ใน 3 ไม่ได้มีการเตรียมตัวรับมือกับ"ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งต่อไปที่ยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อนักเศรษฐศาสตร์เองก็กำลังเตรียมพร้อมกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีวิธีในการเตรียมความพร้อมหลายวิธี เช่น การทำความเข้าใจว่า ตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบอย่างไร และเรียนรู้กลยุทธ์ที่สามารถต่อกรกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นกลยุทธิ์ที่นักลงทุนทั่วโลกใช้สร้างกำไรจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย คืออะไร ? และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอย่างไร รวมถึงวิธีการเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งต่อไป พร้อมกลยุทธ์ที่สามารถต่อกรกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ให้ได้

Recession หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย คือ ?

สำนักงานวิจัยทางเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ให้คำจำกัดความว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญและแผ่กระจายไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจนานกว่า 2-3 เดือน" โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงนั้นจะวัดจาก 5 ตัวชี้วัด ดัวนี้

  1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (GDP)
  2. รายได้จริง
  3. ตัวเลขการจ้างงาน
  4. ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม
  5. ยอดค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์จำนวนมากก็ได้ให้คำจำกัดความเพิ่มเติมไปอีกหนึ่งระดับว่า "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะต้องเป็นสภาวะที่เศรษฐกิจมีการเติบโตติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส" เช่น GDP ติดลบ นอกจากนี้ ยังมีตัวบ่งชี้อื่นๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่น เกิดเหตุการณ์ที่ธุรกิจล้มละลาย, ยอดการค้าที่ลดต่ำลง เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดต่ำลงอย่างมาก รวมทั้งราคาบ้านร่วง และอัตราการว่างงานที่สูง เป็นต้น

Recession เกิดจากอะไร?

สาเหตุของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งบางครั้งก็เกิดขึ้นจากผลของสงคราม บางครั้งก็เกิดจากนโยบายของรัฐบาล แต่โดยทั่วไปแล้วเกิดจากความไม่สมดุลของเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข

โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2008 ซึ่งเกิดจากการเติบโตอย่างไร้เหตุผลในตลาดซื้อขายที่อยู่อาศัย ทุกคนจึงคิดว่าราคาบ้านจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายคนซื้อบ้านในราคาที่ไม่สามารถจ่ายได้ นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นแรงหนุนที่ทำให้เกิดการกู้ยืมมากขึ้น รวมทั้งยังมีการปล่อยสินเชื่อแบบ interest-only ซึ่งทำให้ผู้กู้สามารถจ่ายเพียงเฉพาะดอกเบี้ยในระยะแรกๆ ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินต้น

และการที่สถาบันการเงินมีการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซับซ้อน ซึ่งนำสินเชื่อดีกับสินเชื่อที่ไม่ดีมาผูกเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน และเมื่อเริ่มมีการผิดนัดชำระหนี้ ก็เริ่มเกิดการตื่นตระหนกในตลาด จนในที่สุดก็นำไปสู่การล้มละลายของธนาคารต่างๆ ซึ่งต้องใช้เงินจากภาครัฐกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการพยุงไม่ให้ล้ม

จึงกล่าวได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2008 เกิดขึ้นจากจำนวนหนี้ที่มากเกินรองรับในระบบเศรษฐกิจ แต่หากย้อนกลับไปที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2001 จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากราคาสินทรัพย์ในหุ้นเทคโนโลยีที่สูงมากเกินจน "เฟ้อ" และนำไปสู่ฟองสบู่ดอทคอมแตก (tech bubble crash)

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้สรุปได้ว่าภาวะภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่ละครั้งจะมีลักษณะเฉพาะตัว แต่ก็มีบางปัจจัยที่มักเป็นส่วนประกอบอยู่บ่อยๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก, สภาวะฟองสบู่ของราคาสินทรัพย์ หรือเกิดอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรง

หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบากในภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งต่อไป สิ่งสำคัญเลยคือการมีเครื่องมือการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ อย่าง MT5 - แพลตฟอร์มการเทรดอันดับ 1 ของโลก ที่จะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้อหลากหลาย ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลด MT5 ฟรี พร้อมการเข้าถึงข้อมูลและกราฟที่เหนือชั้นกว่า รวมทั้งรับรายงานและการวิเคราะห์ตลาดการเงินแบบเรียลไทม์ฟรี! และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณทำการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายจาก Admirals คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ และดาวน์โหลดได้เลย!

