การเทรดดัชนี: รู้จักและเข้าใจดัชนีหลักน่าสนใจทั่วโลก

Admirals
25 นาที

การเทรดดัชนี เป็นอีกคำยอดฮิตในตลาดหุ้นที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของคำศัพท์ในชีวิตประจำวันที่คุณสามารถพบเห็นได้จากสื่อต่างๆ แต่เมื่อมีคำพูดที่ว่า "วันนี้ตลาดทำได้ดี" หมายความว่าอย่างไร แล้ว “ตลาดหุ้น” คืออะไร เราขอชวนคุณมาหาคำตอบเหล่านี้ไปพร้อมกัน!

บ่อยครั้งที่คนส่วนใหญ่พูดถึง "ตลาด" และพูดถึงดัชนีหุ้นด้วยไม่ว่าจะเป็น ดัชนีต่างๆ อย่าง Dow Jones Index, SP 500, CAC40 หรือ DAX 40 เป็นต้น แล้วดัชนี คืออะไร คุณตอบได้แล้วหรือยัง ?

การเทรดดัชนี คืออะไร อยากเทรดเริ่มต้นอย่างไร ?

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะทราบชื่อและตัวย่อของดัชนีหลักทั่วโลกอยู่แล้ว แต่อาจไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าดัชนีเหล่านี้สามารถซื้อขายผ่าน CFD ได้ ซึ่ง CFD ดัชนีหุ้นนั้นไม่เพียงแต่สามารถวิเคราะห์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถซื้อและขายในลักษณะเดียวกันกับวิธีการซื้อขายหุ้นได้อีกด้วย

แล้ว Stock Index หรือดัชนีหุ้นนั้นคืออะไร

ดัชนีหุ้นจะแสดงถึงมูลค่าของกลุ่มหุ้นจากประเทศต่างๆ และแสดงประสิทธิภาพโดยรวม โดยปัจจุบันและในอดีตของดัชนีหุ้นนั้นๆ เช่น ดัชนี FTSE100 ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท 100 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) สูงสุด ในขณะที่ S&P500 เป็นตัวแทนของบริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ จำนวน 500 แห่ง และ ดัชนี Dow Jones ที่ได้รวมบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 12 แห่งในสหรัฐฯ และวันนี้ดัชนี Dow Jones (DJI) ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุด 30 แห่งในสหรัฐอเมริกา

ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ของแต่ละประเทศในโลกจะมีดัชนีหุ้นอ้างอิง และบางแห่งก็มีดัชนีหลายตัว เนื่องจากเป็นการยากที่จะติดตามทุกหุ้นในทุกประเทศ ดัชนีหุ้นนี้จึงช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนให้สามารถวัดประสิทธิภาพโดยรวมของตลาดหุ้นหรือประเทศนั้นๆ ได้

โดยนักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง และนักวิเคราะห์จะใช้ดัชนีหุ้นเพื่อทำความเข้าใจตลาดการเงินและวิเคราะห์การทำงานและผลการดำเนินการของบริษัทในตลาดนั้นๆ 

และหากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การเทรดดัชนี เราขอแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้คือการลองเทรดในบัญชีทดลองเทรดของเรา ซึ่งบัญชีทดลองเทรดนี้จะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายได้ในสภาวะตลาดจริงด้วยเงินเสมือน ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับเงินทุนในการเรียนรู้ตลาดและทดสอบกลยุทธ์ของคุณ เริ่มต้นง่ายๆ ได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

บัญชีทดลองเทรด

ฝึกฝนการเทรดในตลาดจริงด้วยเงินจำลอง หรือ Demo Account เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการฝึกเทรดได้อย่างอิสระ มีระบบคำนวณกำไร-ขาดทุนแบบอัตโนมัติให้ศึกษา

ดัชนีตลาดหุ้นทำงานอย่างไร?

