เริ่มต้นอาชีพเทรดเดอร์ : ทำไมนักเทรด Forex ส่วนใหญ่เสียเงิน?

Alexandros Theophanopoulos
15 นาที

คำว่า "เทรดเดอร์" หรือเทรด Forex เป็นอาชีพสำหรับหลายๆ คน จะมองเห็นภาพว่าเป็นผู้คนที่ยืนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โบกกระดาษและตะโกนใส่กันเสียงดัง เป็นอาชีพที่บางครั้งอาจเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์เป็นอาชีพที่ทำรายได้มหาศาลมาตั้งแต่การถือกำเนิดของอินเทอร์เน็ต

แล้ว "อาชีพเทรดเดอร์" อาชีพเทรดเดอร์ คือ ? ทำงานกันอย่างไร และเราจะมีโอกาสเป็นเทรดเดอร์ได้หรือไม่ ในบทความนี้ เราจะให้คำตอบโดยละเอียดสำหรับคำถามเหล่านี้ เราจะสำรวจเทรดเดอร์ประเภทต่างๆ สไตล์บางส่วนที่ใช้วิธีการเป็นเทรดเดอร์และอีกมากมาย!

เทรดเดอร์ คือใคร ? เทรด Forex เป็นอาชีพทำอย่างไร ?

เทรดเดอร์ คือ คนที่ซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น, พันธบัตร, สกุลเงินและอื่นๆ เพื่อทำกำไร เทรดเดอร์อาจถูกจ้างโดยบริษัท เป็นพนักงานของบริษัท เทรดในนามบริษัทและจะได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ในขณะที่เทรดเดอร์อิสระจะเทรดบนทุนตัวเอง

นักเทรดเดอร์อาจถูกว่าจ้างโดยบริษัท ธนาคาร หรือผู้จัดการกองทุน แต่ก็ทำงานอิสระแบบอิสระ ไม่ว่าในกรณีใดงานจะคล้ายกันมาก โดยความแตกต่างส่วนใหญ่อยู่ในข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการเข้าเรียน (การศึกษาทักษะ) และวิธีปฏิบัติงาน เป็นต้น

นอกจากนี้ คำที่เกี่ยวข้องอีกคำหนึ่งคือ "โบรกเกอร์" บางครั้งอาจสับสนกับคำว่าเทรดเดอร์ ดังที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้เทรดเดอร์ คือผู้ที่ซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน ในทางกลับกันโบรกเกอร์หรือนายก็หน้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการคำสั่งซื้อและขายในนามของลูกค้า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือโบรกเกอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างตลาดการเงินและลูกค้า

1. เทรดเดอร์สถาบัน

นักเทรดหุ้นที่ทำงานให้บรษัทที่มีแผนกเทรดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์หลักทรัพย์ สถาบันการเงินธนาคารกองทุนเพื่อการลงทุนและบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง เทรดเดอร์ประเภทนี้ทำการค้าในนามของบุคคลที่สามซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ลงทุนด้วยเงินทุนของตนเอง แต่ใช้เงินที่ลูกค้ามอบให้

ภายในกลุ่มนี้มีเทรดเดอร์สองประเภทที่แตกต่างกัน ฝั่งขายและฝั่งซื้อ ผู้ค้าฝั่งขายหรือที่เรียกว่า "ผู้ค้า" การขายเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดและสามารถพบได้ในวาณิชธนกิจและบริษัทนายหน้า พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายหุ้น, ค่าเงิน Forex พันธบัตรและสินทรัพย์ทางการเงินอื่ๆ หรือในนามของแผนก Proprietary Trader

ในฝั่ง Buy-Side จะทำงานให้กับกองทุนป้องกันความเสี่ยง, บริษัท จัดการ บทบาทของพวกเขาคือดำเนินการตามคำสั่งซื้อที่ได้รับจากผู้จัดการเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดจากฝั่งขาย

เทรดเดอร์ในฝั่งซื้อจะทำการตัดสินใจในการซื้อขายและการลงทุนในพอร์ตของตนเอง ในขณะที่องค์กรฝั่งขายมักจะตอบสนองหรือให้บริการฝ่ายซื้อ

