Market Outlook – จับตานโยบายของ BoE และ Fed ในสัปดาห์ที่วุ่นวายนี้

ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในตลาดการเงิน ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญและการประกาศต่างๆ ที่คุณไม่ควรพลาด

โดยในสัปดาห์นี้ เช้าวันจันทร์จะมีการอัปเดทอัตราเงินเฟ้อและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในเขตยูโร ปิดท้ายวันศุกร์ด้วยการด้วยการประกาศการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ในสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคม ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE)

ทั้งนี้ การประกาศทางเศรษฐกิจที่สำคัญก็๋อาจทำให้เกิดความผันผวน ดังนั้น หากคุณแผนการซื้อขายของคุณเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้ ควรระมัดระวังในการเทรดมากขึ้น

เงินเฟ้อและ GDP ในยุโรป

มีรายงานอัตราเงินเฟ้อประจำปีในเขตยูโรที่ 9.9% ในเดือนกันยายน ซึ่งสูงกว่า 9.1% ในเดือนก่อนหน้า แต่ก็ไม่สูงอย่างที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก โดยจากความพยายามเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วที่จะควบคุมราคาที่สูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 basis points เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน

แม้ราคาจะมีการปรับขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของตลาด แต่ค่าเงินยูโร (EUR) กลับลดลงและดัชนี STOXX Europe 600 ก็ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ECB มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการแถลงข่าวครั้งต่อไป

เช่นเดียวกับธนาคารกลางหลายแห่ง ECB ก็พยายามที่จะควบคุมเงินเฟ้อเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษกิจถดถอย ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลข GDP อีกครั้งในสัปดาห์หน้าจะเป็นที่จับตามองจากเทรดเดอร์และนักลงทุน โดยเฉพาะในยุโรป

หากรายงานอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรเจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปของ ECB ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ หากรายงาน GDP ดีกว่าที่คาดไว้ ก็อาจเพิ่มโอกาสที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีก เนื่องจาก ECB อาจไม่กังวลในเรื่องเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากนัก

ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดไว้หรือ GDP ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ความเป็นไปได้ที่การปรับขึ้นระดับปานกลางในเดือนธันวาคมก็จะเพิ่มขึ้น

การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ Fed

อัตราเงินเฟ้อที่ลุกลามไม่ได้จำกัดแค่ในเขตยูโร โดยสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ ต่างก็ต้องต่อสู้กับราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ECB จะเริ่มบังคับใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดค่อนข้างช้า แต่ Fed และ BoE ก็ดำเนินการย่างเต็มที่และรวดเร็ว

ซึ่ง Fed เฟดได้ประกาศนโยบายอย่างแข็งกร้าวด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 75 basis points ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง และในวันพุธนี้ก็ คาดว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 4

อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมีส่วนทำให้เกิดตลาดหมีในอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก แต่นั่นก็จะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) แข็งค่าขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งก็จะกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้น การปรับราคาขึ้นจึงอาจมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดผลกระทบเหล่านี้

ทั้งนี้ ก็มีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่ 75 basis points เช่นเคย แต่หาก Fed ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าหรือน้อยหว่าที่คาดไว้ คาดว่าจะเห็นปฏิกิริยาเชิงลบในตราสารทุน

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบแข็งค่าต่อสกุลเงิน USD โดยคาดว่าจะมีปฏิกิริยาเชิงบวก หากมีการปรับขึ้นราคามากกว่าที่คาดการณ์ไว้

การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ BoE

กล่าวได้ว่าใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหราชอาณาจักรนั้นค่อนข้างปั่นป่วน

โดยในสัปดาห์ที่แล้ว Liz Truss กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่สั้นที่สุดของสหราชอาณาจักร หลังจากการลดหย่อนภาษีไม่ได้รับการสนับสนุน และได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาด อีกทั้งลาก GBP ไปสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ยังทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น

ซึ่งความวุ่นวายที่ตามมาก็เป็นเหตุให้เกิดการแทรกแซงฉุกเฉินอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนจาก BoE ซึ่งถูกบังคับให้ปรับใช้เงินหลายพันล้านปอนด์ในตลาดที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาล

ซึ่งก็เป็นผลลัพธ์ที่เหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ Liz Truss ถึงจุดจบอย่างรวดเร็ว และสหราชอาณาจักรก็ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของปี อย่าง Rishi Sunak ทั้งนี้ การจากไปของ Liz Truss และการพลิกกลับของนโยบายทั้งหมดของเธอก็ทำให้ตลาดสงบลง และ GBP ก็ปรับฟื้นคืน

ซึ่งในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ เราจะมาติดตามกันว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งสหราชอาณาจักร (MPC หรือที่เราเรียก กนง.) จะตอบสนองต่อความผันผวนของตลาดเมื่อเร็วๆ นี้อย่างไร และผลที่ตามมาของ “งบประมาณขนาดเล็ก” จะทำให้กนง. ของสหราชอาณาจักรจะบังคับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปมากน้อยเพียงใด

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะสงบลงบ้าง แต่ตลาดก็คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 basis points โดยนักวิเคราะห์ก็คาดการณ์ว่า เทรดเดอร์และนักลงทุนจะสามารถมั่นใจได้ว่าคู่สกุลเงิน GBP และสหราชอาณาจักรจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาของการประกาศนี้

สัมนาการเทรดออนไลน์ ฟรี!

หากคุณสนใจเรียนรู้การเทรดและการลงทุน ที่ Admiral Markets จัดทำสัมมนาการเทรดออนไลน์สำหรับคุณทุกคนทุกสัปดาห์ พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ ที่พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิดและกลกลยุทธ์การเทรดไปกับคุณ คลิกแบนเนอร์ด้านล่าง เพื่อดูกำหนดการที่จะมาถึง ห้ามพลาด!