ดังที่ได้กล่าวข้างต้น ดัชนี คือ สิ่งที่แสดงถึงประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างๆ เช่น

  • ประเทศ เช่น ดัชนีเยอรมัน DAX 40
  • กลุ่มหุ้นภายในประเทศ เช่น S&P 500 จากสหรัฐอเมริกา
  • Sector หรือภาคส่วน เช่น ดัชนี Nasdaq ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้น (และบริษัท) จากภาคเทคโนโลยี

การที่ดัชนีหุ้นสามารถใช้อ้างอิงมูลค่าของประเทศ Sector หรือภาคส่วน หากมูลค่าของดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นหรือลดลง จึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพโดยรวมของหุ้นทั้งหมดภายใน Nasdaq เมื่อราคาของดัชนีหุ้นเพิ่มขึ้น มูลค่าโดยรวมของดัชนีก็จะสูงขึ้นด้วย เช่นเดียวกับเวลาที่ดัชนีหุ้นกำลังเคลื่อนตัวลง ก็หมายความว่ามูลค่าโดยรวมของดัชนีกำลังลดลง

อย่างไรก็ตาม ทิศทางของดัชนีหุ้นไม่ได้ระบุว่าราคาหุ้นแต่ละตัวของดัชนีกำลังเคลื่อนขึ้นหรือลง ค่าเฉลี่ยของหุ้นทั้งหมดอาจมีมูลค่ามากขึ้น แต่ในขณะที่หุ้นบางตัวกำลังขึ้น หุ้นบางตัวก็อาจร่วงลง เช่นเดียวกับวันที่ดัชนีหุ้นขาลง หุ้นหรือภาคส่วนอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะเป็นขาลง แต่บางส่วนอาจเป็นตลาดกระทิง

เริ่มต้นเทรดดัชนีและวิธีคำนวณดัชนีหุ้น

ในอดีตหรือก่อนยุคดิจิทัล การคำนวณราคาของดัชนีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในปัจจุบันดัชนีหุ้นส่วนใหญ่จะใช้สูตรถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก เพื่อกำหนดมูลค่าของดัชนี โดยในระบบนี้น้ำหนักของแต่ละหุ้นคือ

ราคาหุ้น x จำนวนหุ้น / มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้นทั้งหมด

โดยส่วนใหญ่ การคำนวณดัชนี คือ การชั่งน้ำหนักบริษัทตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หากมูลค่าตลาดของบริษัทคือ 1,000,000 ปอนด์ และมูลค่าหุ้นทั้งหมดในดัชนีคือ 100,000,000 ปอนด์ บริษัทก็จะมีมูลค่า 1% ของดัชนี

ซึ่งหมายความว่ามูลค่าของดัชนีหุ้น คือ ตัวชี้วัดทางสถิติของการเปลี่ยนแปลงในพอร์ตหุ้นที่แสดงถึงส่วนหนึ่งของตลาด

ทำไมต้องเทรดดัชนีในตลาดหุ้น ?

ดัชนีหุ้น คือ ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดการเงินอื่นๆ จากข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้

  • สามารถซื้อขายตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโดยรวม
  • สามารถกระจายความเสี่ยงทันทีเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น
  • สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันได้
  • การเทรดดัชนี คือ ตลาดที่มีการควบคุมราคาน้อย เมื่อเทียบกับตลาดอื่น
  • ช่วยให้ลงทุนในตลาดที่คุณคุ้นเคย เช่น FTSE100 ในสหราชอาณาจักร, SP500 ในสหรัฐฯ, DAX 40 ในเยอรมนี เป็นต้น
  • ทางเลือกของการเทรดระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นก็มีข้อเสียที่ไม่อาจละเลยอยู่บ้าง ดังนี้

  • ดัชนีหุ้นบางตัวมีสภาพคล่องน้อยกว่าตลาดอื่นๆ เช่น Forex
  • ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์อาจสูงกว่าเมื่อซื้อขายดัชนีน้อยกว่า
  • ชั่วโมงการซื้อขายมีจำกัด โดยตลาดหุ้นจะเปิดเฉพาะในช่วงเวลาทำการในแต่ละพื้นที่เท่านั้น - ในขณะที่ Forex สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
  • เนื่องจากข้อจำกัดของเวลาทำการ ในช่วงที่ตลาดปิดอาจมีช่องว่างมากกว่าใน Forex

การเทรดดัชนีหุ้นและการลงทุนในหุ้นต่างกันอย่างไร ?