2. เทรดเดอร์อิสระ

ประมาณ 10 ปีให้หลังมานี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีความรุดหน้าไปมาก เราสามารถเทรดได้โดยไม่ต้องเข้าไปนั่งที่บริษัทโบรกเกอร์ ทำให้เกิดนักเทรดกลุ่มใหม่ "เทรดเดอร์อิสระ" คือใช้เงินทุนตัวเองเทรดอยู่ที่บ้าน เทรดเดอร์ประเภทนี้ทำการค้าออนไลน์โดยใช้บัญชีและเงินทุนของตนเอง

เทรดเดอร์อิสระ อาจจะเชี่ยวชาญในตลาดเดียวหรือหลายๆ ตลาดก็ได้ เพราะใช่ว่าตลาดที่เปิด 24 ชั่วโมงอย่าง "Forex" จะเทรดได้ตลอดเวลา เพราะดึกๆ ไปสภาพคล่องก็หายเหมือนกัน แต่นักเทรด Forex ระดับโลกก็นับว่าเป็นอะไรที่นิยมมากที่สุด อย่างไรก็ตามมีตลาดอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้ค้ารายย่อยสามารถเข้าถึงได้ง่ายเช่นหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัลและอื่นๆ

เริ่มต้นเส้นทางเทรด Forex เป็นอาชีพด้วยการฝึกเทรดบนบัญชีเงินจำลอง

การเป็นนักลงทุนแบบ Full-Time จำเป็นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ แม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพเองก็นิยมเข้าไปฝึกฝนในระบบบัญชีเงินจำลอง หรือที่เรียกว่า "Demo Account" อยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นระบบที่จำลองเงินขึ้นมาเพื่อใช้เทรด

  • สามารถเทรดได้เหมือนตลาดจริงทุกประการ
  • สามารถใช้เครื่องมือเทรดและสัมผัสถึงสภาพแวดล้อมแบบบัญชีจริงทุกประการ
  • คำนวณกำไรขาดทุนเหมือนเงินจริงทุกประการ และคำนวณตามราคาตลาดจริงๆ

คุณสามารถฝึดเทรดได้เรื่อยๆ โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ ผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ที่จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบประสบการณ์การเทรดของคุณเองได้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเปิดบัญชีเงินจำลองได้แล้ววันนี้ ฟรี!

สไตล์ของเทรดเดอร์

สไตล์ของเทรดเดอร์ เป็นการอธิบายวิธีการเทรดในภาพรวมของเทรดเดอร์นั้นๆ ว่าเข้าข่ายเป็นรูปแบบไหน โดยจะพิจารณาจาก "ระยะเวลา" ในการถือครองสถานะ ระยะเวลาในการพิจารณากรอบเวลา ซึ่งหลักๆ จะแบ่งเป็น

Swing Trading เป็นการซื้อขายที่อยากแนะนำให้เริ่มเป็นอันดับแรกๆ เพราะใช้เวลาน้อยที่สุดในบรรดาที่กล่าวว่า ส่วนการซื้อขายแบบรายวัน Day Trading และ Scalping นั้น ก็การซื้อขายที่แตกต่างกันสามรูปแบบซึ่งโดยหลักแล้วจะมีลักษณะตามขอบฟ้าของเวลาที่เทรดเดอร์ใช้

เทรดเดอร์แบบ Day Trader จะเทรดระหว่างวันตามชื่อที่แนะนำจะถือตำแหน่งของพวกเขาที่เปิดไม่เกินหนึ่งวันทำการ

Scalper จะซื้อขายในระยะสั้น เช่น พวกเขาถือตำแหน่งของพวกเขาในช่วงเวลาที่สั้นกว่าเทรดเดอร์รายวัน Scalpers ดำรงตำแหน่งเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาทีหรือแม้แต่วินาทีและมักใช้ระบบการซื้อขายอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าการซื้อขายจะเข้าและออกโดยเร็วที่สุด