เทรดบัญชีทดลองโดยปราศจากความเสี่ยง

ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจำลองฟรี

Recession ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างไร?

ตลาดหุ้นไม่ใช่ตัวบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพราะว่าตลาดหุ้นเป็นเพียงสิ่งที่แสดงถึงมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการในอนาคตของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่สภาวะเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจถดถอย ส่งผลอย่างไร ?

ในภาวะ Recession คือ ผู้บริโภคมักใช้จ่ายน้อยลงจึงนำไปสู่การลดตำแหน่งงานในบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลความสามารถในการกำไรหรือกำไรที่สามารถคาดหวังได้ในอนาคตของบริษัท นอกจากนี้ ยังส่งผลที่ทับซ้อนกันระหว่างภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น เช่น เมื่อลองพิจารณาภาวะถดถอยทางการเงินในปี 2008 กับดัชนีตลาดหุ้น Dow Jones 30 (DJI 30) ซึ่งประกอบด้วย 30 บริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมในอเมริกา เช่น Apple, Nike, McDonald's และอื่น ๆ

ที่มา: AdmiralsMetaTrader 5, กราฟราคา DJI 30รายเดือน - ในช่วงวันที่: 1 พฤษภาคม 2005 ถึง 15 สิงหาคม 2019 เข้าใช้งานวันที่ 15 สิงหาคม 2019 เวลา 13:56 น. ตามเวลา BST - หมายเหตุ: ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

จากภาพด้านบน ไฮไลท์สีเหลืองในกราฟแสดงถึงดัชนี Dow Jones 30 ที่ร่วงลงในช่วง ต.ค. 2007 ถึง มี.ค. 2009 โดยในขณะที่ดัชนีลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลานี้ก็กลายเป็นจุดต่ำสุดก่อนที่เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง เพราะในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ธนาคารกลางมักจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้ต้นทุนการกู้ยืมลดลง เพื่อคาดหวังให้บริษัทต่างๆ กู้เงินไปลงทุนเพื่อให้บริษัทเติบโต หรือเพิ่มการลงทุนนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและอื่นๆ ที่จะตามมา ซึ่งเป็นแนวคิดของธนาคารที่เชื่อว่ากิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

และเมื่อเราเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ ก็หมายถึงเรามีความพร้อมรับมือเศรษฐกิจถดถอย ด้วยกลยุทธิ์ที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้นั่นเอง

เตรียมตัวสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยกับ Admirals

หลายคนเชื่อว่าการพยายามระบุจังหวะเวลาที่แน่ชัดที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการเตรียมความพร้อม แต่ความเป็นจริงแล้ว การเข้าถึงผลิตภัณฑ์การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินที่ "ใช่" เพื่อได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวที่สำคัญของตลาดนั้นมีความสำคัญมากกว่า

ซึ่งการจะเลือกคำตอบที่ใช่ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อม ซึ่งคุณจะต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ก่อนเริ่มต้นกลยุทธ์เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนี้ 

1. เปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต

ในช่วงเวลาของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คุณต้องการความมั่นใจว่าโบรกเกอร์จะสามารถนำเสนอผลประโยชน์ที่ดีที่สุด เป็นโบรกเกอร์ที่กำลังดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินสากล เช่น UK's Financial Conduct Authority หรือ FCA ซึ่งจะการันตีได้ว่าคุณจะได้รับการปกป้องดูแลและบริการทางการเงินที่เสถียรภาพ

Admirals ที่ได้รับการควบคุมและกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก 4 แห่ง ได้แก่ Financial Conduct Authority (FCA), Australian Securities and Investments Commission (ASIC), Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) และ Estonian Financial Supervision Authority (EFSA)

2. เรียนการเทรด CFD เพื่อทำกำไรจากตลาดขาลง

CFD มีประโยชน์ที่หลายอย่างซึ่งมาพร้อมกับความเสี่ยงในการเทรด ซึ่งการเทรด CFD ที่ทำให้มีโอกาสในการรับผลกำไรทั้งจากตลาดที่ปรับตัวลงและตลาดที่กำลังพุ่งสูงขึ้นได้ 

การเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดและการทำงานของ CFD เทรดเดอร์จะได้ประโยชน์ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่บางตลาดจะปรับตัวลดลง ในขณะที่บางตลาดจะปรับตัวเพิ่มสูง เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการเทรดให้กับเรา

นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังสามารถใช้บัญชีการซื้อขายหุ้นแบบเดิม เช่น Invest.MT5 ซึ่งจะช่วยให้สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทได้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำกำไรจากตลาดที่ร่วงลงในบัญชีนี้ได้ แต่ก็ยังสามารถในการรับเงินปันผลได้ อย่างไรก็ตาม การมีความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การซื้อขายทางการเงินที่แตกต่างกันทั้งหมดจากโบรกเกอร์เดียวกันอาจเป็นประโยชน์ที่มากขึ้น

3. ฝึกเทรดบนแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายรวดเร็วและปลอดภัย

แพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกคือ MetaTrader (MT4, MT5 และ MetaTrader WebTrader) และด้วยบัญชีของ Admirals คุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ไม่ว่าจะทำการเทรดบน PC, Mac, Android หรือ iOS คุณก็สามารถเข้าถึงชุดของเครื่องมือการเทรดของ MetaTrader ได้ทั้งหมด พร้อมเพลิดเพลินไปกับชุดของกราฟราคาที่มีลูกเล่นให้ใช้งานมากมาย ซึ่งสามารถเปิดกราฟใช้กับสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งหมดได้ อีกทั้งยังมีบริการข้อมูลข่าวสารและบทวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานของตลาด

เมื่อต้องเตรียมการสำหรับการเทรดในตลาดการเงินในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย สิ่งสำคัญคือต้องรู้ วิธีการใช้งานแพลตฟอร์มการเทรดคุณ คุณต้องรู้ว่า จะเข้าถึงสินทรัพย์แตกต่างได้จากตรงไหนและจะเริ่มซื้อขายจริงๆ ได้อย่างไร เนื่องจากนักลงทุนและเหล่าเทรดเดอร์จะพยายามปรับและจัดการพอร์ตการลงทุนของตนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตอนนั้น คุณคงไม่ต้องการมานั่งอ่านวิธีการกดปุ่มซื้อขายในจังหวะที่ตลาดได้เคลื่อนไหวไปแล้ว

และบัญชีซื้อขายทดลองเทรดก็เป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบ ในการฝึกฝนการเทรดและทดลองกลยุทธ์ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยง เพื่อที่คุณจะสามารถทดลองเทรดได้จนกว่าจะพร้อมในการเทรดด้วยเงินทุนจริง โดยคุณสามารถศึกษาการใช้งานบัญชีทดลองเทรดได้จากวิดีโอนี้

หากพร้อมแล้วก็สามารถเปิดบัญชีทดลองเทรด ฟรี กับ Admirals ได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

4. ทำความคุ้นเคยกับสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภทเช่น Forex, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์และดัชนี

มีตลาดที่หลากหลายให้ซื้อขายในตลาดการเงิน เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี พันธบัตร และสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งบางส่วนของตลาดเหล่านี้สามารถแสดงแนวโน้มที่จะขึ้นหรือลงในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วว่า ใช้งานได้จริงๆ ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย คือ การเข้าซื้อในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ, สกุลเงินฟรังก์สวิส เป็นต้น

ทั้งนี้ สินทรัพย์ปลอดภัย (safe-haven asset) นั้นหมายถึงสินทรัพย์ที่ตลาดคาดว่าจะสามารถรักษามูลค่าของเงินไว้ได้ แม้ว่าตลาดการเงินทั่วโลกจะได้รับผลกระทบก็ตาม โดยฟรังก์สวิสนั้นถือว่าปลอดภัยเนื่องจากรัฐบาลของและระบบการเงินของประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีเสถียรภาพ ส่วนทองคำก็ถือเป็น safe-haven เนื่องจากเป็นรูปแบบของเงินที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ

การความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์ในหมวดต่างๆ จะทำให้คุณสามารถซื้อขายในสินทรัพย์ที่ถูกต้องได้ในในช่วงเวลาที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

การเตรียมตัวสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งต่อไป

หลังจากลงทะเบียนบัญชีจริงหรือบัญชีแบบทดลอง และดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการเทรด MetaTrader เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปก็คือการเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

กลยุทธ์ Recession-proof

เพื่อให้เข้าใจกลยุทธ์ Recession-proof ได้อย่างง่ายที่สุด ควรเปิดแพลตฟอร์ม Admirals MetaTrader ไปพร้อมกับคำอธิบายด้านล่างนี้