เมื่อเปรียบเทียบการลงทุนในหุ้นแบบดั้งเดิมกับการเทรดดัชนี ดูเหมือนว่าจะมีหลายเหตุผลที่ผู้คนเลือกซื้อขายดัชนีมากกว่า

กล่าวได้ว่าการลงทุนหุ้น คือ การเผชิญกับความเสี่ยงของบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ ในทางตรงกันข้าม การลงทุนในดัชนี คือ การกระจายความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากการลงทุนมีหุ้นนับสิบหรือหลายร้อยตัว นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการลงทุนดัชนีให้ผลกำไรมากกว่าการเลือกหุ้นทีละตัว เพราะดัชนีสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงตาม sector ต่างๆ และแม้กระทั่งตามภูมิศาสตร์ได้ด้วย

หากคุณซื้อขายดัชนีหุ้นด้วย CFD คุณยังสามารถเลือกใช้ Leverage (เลเวอเรจ) ซึ่งคุณสามารถซื้อขายด้วยเงินฝากที่มีเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยของมูลค่าการลงทุน แต่เลเวอเรจที่สามารถเพิ่มผลกำไรแต่ก็อาจส่งผลให้ขาดทุนได้เช่นกัน

นอกจากนี้การเทรด CFD ดัชนียังสามารถซื้อขายได้นาน (ซื้อด้วยความหวังว่าจะเพิ่มมูลค่าและขายเพื่อผลกำไร) หรือสามารถซื้อขายระยะสั้นได้ (ขายด้วยความหวังว่าดัชนีจะมีมูลค่าลดลง จากนั้นก็สามารถปิดการซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่า เพื่อทำกำไรจากส่วนต่าง)

ทั้งนี้ การใช้ตำแหน่งขาย (short position) บน CFD (ทั้ง CFD หุ้นและ CFD ดัชนี) ดีกว่าการชอร์ตหุ้นแต่ละรายการ เนื่องจากเครื่องมือที่ช่วยในการจำกัดความเสี่ยง เช่น Stop Loss ซึ่งง่ายต่อการใช้งานภายในการซื้อขาย CFD

การเทรดดัชนีกับการเทรด Forex

ตลาดทั้งคู่มีประโยชน์และเหมาะสม แต่ก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณด้วย การซื้อขาย Forex อาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะจำเป็นต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินเดียว ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ และอาจผันผวนสูง ในทางตรงกันข้าม การซื้อขายดัชนี คุณสามารถซื้อขายตามการคาดการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในวงกว้างของตลาดได้

ซึ่งการเทรด Forex มักจะเหมาะกับนักเทรดระยะสั้น เนื่องจากมีความผันผวนสูงและสเปรดต่ำ ในทางกลับกัน การซื้อขายดัชนี โดยเฉพาะในดัชนีที่มีสเปรดที่กว้างกว่า อาจเหมาะกับเทรดเดอร์ระยะยาวมากกว่า เช่น Swing Trade

นอกจากนี้ คุณเข้าใจตลาดมากน้อยแค่ไหน ในขณะที่เทรดเดอร์บางคนเข้าใจและสามารถซื้อขายเศรษฐกิจหรือภาคส่วนใดส่วนหนึ่งได้สำเร็จ ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดดัชนี แต่คนอื่นๆ เข้าใจการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดีกว่าก็เหมาะสำหรับการเทรด Forex มากกว่า

อยากลงทุนดัชนี ต้องรู้จักดัชนีหุ้นเหล่านี้

การเริ่มต้นเทรดดัชนี สิ่งสำคัญคือต้องมีความรู้เกี่ยวกับดัชนีมีอยู่ทั่วโลก แต่ดัชนีบางตัวนั้นมีการซื้อขายมากกว่าตัวอื่นๆ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ยอดนิยม

ในตลาดหุ้นอเมริกา เชื่อว่าคุณต้องรู้จักตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 3,000 หลักทรัพย์

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงที่สุด 3 ดัชนี คือ Dow Jones Industrial Average (DJI30), Nasdaq และ S&P 500