แต่ถ้าเป็น Swing Trading จะมีระยะเวลาในการถือครองสถานะที่ยาวกกว่า โอกาสที่จะควบคุมความเสี่ยงต่อกำไรสำหรับมือใหม่จะทำได้ง่ายกว่า สุดท้ายการซื้อขายแบบสวิงใช้เส้นขอบฟ้าระยะกลางถึงระยะยาว ผู้ค้าสวิงอาจปล่อยให้สถานะเปิดเป็นวันสัปดาห์หรือหลายเดือน

อยากเป็นเทรดเดอร์ เริ่มต้นอย่างไรดี ?

ก่อนอื่นต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า อยากเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องอยู่ภายใต้บริษัท หรืออยากจะเทรดเพื่อตัวเอง และเพื่อที่จะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบการ หรือในสถาบันการเงิน คุณมีแนวโน้มที่จะต้องได้รับปริญญาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข เช่น การเงิน เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น เส้นทางสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพกับสถาบันอาจยาวและยาก ด้วยระบบอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นของพื้นที่การซื้อขายงานเหล่านี้จึงหายากขึ้น

แต่ในทางกลับกัน หากพิจารณาไปที่ปัจจุบัน ทุกคนสามารถเริ่มเทรดออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง สามารถใช้ได้กับทุกคนที่มีคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เพียงเพราะการเริ่มต้นซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องง่ายมากก็คงเป็นเรื่องโง่ที่จะเชื่อว่าการทำเงินด้วยการทำเช่นนั้นเป็นเรื่องง่าย

การเทรดโดยเฉพาะการเทรด Forex เป็นกิจกรรมที่ซับซ้อน จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับตลาดการเงิน และในการที่จะเพื่อที่จะเป็นเทรดเดอร์ประสบความสำเร็จ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำการวิจัยของคุณ ศึกษาหาให้ความรู้เกี่ยวกับความซับซ้อนของตลาดการเงินและการซื้อขายออนไลน์ วิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนั้นคือการลงทะเบียนหลักสูตรการเทรดด้วยตัวคุณเอง

เทรดเดอร์ มีรายได้เท่าไหร่?

เรื่องรายได้นับว่าตอบยากและมีความหลากหลาย แต่ถ้าให้ตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือ รายได้ขึ้นอยู่กับความสามารถ เทรดเดอร์รายย่อยเป็นกลุ่มที่แตกต่างกันมาก ทั้งในแง่ของภูมิหลังและประสบการณ์ในตลาดการเงิน ดังนั้น รายได้ของพวกเขาจึงประเมินได้ยาก ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อขายและจำนวนเงินทุนที่มีอยู่

เทรดเดอร์ ที่มีประสบการณ์ซึ่งมีพื้นฐานด้านการเงินและมีเงินทุนจำนวนมาก ก็จะมีความได้เปรียบในการลงทุน และแน่นอนว่าก็จะมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้มากกว่าผู้ค้ามือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเงินและมีเงินทุนน้อยกว่า

เริ่มต้นฝึกฝนการเป็นเทรดเดอร์ผ่าน MT5

คุณรู้หรือไม่? MetaTrader 5 หรือ "MT5" เป็นแพลตฟอร์มการเทรดชั้นนำที่มีเครื่องมือการวิเคราะห์กราฟขั้นสูง, ระบบการเทรดอัตโนมัติ ปรับแต่งเครื่องมือและกราฟได้ตามต้องการ อีกทั้ง โบรกเกอร์ Admirals ยังได้เตรียมปลั๊กอินพิเศษสำหรับใช้งานกับ MetaTrader 5 ให้ฟรีๆ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษดังต่อไปนี้

