จับตาดอกเบี้ยนโยบายแและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

มกราคม 24, 2024 03:45

การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่สำคัญกลับมาอยู่ในวาระการประชุมในสัปดาห์นี้ โดยในเช้าวันนี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) ประกาศคงต้นทุนการกู้ยืมไว้ตามคาดการณ์ หลังจากที่ BoJ และธนาคารประชาชนจีน (PBoC) คงนโยบายไว้ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามมาด้วยธนาคารแห่งแคนาดา (BoC) มีกำหนดจะประกาศการปรับปรุงนโยบายการเงินในวันพุธที่จะถึงนี้

หากอ้างอิงตามรายงานของ Bloomberg ทางการจีนพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 278 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนตลาดหุ้น โดย Li Qiang นายกรัฐมนตรีจีนให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า “เราต้องใช้มาตรการที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของตลาด”

ดัชนี Hang Seng เพิ่มขึ้น 3% ในวันนี้ตามข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เป็นที่น่าจับตาว่า ดัชนีฮ่องกงอาจสูญเสียมูลค่าเกือบ 14% ในปี 2023 และกลายเป็นดัชนีที่มีประสิทธิภาพแย่ที่สุดในภูมิภาคได้

การตัดสินใจในดอกเบี้ยนโนยบายของ BoJ

คณะกรรมการบริหารของ BoJ ประกาศว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม และนโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนเท่าเดิมตามคาดการณ์ไว้ โดยผู้กำหนดนโยบายของ BoJ ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยสำหรับการเติบโตของราคาผู้บริโภคหลักลงเหลือ 2.4% ในปีงบประมาณ 2024 จากการคาดการณ์ 2.8% ในเดือนตุลาคม

โดย Kazuo Ueda ผู้ว่าการ BoJ เน้นย้ำว่า ธนาคารกลางจะไม่ลังเลใจที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมหากจำเป็น ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งคาดว่า BoJ สามารถยกเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบได้ในช่วงเดือนเมษายน เนื่องจากคาดว่าจะมีการขึ้นค่าจ้างอีกมากจากการเจรจาค่าจ้างที่กำลังเกิดขึ้น

ดัชนี CPI ในไตรมาส 4 ปี 2023 ของนิวซีแลนด์

สำนักสถิติของนิวซีแลนด์มีกำหนดการรานงานดัชนีเงินเฟ้อ CPI ประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ในเย็นวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI จะอยู่ที่ 4.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 5.6% ในไตรมาสที่ 3 ของปี

นอกจากนี้ยังมี รายงานของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งนิวซีแลนด์ (NZIER) ที่ได้ประกาศไว้ในวันที่ 16 มกราคม แสดงให้เห็นว่า 10% ของบริษัทต่างๆ คาดการณ์ว่าจะเกิดเศรษฐกิจจะถดถอยในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งลดลงจาก 49% จากในไตรมาสที่ 3

นักเศรษฐศาสตร์จาก ANZ Bank กล่าวในหมายเหตุว่าในช่วงปลายปี 2023 มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่ง RBNZ ก็ยอมรับว่าดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อโดยตรงลดลง แต่ต้องระวังตัวชี้วัดที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งบ่งบอกถึงความเสี่ยงของพายุทางเศรษฐกิจที่เศรษฐกิจที่อาจไเกิดขึ้นอีกครั้งก่อนที่การต่อสู้กับเงินเฟ้อจะเสร็จสิ้น

ดอกเบี้ยนโยบายของ BoC

BoC มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5% ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าคณะกรรมการจะคงระดับนโยบายที่เข้มงวดไว้ในแถลงการณ์หลังการประชุม โดยสำนักสถิติของแคนาดาประกาศว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนที่แล้ว

ผลจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ตลาดจึงปรับลดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม เพราะมองว่าธ BoC สามารถประเมินแนวทางเกี่ยวกับนโยบายการเงินได้อีกครั้ง

นักวิเคราะห์ของ Royal Bank of Canada กล่าวในรายงานว่าในแง่ของการกำหนดนโยบายการเงินท่ามกลางความอ่อนแอในการพัฒนาเศรษฐกิจ จึงอาจยังไม่จำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แต่อัตราเงินเฟ้อ (และการเติบโตของค่าจ้าง) ก็ลดลงเช่นกัน จึงไม่ง่ายที่จะผลักดันให้ BoC พิจารณาเริ่มมาตรการผ่อนคลาย"

ดอกเบี้ยนโยบายของ PBoC

PBoC ประกาศการคงต้นทุนการกู้ยืมไว้เท่าเดิมในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งกล่าวไว้ โดยอัตราคงที่ที่ออกมานี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นให้เครดิตที่มีอยู่นั้นถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการเพิ่มเงินยังไม่ได้นำไปสู่การปรับปรุงนโยบายการกู้ยืมจริง

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ตลาดจาก Bloomberg Economics ตั้งข้อสังเกตว่าเราเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ PBoC ลง 10 bps ในไตรมาสนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลให้อัตราการกู้ยืมลดลงเช่นกัน ซึ่งการเติบโตที่ซบเซาและแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดที่เพิ่มขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังต้องการการสนับสนุนนโยบายที่แข็งแกร่งและรวดเร็ว การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ PBoC ที่คาดไว้จะทำให้ธนาคารมีช่องทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้

บัญชีทดลองเทรด เรียนรู้ตลาด ทดสอบกลยุทธ์โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุน

เริ่มต้นการซื้อขายได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนกับบัญชีทดลองเทรดจาก Admirals ที่จะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายในสภาวะตลาดที่สมจริง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเปิดบัญชีทดลองเทรดคลิกแบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!

บัญชีทดลองเทรด

ฝึกฝนการเทรดในตลาดจริงด้วยเงินจำลอง หรือ Demo Account เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการฝึกเทรดได้อย่างอิสระ มีระบบคำนวณกำไร-ขาดทุนแบบอัตโนมัติให้ศึกษา

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

Miltos Skemperis
Miltos Skemperis นักเขียนบทความการเงิน

Miltos Skemperis จบการศึกษาทางด้านวารสารศาสตร์และบริหารธุรกิจ เคยเป็นผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์มากมาย แต่ก็ผันตัวมาเป็นนักเขียนบทความการเงินมากว่า 7 ปีแล้ว