1. กระจายพอร์ตหุ้นของคุณโดยการเปลี่ยนอุตสาหกรรม

สำหรับผู้ที่ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนไว้ในพอร์ตการลงทุน นับว่ามีความเสี่ยงอย่างมากที่หุ้นดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำลงในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

นักลงทุนอาจพยายาม "ป้องกันความเสี่ยง" (Hedge) ของพอร์ตโดยการเข้า Short ดัชนีหุ้นใน CFD เพื่อผลกำไรจากการเทรดที่ได้จากตลาดที่ปรับตัวลง จะสามารถชดเชยกับมูลค่าของหุ้นในพอร์ตที่มีมูลค่าลดลงได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่เข้าใจกลยุทธิ์การเทรดแล้ว ก็เหมือนเป็นเรื่องที่ "พูดง่ายกว่าทำ"

และเพื่อเตรียมความพร้อมกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ นักลงทุนอาจพิจารณาใช้วิธีการเปลี่ยนอุตสาหกรรม (sector rotation) ซึ่งคือการปรับสมดุลของพอร์ตหุ้นให้มีหุ้นจากอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย หุ้นที่ถือเป็นหุ้นเชิงตั้งรับ (defensive) คือหุ้นในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสินค้าจำเป็น, หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค, หุ้นกลุ่มบริการด้านสุขภาพ (Healthcare) หุ้นเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นกล่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นบริษัทที่ขายสินค้าฟุ่มเฟือย, หุ้นค้าปลีก เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ให้บริการหรือสินค้าที่ผู้คนรู้ว่า ไม่จำเป็นต้องมีต้องใช้ก็ได้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะแย่ขนาดไหนก็ตาม

นักลงทุนอาจพยายามกว้านซื้อหุ้นที่ให้ปันผลสูงๆ ซึ่งหากคุณลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คุณก็มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลกำไรได้ โดยพื้นฐานแล้วนักลงทุนจะพยายามหารายรับจากหุ้นที่ให้ปันผลที่ดีมากที่สุดนั่นเอง

และหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้นลงทุนในหุ้นคือการเปิดบัญชี MT5 ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถลงทุนได้ทั้งในหุ้นและกองทุน ETF จากตลาดหลักทรัพย์กว่า 15 ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกผ่านแพลตฟอร์มการเทรด MetaTrader 5 พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ รวมถึงรายงานข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ บทวิเคราะห์ระดับพรีเมียม ฟรีค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษาบัญชี ค่าคอมมิชชั่นการทำธุรกรรมที่ต่ำ สิทธิในการรับเงินปันผล! ประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ เพียงเปิดบัญชีการลงทุนจากการคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

เทรดบัญชีทดลองโดยปราศจากความเสี่ยง

ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจำลองฟรี

2. การ Short ในดัชนีหุ้นผ่านสัญญา CFD

ด้วยบัญชีของ Admirals ที่จะช่วยให้คุณสามารถเทรดดัชนีที่หลากหลายผ่านสัญญา CFD ได้ เช่น Dow Jones 30 (DJI 30), German DAX 30 (DAX 30), FTSE 100 และดัชนีของตลาดหุ้นอื่นๆ อีก หากต้องการดูว่า มีตลาดอะไรให้เทรดได้บ้าง คุณสามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้

  1. เปิดโปรแกรม MetaTrader
  2. เปิดหน้าต่าง Market Watch จากแท็บ View ที่ด้านบนหรือกดปุ่ม Ctrl + M 
  3. คลิกขวาที่หน้าต่าง Market Watch เลือก Symbols หรือ Ctrl+U 
  4. จากนั้นจะมีหน้าต่างที่แสดงรายละเอียดของตลาดทั้งหมดที่คุณสามารถเทรดได้
  5. เลือกที่ Cash Indices

Disclaimer: กราฟของตราสารทางการเงินในบทความนี้ มีไว้เพื่อจุดประสงค์ในการอธิบายและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ที่จัดทำโดย Admirals (CFDs, ETFs, หรือหุ้นต่างๆ) ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในอนาคต

ดัชนีตลาดหุ้นเป็นตัวแทนของตลาดหุ้น โดยจะหยิบบริษัทจดทะเบียนที่แตกต่างกันขึ้นมาคำนวณออกมาเป็นดัชนี เช่น ดัชนี Dow Jones 30 คำนวณโดยใช้ราคาปิดและมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ บริษัท 30 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Apple, Boeing, Pfizer, Microsoft, Nike, WalMart เป็นต้น