บริษัทในดัชนี DJIA 
3M American Express Apple Caterpillar Chevron
Cisco Coca-Cola DuPont  Exxon Mobil General Electric
Goldman Sachs JPMorgan Chase Johnson & Johnson McDonald's Merck
Microsoft Nike Pfizer Procter & Gamble Travellers
UnitedHealth Group  United Technologies Corporation Verizon Visa Walmart 
Walt Disney        

ดัชนี DJIA กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่เทรดเดอร์ โดยมักจะมี 3-4 ช่วงของการเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่งระหว่างเวลา 8.00 - 22.00 น. GMT เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2020 ดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 29,401.40 ตามแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009

ที่มา: Admirals MT5 Supreme Edition กราฟราคารายเดือน DJI, ในช่วงวันที่: 1 พฤษภาคม 2005 - 27 มกราคม 2020 เข้าใช้งานวันที่: 27 มกราคม 2020 เวลา 10:30 น. EET หมายเหตุ: ผลการดำเนินการที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

แม้ว่า Dow Jones จะทำได้ดีในขณะนี้ แต่ตลาดก็มีวัฏจักรขาขึ้นและขาลง และบางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นนี้มีการเคลื่อนไหวขึ้นอย่างสม่ำเสมอและค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็มีเวลาหลายปีและหลาย 10 ปีที่ดัชนีดังกล่าวประสบกับภาวะเฟื่องฟูครั้งใหญ่ พร้อมกับวัน เดือน และปีที่มีการลดลงอย่างมาก

มาทบทวนช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นกัน ดังนี้

  • Wall Street Crash ในปี 1929: ความผิดพลาดเกิดขึ้นเนื่องจากการเก็งกำไรฟองสบู่ในหุ้น มันกินเวลานานสี่ปี
  • Black Monday ในปี 1987: ความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นภายในหนึ่งวันและเป็นการลดลงที่ใหญ่ที่สุดในวันซื้อขายวันเดียวถึง 22.61% แม้จะไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนของความผิดพลาดอย่างกะทันหันในครั้งนี้ แต่ปัจจัยหนึ่งอาจเกิดการซื้อขายโปรแกรม
  • Dot-com Bubble ในปี 2000: ราคาหุ้นเทคโนโลยีขยับขึ้นอย่างรวดเร็วระหว่างปี 1995- 2000 และฟองสบู่ที่เก็งกำไรก็แตกในปี 2000
  • ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ในปี 2008 (หรือวิกฤตการเงินโลก): ระบบการเงินในสหรัฐฯ พังทลายลงในขณะที่ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ รู้สึกว่าปัญหาที่เกิดจากหนี้เสียในตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งขยายตัวโดยการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  • การเพิ่มขึ้นของตลาดตั้งแต่ปี 2008: ตลาดหุ้นมีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งนับตั้งแต่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นครั้งใหญ่

ภาวะขาลงเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เทรดเดอร์ต้องมีการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

SP500 - ดัชนีมาตรฐานของสหรัฐฯ

S&P 500 วัดผลการปฏิบัติงานของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

บริษัทในดัชนี SP500
3M Adobe Systems Alphabet Amazon.com American Express
Berkshire Hathaway Boeing Citigroup Coca-Cola  eBay Inc
Exxon FedEx General Motors General Electric  Goldman Sachs
Harley-Davidson Hewlett Packard  Hilton Intel Johnson & Johnson
JPMorgan Mastercard McDonald's Nasdaq Nike
Oracle PayPal PepsiCo Salesforce Starbucks
Twitter Visa Walmart     

เช่นเดียวกับดาวโจนส์ ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม 2020 โดยแตะ 3,337.55 เมื่อวันที่ 22 มกราคม นอกจากนี้ ดัชนียังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009 หลังสิ้นสุดวิกฤตการเงินโลกที่เลวร้ายที่สุด

ที่มา: Admirals MT5 Supreme Edition กราฟราคารายเดือนของSP500 ช่วงวันที่: 1 พฤษภาคม 2005 - 27 มกราคม 2020 เข้าใช้งานวันที่: 27 มกราคม 2020 เวลา 10:30 น. EET หมายเหตุ: หมายเหตุ: ผลการดำเนินการที่ผ่านมาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลลัพธ์ในอนาคต

NQ100 - ดัชนีหุ้น Nasdaq

Nasdaq 100 ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งในภาคเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Nasdaq จะเป็นหนึ่งในดัชนีระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากเทรดเดอร์ดัชนีหุ้นทั่วโลก

บริษัทใน NQ100
Adobe Advanced Micro Devices Alphabet Inc. Amazon.com Amgen
Apple Inc. Autodesk Cisco Ebay Expedia
Facebook Hasbro  Intel  Intuit Marriott
 Micron  Microsoft NVIDIA Netflix Tesla
Workday        

อยากเทรดดัชนีหุ้นสหรัฐ ทำอย่างไร ?