  • Correlation Matrix : ตรวจสอบความแข็งแกร่งของคู่เงินทั้งกระดาน!
  • Trading Simulator : ทดสอบกลยุทธ์ จุดเข้า-จุดออก ย้อนหลังจากข้อมูลราคาในอดีต
  • Admiral Pivot Point : ช่วยบอกแนวรับ-แนวต้าน แบบอัตโนมัติ
  • Lot-size Calculator : คำนวณราคาและปริมาณการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ
  • Candle Countdown : Indicator ตัวนับเวลาแท่งเทียน ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของตลาด
  • Technical Insight™ : อัปเดตข้อมูลตลาดและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ รวมถึงการวิเคราะห์รูปแบบ Price Action

นอกจากนี้ ยังมี Widget เสริมอีกมากมายที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดให้กับคุณ โดย MetaTrader 5 แพลตฟอร์มการเทรดรุ่นพิเศษนี้ คุณสามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรี! คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง!

แพลตฟอร์มที่มีสินทรัพย์ให้ลงทุนอย่างหลากหลาย

ทำไมนักเทรด Forex ส่วนใหญ่เสียเงิน?

1. บริหารความเสี่ยงได้ไม่ดี

การจัดการความเสี่ยงที่ไม่เหมาะสมนับเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักเทรด Forex มักจะสูญเสียเงินอย่างรวดเร็ว และการที่แพลตฟอร์มการซื้อขายติดตั้งการ Take profit และ Stop loss ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของเทรดเดอร์และนักเทรด Forex ได้อย่างมาก ซึ่งเทรดเดอร์จำเป็นต้องรู้วิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้และใช้งานอย่างถูกต้องเพื่อควบคุมการซื้อขายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การประเมินความเสี่ยง Risk Return Ratio

Risk/Reward Ratio (หรือ Risk Return Ratio/ RR) คือการกำหนดเพื่อช่วยให้เทรดเดอร์วางแผนว่ากำไรจะทำกำไรได้มากน้อยเพียงใดหากการเทรดเป็นไปตามคาดหรือจะสูญเสียไปเท่าไหร่หากไม่เป็นไปตามนั้น ตัวอย่างคือ หากตั้ง Take-profit ไว้ที่ 100 pips และ stop-loss ที่ 50 pips อัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทนคือ 2:1 จึงหมายความว่าจุดคุ้มทุนอย่างน้อยทุกๆ 1 ใน 3 ของการเทรด โดยที่จะสามารถทำกำไร เทรดเดอร์จึงควรตรวจสอบตัวแปรทั้ง 2 ตัวนี้ควบคู่กันไปเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายกำไร

2. ไม่ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาด

แม้ว่ากลยุทธ์มีผลการดำเนินการที่ดีก็อาจทำให้นักเทรด Forex สูญเสียหรือขาดทุนได้ ซึ่งมาจากสาเหตุหลักของ ตลาดที่ไม่คงที่ และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทรดเดอร์จึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของตลาดเหล่านี้ไม่เพียงแต่มาพร้อมกับความเสี่ยงใหม่ๆ แต่ก็มาพร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ในการซื้อขายด้วย ซึ่งเทรดเดอร์ต้องติดตามและทำความคุ้นเคยกับความผันผวน และแยกแยะแนวโน้มตลาดหลังการประกาศข่าวการเงินต่างๆ ด้วย

ความผันผวนของตลาดอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพการซื้อขาย เทรดเดอร์จึงควรทราบถึงความผันผวนของตลาดที่สามารถกระจายเป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นเดือน หรือกระทั่งเป็นปี 

นอกจากนี้เทรดเดอร์ก็ควรติดตามข่าวการเงินต่างๆ โดยเฉพาะการตัดสินใจนโยบายการเงิน เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หรือแม้แต่ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับการว่างงานหรือความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สามารถเปลี่ยนความเชื่อมั่นของตลาดภายในชุมชนการค้าได้ แม้ว่ากลยุทธ์ที่ใช้จะไม่ได้อิงตามปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ก็ตาม 

ในขณะที่ตลาดตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ก็มีผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั้นทำให้การที่ไม่สามารถแยกแยะตลาดที่มีแนวโน้มออกจากตลาดที่หลากหลายจึงส่งผลต่ออาชีพเทรดเดอร์ที่ใช้เครื่องมือการซื้อขายผิดที่ผิดเวลา