เนื่องจาก บริษัทต่างๆ มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้น ราคาหุ้นจึงมีแนวโน้มลดลง และแทนที่เราจะซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหรือลงทุนในดัชนีโดยคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้นและขายเพื่อทำกำไร คุณสามารถเลือกที่จะฝั่งเดียวกันกับแนวโน้มของตลาดด้วยการ "ขายล่วงหน้า" (Short) ในดัชนีหุ้นผ่านสัญญา CFD

ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย หุ้นที่นักลงทุนคนอื่นๆ ถือไว้มักมีมูลค่าลดลงเช่นเดียวกันกับดัชนีตลาดหุ้น ดังนั้น สิ่งที่เทรดเดอร์เลือกทำมักเป็นการเข้า Short เพื่อทำกำไรจากราคาดัชนีที่ลดลง การใช้สัญญา CFD ช่วยให้คุณสามารถเข้าเทรดด้วยคำสั่ง Short ได้ ซึ่งต้องตระหนักว่านี่คือการที่คุณขายล่วงหน้าไปก่อนในราคาที่สูง และย่อมคาดหวังว่าราคามันจะปรับตัวลดลง หลังจากนั้นคุณได้ทำการปิดคำสั่งการเทรดด้วยการ "ซื้อกลับ" ในราคาที่ถูกกว่าตอนขาย ซึ่งคุณจะได้รับกำไรจากส่วนต่างนั้น และหากตลาดได้ปรับตัวสูงขึ้น เทรดเดอร์ก็อาจสูญเสียหรือขาดทุนได้ ดังนั้น การจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็น

โดยเฉพาะเทรดเดอร์มือใหม่ ควรรักษาระดับความเสี่ยงให้ต่ำเข้าไว้ในตอนเริ่มต้น และใช้คำสั่ง Stop Loss เพื่อที่จะสามารถออกจากตลาดและควบคุมการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่น้อยที่สุด ทั้งนี้ หากคุณต้องการเริ่มที่จะ Short ในดัชนีผ่านสัญญา CFD คุณสามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้

  1. เลือกใช้กลุยทธิ์การเทรดเพื่อระบุจุดเข้าเทรด, จุดตัดขาดทุน และเป้าหมายในการทำกำไร
  2. เลือกดัชนีที่ต้องการเทรดในแพลตฟอร์ม MetaTrader โดยเลือกจากหน้าต่าง Market Watch คลิกซ้ายที่ชื่อดัชนีค้างไว้แล้วลากไปที่ตัวกราฟและปล่อย
  3. คลิกขวาที่กราฟ และเลือก Trade -> New Order หรือสามารถกดปุ่มลัด F9 
  4. หน้าต่างการส่งคำสั่งการเทรดจะปรากฏขึ้นตามภาพด้านล่าง

ตอนนี้คำถามคือ กลยุทธ์การเทรดหรือเครื่องมือตัวไหนที่ช่วยให้คุณสามารถระบุว่า เมื่อไหร่ควร Short ในตลาด? ความจริงมีเครื่องมือหลากหลายประเภทมากที่เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์ เช่น technical indicator, รูปแบบราคาต่างๆ ซึ่งสามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความ "กลยุทธ์เทคนิคการเทรดที่คุณต้องรู้!"

3. ซื้อ "ทองคำ" ด้วยสัญญา CFD

ทองคำเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มเทรดเดอร์และนักลงทุนในช่วงเวลาที่เกิดสภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นี่เป็นเพราะสถานะของมันที่เป็น 'สินทรัพย์ปลอดภัย' (safe-haven) อันเนื่องมาจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของทองคำย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่มันถูกใช้เป็นหนึ่งในรูปแบบของสกุลเงิน ซึ่งในช่วงเวลาที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2008 นักลงทุนเลือกที่จะออกจากตลาดหุ้น และเข้ามาลงทุนในตลาดทองแทน ซึ่งจะเห็นการเพิ่มขึ้นของราคาได้จากกราฟด้านล่าง:

ที่มา: Admirals MetaTrader 5,กราฟราคา ทองคำ รายเดือน - ช่วงวันที่: 1 มกราคม 1992 ถึง 15 สิงหาคม 2019 เข้าใช้งานวันที่: 15 สิงหาคม 2019 เวลา 16:08 น. ตามเวลา BST - หมายเหตุ: ประสิทธิภาพการดำเนินการในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