หากคุณสนใจเทรดดัชนียอดฮิตอย่าง Dow Jones, S&P 500 หรือ Nasdaq สามารถเริ่มต้นง่ายๆ ได้ ดังนี้

1. เปิดบัญชีซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ CFD โดยสามารถศึกษาขั้นตอนได้ ดังตัวอย่างในวิดีโอนี้

2. ดาวน์โหลด MT5 

3. จากหน้าต่าง Market Watch เลือก "click to add…" ในแถบค้นหา จากนั้นค้นหารหัสของดัชนีที่ต้องการซื้อขาย โดยในตัวอย่างจะค้น 3 ดัชนี คือ [DJI30], [SP500] และ [NQ100] จากนั้น คุคลิกขวาที่เครื่องมือเพื่อเปิดกราฟ

ที่มา: Admirals MT5

 

4. เปิดการซื้อขายซื้อได้ตามต้องการ!

ดัชนีหุ้นยุโรปยอดนิยม

ดัชนีหุ้นยุโรปที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ FTSE100 ในสหราชอาณาจักร DAX ในเยอรมนี CAC 40 ในฝรั่งเศส และ Stoxx50 ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทต่างๆ ทั่วยูโรโซน

ดัชนีหุ้นอังกฤษ - FTSE 100

ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีดัชนีหุ้นเป็นของตัวเอง คือ FTSE100 (หรือ Footsie) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท 100 แห่งจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

บริษัทใน FTSE 100
3i AstraZeneca Aviva BAE Systems Barclays
BHP BP British American Tobacco BUNZL Diageo
easyJet Experian GlaxoSmithKline Glencore HSBC
Just Eat Lloyds Banking Group Prudential Reckitt Benckiser Rio Tinto
Rolls-Royce Holdings Royal Bank of Scotland Royal Dutch Shell  Tesco Unilever
Vodafone Group        

ดัชนีหุ้นเยอรมัน - DAX 40

DAX เป็นดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 40 แห่งในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต โดยพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดและคำสั่งซื้อตามปริมาณ โดยดัชนีนี้ได้รับการจัดการโดย Deutsche Borse และราคาได้รับการคำนวณทุกวินาทีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2006 โดยระบบ Xetra เนื่องจากเยอรมนีเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป DAX40 จึงเป็นดัชนียอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์ต่างชาติ

บริษัทใน DAX 40
Adidas Allianz BASF Bayer BMW
Comerzbank Deutsche Bank  Deutsche Telekom Fresenius Henkel
Infineon Linde Lufthansa MAN Metro
RWE SAP Siemens VW  

ดัชนีหุ้นฝรั่งเศส - CAC 40

CAC 40 คือ ดัชนีหุ้นหลักของตลาดปารีสและก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 1988 โดยดัชนี CAC 40 จะพิจารณาจากราคาของบริษัท 40 แห่ง ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปารีส

ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2003 ดัชนี CAC 40 ได้นำระบบมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดแบบลอยตัวมาใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการดำเนินการของดัชนีหลักทั่วโลก ดังนั้น จำนวนหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อในตลาดของบริษัทหนึ่งๆ จะถูกนำมาพิจารณาในการคำนวณดัชนี

บริษัทใน CAC 40
Air Liquide Airbus ArcelorMittal AXA BNP Paribas
Capgemini Carrefour Danone  L'Oréal LVMH
Michelin Renault Sanofi Total  