3. ความคาดหวังและการขาดคำแนะนำ

มีเทรดเดอร์ 2 ประเภทที่เข้ามาในตลาด Forex กลุ่มแรกคือผู้ที่หันหลังให้ตลาดหุ้นและตลาดการเงินอื่นๆ เพื่อค้นหาเงื่อนไขการซื้อขายที่ดีกว่าในการเทรด Forex หรือเพื่อการกระจายการลงทุน ต่อมาคือ เทรดเดอร์รายย่อยที่ไม่เคยซื้อขายในตลาดการเงินมาก่อน 

การมีความคาดหวังในการทำกำไรที่เป็นจริงยังช่วยบรรเทาความกดดันทางจิตวิทยาที่มาพร้อมกับการซื้อขายแต่สำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์ก็อาจหลงทางในอารมณ์ระหว่างการเทรดที่ขาดทุน ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้

สิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่คือ Forex ไม่ใช่หนทางสู่ความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว และก็มีช่วงที่ดีและมีช่วงแย่ ควบคู่กับความเสี่ยงและการสูญเสีย แน่นอนว่าความอดทนและความสม่ำเสมอคือเพื่อนที่ดีที่สุดในการลงทุน เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องทำกำไรมากมายจากการซื้อขายครั้งใหญ่ๆ ไม่กี่ครั้ง ซึ่งเป็นนิสัยการซื้อขายที่ไม่เหมาะสมและอาจนำไปสู่การขาดทุนได้ 

และหากต้องการฝึกฝนกลยุทธ์และเรียนรู้ไปกับเหล่าเทรดเดอร์ระดับโลก ก็สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกับสัมนาการเทรดออนไลน์ ฟรี ของเราได้ รายละเอียดเพิ่มเติมหรือสมัครเข้าร่วมสัมนาสามารถคลิกที่แบนเนอร์ได้เลย! 

สัมมนาการเทรดออนไลน์ฟรี

เรียนสดกับเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

4. เงินทุนไม่เพียงพอ

การเทรดจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน และหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของ Forex คือการใช้บัญชีที่มีเลเวอเรจสูง ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์ที่มีทุนเริ่มต้นจำกัดก็สามารถได้รับผลกำไรจำนวนมาก (หรือขาดทุนจริง) ได้โดยการเก็งกำไรจากราคาของสินทรัพย์ทางการเงิน

ไม่ว่าฐานการลงทุนจำนวนมากจะประสบความสำเร็จโดยใช้เลเวอเรจสูงหรือการลงทุนเริ่มต้นสูงนั้นไม่เกี่ยวข้องกันในทางปฏิบัติ (พร้อมกับการบริหารรความเสี่ยงที่มั่นคง) สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่ามีฐานการลงทุนเพียงพอ การมีจำนวนเงินเพียงพอในบัญชีซื้อขายช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรระยะยาวของอาชีพเทรดเดอร์ได้อย่างมาก และยังช่วยลดความกดดันทางจิตใจที่มาพร้อมกับการซื้อขายอีกด้วย

แล้วมีทุนเท่าไหร่ถึงจะพอ? สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้วิธีหยุดการสูญเสียเงินในการซื้อขาย Forex เนื่องจากการจัดการบัญชีที่ไม่เหมาะสม ปริมาณการซื้อขาย Forex ขั้นต่ำที่โบรกเกอร์สามารถเสนอได้คือ 0.01 ล็อต (Lot)

ซึ่งเรียกว่าไมโครล็อต (เทียบเท่ากับ 1,000 หน่วยของสกุลเงินฐานที่มีการซื้อขาย) แน่นอนว่าการเทรดขนาดเล็กไม่ใช่วิธีเดียวที่จะจำกัดความเสี่ยงของคุณ เทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับตำแหน่งของ Stop Loss ตามหลักการทั่วไป เทรดเดอร์มือใหม่ควรเสี่ยงไม่เกิน 1% ของเงินทุนต่อการซื้อขาย 

