ตลาดจับตา CPI สหรัฐฯ และ GDP ของสหราชอาณาจักร

สิงหาคม 09, 2023 21:50

ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และข้อมูล GDP ของสหราชอาณาจักร คือ 2 ข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดการประกาศในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์ตลาดจะรอพิจารณาข้อมูลจากรายงานที่ซึ่งคาดว่าจะมีอิทธิพลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ตามลำดับ

โดยในสหราชอาณาจักร สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NIESR) กล่าวไว้ว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าก่อนเกิดโรคระบาด 0.5% จะไม่เพิ่มขึ้นเกินระดับเดิมจนกว่าจะถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ซึ่งนักวิเคราะห์ของ NIESR ตั้งข้อสังเกตว่า “อุปทาน 3 เท่าจาก Brexit, Covid และการรุกรานยูเครนของรัสเซีย รวมถึงการคุมเข้มทางการเงินล้วนจำเป็นต่อการลดอัตราเงินเฟ้อได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร”

จากโพลของ S&P Global ที่แนะนำว่า "มีความเป็นไปได้ที่ RBA จะสามารถจัดการกับอัตราเงินเฟ้อได้แบบ 'การลงจอดแบบนุ่มนวล' หรือลดเงินเฟ้อสู่ช่วงเป้าหมายได้" โดยเนื้อหาในรายงานระบุว่า “ความเสี่ยงที่สำคัญคืออัตราเงินเฟ้อในออสเตรเลียนั้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่ง RBA จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้รุนแรงขึ้น และหากอัตราการสามารถจำกัดการว่างงานของออสเตรเลียไว้ที่ประมาณ 1% ได้ แน่นอนว่าการจัดการกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเงินก็ยังคงสามารถจัดการได้”

อัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ 

สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) จะประกาศข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมของประเทศ ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.2% และเมื่อเทียบเป็นรายปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.3% ต่อปี โดยเป้าหมายเงินเฟ้อของ Fed คือที่ 2% ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากในปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์แนะนำว่า อัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลขของปีที่แล้ว โดย Patrick Harker ประธาน Fed ฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า "เรามีความคืบหน้าอย่างช้าๆ ในการดำเนินการกับอัตราเงินเฟ้อ พร้อมกับเฝ้าดูแรงกดดันด้านราคาที่เกิดขึ้นอีก และยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย ซึ่งเราคาดการณ์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนี้จะดำเนินไปพร้อมกับการสลายตัวของเงินเฟ้อค่อยค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอน”

GDP ไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ของสหราชอาณาจักร

และในวันศุกร์นี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) จะประกาศตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 2 ของปีของสหราชอาณาจักร ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนมิถุนายน จะขยายตัวที่ 0.2%  ซึ่งจะกลับสู่แดนบวก พร้อมคาดการณ์การเติบโตในทุกไตรมาสของ GDP เมื่อเทียบเป็นรายปี ของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 0.2% 

นักเศรษฐศาสตร์จาก Société Générale ตั้งข้อสังเกตว่า “เราคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในรายไตรมาสที่ 1 ไว้ที่ 0.1% (และรายปีที่ 0.3%) เช่นเดียวกับไตรมาสที่ 1 เนื่องจากในเดือนมิถุนายน GDP มีการฟื้นตัวที่ 0.2% หลังจากที่หดตัว -0.1% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่ง BoE คาดการณ์การเติบโตที่ประมาณ 0.2% ในครึ่งปีแรก และอัตราที่ใกล้เคียงกันในระยะเวลาอันใกล้นี้”

ราคาผู้บริโภคในเดือน ก.ค. ของจีนลดลง

ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบเป็นรายปีลดลง 0.3% แต่เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ของ Oxford Economic กล่าวในรายงานไว้ว่า “อุปสงค์ที่อ่อนแอของจีนในไตรมาสที่ 2 อาจเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ที่ค่อนข้างจำกัดในช่วงโควิด การเข้มงวดด้านกฎระเบียบเป็นเวลาหลายปี และการแก้ไขที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง” ทำให้มีคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในจีนจะขยายตัวที่ 0.5% ในปีนี้ และดัชนีราคาผู้ผลิตจะลดลง 3.5%

อยากเรียนรู้ข่าวเศรษฐกิจมหภาค เรามีคำตอบให้คุณ! กับสัมนาการเทรดออนไลน์ ฟรี ที่คุณจะได้พบกับเซสชั่นที่หลากหลายพร้อมพบปะพูดคุยกับเหล่าเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมศึกษาวิธีการและกลยุทธ์ที่น่าสนใจในไลฟ์สดที่จะมาสาธิตวิธีการต่างๆ เพื่อคุณโดยเฉพาะ!

สัมมนาการเทรดออนไลน์ฟรี

เรียนสดกับเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

Miltos Skemperis
Miltos Skemperis นักเขียนบทความการเงิน

Miltos Skemperis จบการศึกษาทางด้านวารสารศาสตร์และบริหารธุรกิจ เคยเป็นผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์มากมาย แต่ก็ผันตัวมาเป็นนักเขียนบทความการเงินมากว่า 7 ปีแล้ว