ดัชนีหุ้นยูโรโซน - STOXX 50

ปิดท้ายสำหรับการซื้อขายในเศรษฐกิจยูโรโซน กับดัชนี STOXX 50

Euronext คือตลาดหลักทรัพย์หลักในยุโรป และดัชนีหุ้น Euronext (ดัชนี Euro Stoxx 50) ประกอบด้วยบริษัท 50 แห่งจากยุโรปโดยพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

ดัชนีอื่นๆ ของยุโรป

ดัชนีในยุโรปไม่ได้มีเพียงรายการดัชนีหุ้นที่ได้รับความนิยมสูงสุดข้างต้น แต่ก็มีดัชนีหุ้นยุโรปอื่นๆ อีกหลายรายการ ที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ดัชนีหุ้นเบลเยียม: The BEL20
  • ดัชนีหุ้นกรีก: ดัชนี Athex20
  • ดัชนีหุ้นเดนมาร์ก: OMX Copenhagen 20 (หรือ KFX)
  • ดัชนีหุ้นดัตช์: AEX25
  • ดัชนีหุ้นฟินแลนด์: OMX Helsinki 25 (OMXH25)
  • ดัชนีหุ้นไอริช: ISEQ
  • ดัชนีหุ้นอิตาลี: FTSE MIB
  • ดัชนีหุ้นลักเซมเบิร์ก: LuxX
  • ดัชนีหุ้นนอร์เวย์: OBX25
  • ดัชนีหุ้นโปรตุเกส: PSI 20
  • ดัชนีหุ้นสเปน: Ibex35
  • ดัชนีหุ้นสวีเดน: OMX Stockholm 30 (OMXS30)
  • ดัชนีหุ้นสวิส: SMI20

ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิกยอดนิยม

นอกจากตลาดหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์หลักๆ ทั่วโลก อย่าง ตลาดหลักทรัพย์ปารีส ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หรือตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้ว ตลาดหุ้นเอเชียก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ซึ่งดัชนีหุ้นเอเชียและออสเตรเลีย มักไม่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเขตเวลาที่แตกต่างกันมาก แต่ในทางกลับกันก็เป็นทางเลือกสำหรับเทรดเดอร์ที่เปิดการซื้อขายในชั่วโมงที่ไม่ปกติ หรือเทรดเดอร์ที่ทำการซื้อขายในช่วงระหว่างวัน 

ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น - Nikkei 225

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์นิกเคอิ หรือที่เรียกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประกอบด้วยบริษัท 225 แห่ง และเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น

บริษัทใน Nikkei 225
Canon Casio FujiFilm Fujitsu Honda
Mazda Nikon Nissan Panasonic Sapporo
Subaru Suzuki Toyota Yamaha  

ดัชนีหุ้นจีน - ดัชนีคอมโพสิต SSE และ CSI 30

หากพูดถึงที่ตลาดหุ้นจีน ก็ต้องพูดถึงดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต SSE ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นยอดนิยมในประเทศจีน ซึ่งใช้สะท้อนประสิทธิภาพของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และดัชนีหุ้นจีนอีกตัวหนึ่งคือ ดัชนี CSI300 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ที่รวบรวมบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 300 แห่งของประเทศตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

ซึ่งดัชนีหุ้นจีนเหล่านี้ บางครั้งเรียกว่าดัชนีหุ้นปักกิ่ง ซึ่งหมายถึงเมืองหลวงของประเทศจีน แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์นี้จะตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้ก็ตาม

และดัชนีตลาดหุ้นจีน ต่อมาคือ FTSE China 50 ซึ่งประกอบด้วยบริษัท 50 แห่งที่ได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange) และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange)

ดัชนีหุ้นฮ่องกง - HSI50

ดัชนีหุ้นเอเชียยอดนิยมอีกรายการหนึ่งคือดัชนี Hong Kong HSI50 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงที่ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 50 แห่งของฮ่องกงตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

ดัชนีหุ้นออสเตรเลีย - ASX 200

S&P/ASX 200 คือตัวแทนของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 200 แห่งของออสเตรเลียตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด บริษัทเหล่านี้คิดเป็น 82% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่า ASX ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณสามารถซื้อขายในตลาดหุ้นออสเตรเลียได้

บริษัทใน ASX 200  
ANZ Banking Group Blackmores Commonwealth Bank National Australia Bank
Qantas Airways Telstra Corporation  Virgin Money Woolworths
 Xero      

หากคุณต้องการซื้อขายดัชนีหุ้นสหรัฐ ยุโรป หรือเอเชียแปซิฟิก สิ่งแรกที่ต้องทำคือดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขาย ซึ่งสามารถดาวน์โหลด MT5 ฟรี!