การใช้เลเวอเรจให้สมดุลอย่างระมัดระวังในปริมาณที่น้อยลงจึงเป็นวิธีที่ดีในการทำให้บัญชีมีเงินทุนเพียงพอในระยะยาว เช่น ในการซื้อขายหนึ่งไมโครล็อตสำหรับคู่สกุลเงิน USD/EUR ซึ่งมีความเสี่ยงไม่เกิน 1% ของเงินทุนทั้งหมด จะต้องใช้เงินลงทุนเพียง $250 ในบัญชีที่มีเลเวอเรจ 1:400 อย่างไรก็ตาม การเทรดด้วยเลเวอเรจที่สูงขึ้นยังเพิ่มปริมาณเงินทุนที่อาจสูญเสียในการเทรดอีกด้วย ในตัวอย่างนี้ การซื้อขายมากเกินไปในบัญชีที่มีเลเวอเรจ 1:400 โดยหนึ่งไมโครล็อตจะเพิ่มการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นเป็นสี่เท่า เมื่อเทียบกับการซื้อขายเดียวกันในบัญชีที่มีเลเวอเรจ 1:100

5. การเสพติดการซื้อขาย

การเสพติดการซื้อขายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาชีพเทรดเดอร์ Forex มักจะสูญเสียเงิน จึงทำสิ่งที่นักลงทุนสถาบันไม่เคยทำ เช่น การไล่ตามราคา การเทรด Forex สามารถสร้างความตื่นเต้นได้มากมาย ด้วยช่วงเวลาการซื้อขายระยะสั้นและคู่สกุลเงินที่ผันผวน ตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและทำให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน นอกจากนี้ก็อาจทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่คาดคิด

เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ เทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดด้วยกลยุทธ์การออกที่ชัดเจน หากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ การไล่ตามราคา - ซึ่งเป็นการเปิดและปิดการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีการวางแผน - เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับแนวทางนี้ และเป็นเหมือนการพนันมากกว่าการซื้อขาย ไม่เหมือนกับที่เทรดเดอร์อยากจะเชื่อ เนื่องจากไม่มีอำนาจควบคุมหรือมีอิทธิพลเหนือตลาดเลย ดังนั้น การจำกัดจำนวนเงินที่สามารถดึงออกจากตลาดได้

เมื่อสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เทรดเดอร์จะตระหนักว่าการเคลื่อนไหวบางอย่างไม่คุ้มที่จะรับ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายนั้นสูงเกินไป เพราะนี่คือเวลาที่จะออกจากการซื้อขายสำหรับวันและรักษายอดเงินในบัญชีให้เหมือนเดิม ตลาดจะยังคงอยู่ที่นี่ในวันพรุ่งนี้ และโอกาสในการซื้อขายใหม่อาจเกิดขึ้น

ยิ่งเทรดเดอร์เริ่มเห็นความอดทนเป็นจุดแข็งแทนที่จะเป็นจุดอ่อนเร็วเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งใกล้ที่จะตระหนักถึงเปอร์เซ็นต์การชนะการซื้อขายที่สูงขึ้นเท่านั้น แม้จะดูเหมือนขัดแย้ง การปฏิเสธที่จะเข้าสู่ตลาดในบางครั้งอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำกำไรในฐานะนักเทรด Forex นั่นคือ การสร้างความอดทนเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ไม่เสพติดการเทรด 

6. ละเลยแผนการเทรดของตน

นักเทรด Forex จะเสียเงินได้อย่างไร? ทัศนคติที่ไม่ดีและความล้มเหลวในการเตรียมพร้อมสำหรับสภาวะตลาดในปัจจุบันมีส่วนอย่างแน่นอน ดังนั้น การซื้อขายทางการเงินเป็นรูปแบบหนึ่งของธุรกิจ ซึ่งโครงการธุรกิจที่จริงจังจำเป็นต้องมีแผนธุรกิจ ในทำนองเดียวกัน เทรดเดอร์ที่จริงจังจำเป็นต้องลงทุนเวลาและความพยายามในการพัฒนากลยุทธ์การเทรดอย่างละเอียดถี่ถ้วน อย่างน้อยที่สุดแผนการเทรดจำเป็นต้องพิจารณาจุดเข้าและออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเทรด อัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทน พร้อมกับกฎการจัดการเงิน