ในมุมมองภาพกว้างของกราฟราคาทองคำด้านบน ไฮไลท์สีเหลืองจะแสดงจุดเริ่มต้นของปี 2008 ไปจนถึงจุดสูงสุดของตลาดทองคำในเดือน ก.ย. 2011 ซึ่งจะเห็นว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นมาสักระยะแล้ว ก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นมาจริงๆ ซึ่งสภาวะถดถอยถูกกระตุ้นให้เกิดอัตราเร่งจากเหตุการณ์การล้มละลายของบริษัทต่างๆ และการที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มธนาคาร

โดยในบรรดาสินทรัพย์ในกลุ่ม "โลหะมีค่า" (precious metal) ทองคำเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตลาดเปิดโอาสให้นักลงทุนเลือกใช้ในการบริหารพอร์ตได้อย่างยืดหยุ่นในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และด้วยความที่ทองคำมีความผันผวนสูงและมักเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้ม จึงเหมาะกับการเทรดไม่ว่าจะเป็นแบบระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตาม เทรดเดอร์ที่มีบัญชีกับ Admirals สามารถเลือกที่จะเทรดแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่นได้

เตรียมความพร้อมสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งต่อไปได้แล้วตั้งแต่วันนี้

การสามารถเข้าถึงการเทรดในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้ และสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้รวดเร็ว บนแพลตฟอร์มการเทรดที่ปลอดภัย ถือว่าจำเป็นในการเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะถดถอยในครั้งต่อไป และนี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์จะได้รับจากการเทรดกับ Admirals

  • เทรดภายใต้สภาพแวดล้อมที่ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินทั่วโลกที่เชื่อถือได้อย่าง FCA 
  • ดำเนินคำสั่งได้อย่างต่อเนื่องรวดเร็วได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการต่อสัปดาห์ บน MetaTrader ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง PC, Mac, Android และ iOS
  • ปกป้องเงินทุนจากนโยบายป้องกันเงินทุนติดลบ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของคุณ

Admirals เปิดโอกาสให้คุณสามารถเทรดได้ทั้ง Forex และ CFDs สูงสุดถึง 80+ สกุลเงิน แถมยังมีบริการอัปเดตข่าวสารของตลาดล่าสุดและการวิเคราะห์ทางเทคนิคฟรี!

เทรด Forex & CFDs

เข้าถึงคู่เงินมากกว่า 40+ ซื้อขายได้ตลอด 24/5

รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 

TOP ARTICLES
การเทรดคืออะไร? ทำเงินได้จริงไหม มือใหม่เทรดอะไรดี
การเทรดคืออะไร ? หากยังไม่เข้าใจก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการเริ่มต้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้าวผัดกะเพราจานละ 60-70 บาท สถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ที่เงินเฟ้อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รายได้จากงานประจำไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และการมีรายได้มากกว่า 2 ช่องทางขึ้น...
คุณรู้จักและเข้าใจเทรดเดอร์และอาชีพเทรดเดอร์มากแค่ไหน ?
พอได้ยินคำว่า "เทรดเดอร์" หลายคนจะนึกถึงภาพของคนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โบกกระดาษไปมาและตะโกนเสียงดังใส่กันให้ดูวั่นวายไปหมด เทรดเดอร์เป็นอาชีพที่บางครั้ง หลายคนอาจเข้าใจผิด แม้ปัจจุบันจะมีการปรับเปลี่ยนการทำงานมากขึ้น นับตั้งแต่ที่โลกมีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนบนโลกแล้วเทรดเดอร์คือใค...
บัญชี ECN คือ ? แล้วบัญชี STP คือ ? ควรเลือกบัญชีเทรดแบบไหนดี ?
บัญชี ECN คือ ? แล้ว บัญชี STP คือ ? หรือมีรายละเอียดที่แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน บอกได้เลยว่าการเลือกเปิดบัญชีเทรด Forex นั้น เทรดเดอร์มักได้ยินโบรกเกอร์แนะนำให้เปิดบัญชีหลักๆ อยู่ 2 บัญชีนี้ แต่คำถาม คือ บัญชี STP และบัญชี ECN คือ ? มีความแตกต่างกันอย่างไร และเราควรจะเลือกเปิดบัญชี STP หรือ บัญชี EC...
ดูทั้งหมด