ด้วย MT5 คุณสามารถเข้าถึงตลาดทั่วโลกได้หลายพันแห่ง อีกทั้งยังสามารถใช้ฟังก์ชันการสร้างกราฟต่างๆ รวมทั้งตั้งค่าต่างๆ ได้ตามต้องการคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง เพื่อดาวน์โหลด MT5 ได้เลย!

เทรดบัญชีทดลองโดยปราศจากความเสี่ยง

ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจำลองฟรี

กลยุทธ์การเทรดดัชนีและไทม์เฟรม

กลยุทธ์การเทรดดัชนีขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ความพร้อมใช้งาน และความรวดเร็วในการดูผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณ โดยหนึ่งในคุณสมบัติหลักของกลยุทธ์ขคือไทม์เฟรมในการซื้อขายของคุณ ซึ่งอาจอยู่ในช่วงตั้งแต่  Scalping ไปจนถึง Swing Trade

การเทรด Scalping

Scalping คือการซื้อขายระยะสั้น ซึ่งตั้งเป้าที่จะเปิดและปิดการซื้อขายภายในไม่กี่นาที เนื่องจากการเทรดเหล่านี้สั้นมากหรือเพียงไม่กี่จุดต่อการเทรด ทำให้กำไรจากการเทรดแต่ละครั้งมักจะค่อนข้างน้อยเช่นกัน เทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องซื้อขายในปริมาณที่สูงมากหรือทำการซื้อขายจำนวนมากเพื่อทำกำไรที่เหมาะสม

Day Trading

Day Ttrading หมายถึงการซื้อขายภายในหนึ่งวัน การซื้อขายเหล่านี้มักจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเทรดเดอร์จะเปิดและปิดสถานะภายในวันเดียว

กลยุทธ์เทรดดัชนี แบบ Swing trading

Swing Trading คือการซื้อขายในไทม์เฟรมที่นานขึ้น โดยปกติจะใช้เวลา 2-3 วัน ถึง 2-3 สัปดาห์ ซึ่งการซื้อขายแบบ Swing Trading มักเป็นแนวทางที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสถานะตลอดเวลา และไม่ค่อยกังวลกับความผันผวนของราคารายวันมากนัก เนื่องจากเทรดเดอร์มักจะติดตามแนวโน้มในระยะยาว

 เนื่องจากดัชนีหุ้นเป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ดัชนีเหล่านี้จึงเหมาะสำหรับการซื้อขายแบบ swing ซึ่งสามารถเห็นได้จากการเติบโตของ Dow Jones, Nasdaq และ SP500 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาที่เติบโตควบคู่ไปกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ หากคุณชอบการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค ดังนั้น ไทม์เฟรมและเครื่องมือนี้จึงอาจเหมาะกับคุณ

แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อเทรดดัชนี

ตัวเลือกที่ดีสำหรับการซื้อขายดัชนีหุ้น แบบออนไลน์คือ MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจาก MetaTrader แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

นอกจากนี้ ที่ Admirals คุณสามารถเข้าถึงตลาดการเงินที่หลากหลายภายในแพลตฟอร์มเดียวกัน รวมถึง CFD ดัชนี, Forex สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต เป็นต้น

ทั้งนี้ Admirals ยังมีปลั๊กอินพิเศษอย่าง MetaTrader Supreme Edition ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดของคุณโดยเฉพาะ ดังนี้

  • Mini terminal
  • Trade terminal
  • Global opinion
  • Indicator package
  • Tick chart trader
  • Trading simulator
  • Mini charts
  • Trading ideas and technical analysis from Trading Central
ที่มา: Admirals MT5 พร้อมฟังก์ชัน MT5SE - กราฟราคารายสัปดาห์ของ EURUSD - Disclaimer: กราฟของเครื่องมือทางการเงินในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการซื้อขายหรือการชักชวนให้ซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินที่ให้บริการโดย Admirals (CFD, ETF, หุ้น) ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานในอนาคตเสมอไป

ลงทุนหุ้นยักษ์ใหญ่ของโลก

ซื้อขายหุ้นและกองทุน ETF เพียงปลายนิ้วสัมผัส

คำถามที่พบบ่อยในการเทรดดัชนี

 

การดัชนีดียังไง ?