7. โอเวอร์เทรด

การซื้อขายมากเกินไป - ไม่ว่าจะซื้อขายมากหรือบ่อยเกินไป - เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเทรด Forex ล้มเหลว การโอเวอร์เทรดอาจเกิดจากเป้าหมายกำไรที่สูงเกินจริง ไม่ว่าจะเป็นผลจากการเสพติดตลาด หรือเงินทุนที่ไม่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเทรดอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างนิสัยในการเทรดทีละเล็กละน้อย เพื่อสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

เรียนรู้เรื่องการเทรดเพิ่มเติมได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Admirals

Admirals เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ชนะรางวัลมากมาย อีกทั้งได้รับ ใบอนุญาตและกำกับดูแลจากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารการเงินมากกว่า 8,000 รายการผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เริ่มเทรดเลยวันนี้

คำปฏิเสธข้อเรียกร้อง (Disclaimer): สารสนเทศที่ได้นำเสนอ มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของการให้ข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้

  • นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใดๆ เกี่ยวกับการจัดการล่วงหน้าในการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
  • การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง Admirals จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
  • การวิเคราะห์นี้ จัดทำขึ้นโดยนักวิเคราะห์อิสระ Alexandros Theophanopoulos ซึ่งจะเรียกว่า "ผู้เขียน")
  • เพื่อให้มั่นใจว่าผลประโยชน์ของลูกค้าจะได้รับการคุ้มครอง ในขณะที่เป้าหมายในการจัดทำการวิเคราะห์ที่ดีก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ Admirals จึงได้กำหนดกระบวนเป็นการภายในเพื่อป้องกันและจัดการกับความขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ (Conflicts of Interest)
  • เราได้พยายามอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาทั้งหมดของการวิเคราะห์ มีความน่าเชื่อถือและได้นำเสนอข้อมูลทั้งหมดเท่าที่จะเป็นไปได้ เข้าใจได้ง่าย แม่นยำ ทันเวลาหรือไม่ล้าสมัย อย่างไรก็ตาม Admirals ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลที่อยู่ในการวิเคราะห์ ตัวเลขที่นำเสนอหรืออ้างถึงผลลัพธ์ในอดีต ไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
  • ข้อมูลที่นำเสนอในการวิเคราะห์ ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำการลงทุน คำให้สัญญา หรือการรับประกันจาก Admirals ว่า ลูกค้าจะได้กำไรจากกลยุทธิ์หนึ่งๆ อย่างแน่นอน หรือสามารถจำกัดการขาดทุนได้
  • การใช้เครื่องมือทางการเงินก่อนหน้านี้หรือแบบจำลองใดๆ ที่ระบุไว้ในเอกสารเผยแพร่ไม่ควรตีความว่าเป็นคำมั่นสัญญาที่จะรับประกันอย่างแน่นอน หรือโดยพฤตินัย จาก Admirals เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะไม่มีการรับประกันมูลค่าของเครื่องมือทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง
  • ผลิตภัณฑ์เลเวอเรจ (Leveraged products) รวมถึงสัญญาเพื่อส่วนต่าง "CFD" โดยธรรมชาติถือเป็นเครื่องมือในการเก็งกำไร ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดทุนหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงเป็นอย่างดีแล้ว
TOP ARTICLES
รู้จักนักเทรด Forex ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
การเป็นนักเทรด Forex ระดับโลก เป็นเหมือนความฝันของใครหลายๆ คน ในบทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องราวของนักเทรด Forex มืออาชีพที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเทรด พร้อมแนะนำเคล็ดลับดีๆ ในการเทรดให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน ห้ามพลาด! อยากเป็นนักเทรด Forex ที่ประสบความสําเร็จต้องอ่าน!...
ดูทั้งหมด