การเทรดดัชนีจะช่วยให้คุณได้รับสามารถบริหารความเสี่ยงจากตะกร้าหุ้นหรือสินทรัพย์ที่หลากหลาย โดยพิจารณาจากภาพรวมของตลาดโดยรวมหรือภาคส่วนเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการเทรดดัชนีได้อีกด้วย

 

เทรดดัชนีดีที่สุดตอนไหน ?

ตลาดเปิดทำการ 9:30 - 10:30 น. ตามเวลาตะวันออก (ET) ซึ่งมักจะเป็น 1 ในชั่วโมงที่ดีที่สุดของวันในการเทรดแบบเดย์เทรด ซึ่งมีการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดในระยะเวลาที่สั้นที่สุด นอกจากนี้เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่จะหยุดเทรดในช่วงเวลาประมาณประมาณ 11:30 น. เพราะนั่นคือช่วงที่ความผันผวนและปริมาณมีแนวโน้มที่จะลดลง

 

เทรดหุ้นกับเทรดดัชนีต่างกันยังไง ?

การเทรดหุ้น คือ การซื้อขายหุ้นของบริษัท ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกัน โดยเทรดเดอร์ที่ถือหุ้นหลังจากซื้อหรืออาจโอนหุ้นนี้ให้ผู้อื่นได้ ส่วนการเทรดดัชนี คือ วิธีการที่เทรดเดอร์ใช้เก็งกำไรการเปลี่ยนแปลงของราคาดัชนี พูดง่ายๆ ก็คือการวัดทางสถิติของความผันผวนของตลาดที่มีความปลอดภัย

 

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

รู้จักกับ Admirals

Admirals คือ โบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหลากหลายองค์กรทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก อย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เพื่อให้คุณลงทุนใน Forex และ CFD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจการลงทุน สามารถเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันนี้!

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 

TOP ARTICLES
การเทรดคืออะไร? ทำเงินได้จริงไหม มือใหม่เทรดอะไรดี
การเทรดคืออะไร ? หากยังไม่เข้าใจก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการเริ่มต้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้าวผัดกะเพราจานละ 60-70 บาท สถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบนี้ที่เงินเฟ้อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รายได้จากงานประจำไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และการมีรายได้มากกว่า 2 ช่องทางขึ้น...
คุณรู้จักและเข้าใจเทรดเดอร์และอาชีพเทรดเดอร์มากแค่ไหน ?
พอได้ยินคำว่า "เทรดเดอร์" หลายคนจะนึกถึงภาพของคนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โบกกระดาษไปมาและตะโกนเสียงดังใส่กันให้ดูวั่นวายไปหมด เทรดเดอร์เป็นอาชีพที่บางครั้ง หลายคนอาจเข้าใจผิด แม้ปัจจุบันจะมีการปรับเปลี่ยนการทำงานมากขึ้น นับตั้งแต่ที่โลกมีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนบนโลกแล้วเทรดเดอร์คือใค...
บัญชี ECN คือ ? แล้วบัญชี STP คือ ? ควรเลือกบัญชีเทรดแบบไหนดี ?
บัญชี ECN คือ ? แล้ว บัญชี STP คือ ? หรือมีรายละเอียดที่แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน บอกได้เลยว่าการเลือกเปิดบัญชีเทรด Forex นั้น เทรดเดอร์มักได้ยินโบรกเกอร์แนะนำให้เปิดบัญชีหลักๆ อยู่ 2 บัญชีนี้ แต่คำถาม คือ บัญชี STP และบัญชี ECN คือ ? มีความแตกต่างกันอย่างไร และเราควรจะเลือกเปิดบัญชี STP หรือ บัญชี EC...
ดูทั้งหมด