อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ความหวาดกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการเติบโตของการจ้างงาน
เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในช่วงเวลาที่จะกำหนดความเป็นไปทางเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้แขวนอยู่ระหว่างอัตราเงินเฟ้อที่สูงและความหวาดกลัวในเศรษฐกิจถดถอย เมื่อเทียบกับการเติบโตในภาคการผลิตและความแข็งแกร่งในตลาดงาน ในขณะที่เศรษฐกิจพุ่งสูงขึ้นหลังจากการระบาดใหญ่ มาดูกันว่าแนวโน้มใดที่จะส่งผลกับภาวะเศรษฐกิจในสิ้นปีนี้
ความหวาดกลัวในภาวะเศรษฐกิจถดถอย
แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ในไตรมาสที่ 3 ทำให้เป็นการดึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี ซึ่งการเติบโตบางส่วนนี้เป็นผลมาจากความแข็งแกร่งของตลาดการจ้างงาน ในขณะที่การระบาดใหญ่ค่อยๆ หายไป และกิจกรรมการจ้างงานก็ฟื้นตัวตามธรรมชาติ แต่จากการสำรวจล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐญ ก็ยังมีความกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น
โดยจากการสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่สินเชื่ออาวุโส เกี่ยวกับแนวทางการให้สินเชื่อของธนาคาร (Senior Loan Officer Opinion Survey - SLOOS) ประจำเดือนตุลาคม 2022 เปิดเผยว่า ธนาคารส่วนใหญ่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้มากกว่าหรือเท่ากับ 40% ที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อยถึงปานกลางในอีก 12 เดือนข้างหน้า
และจากการสำรวจแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและข้อจำกัดด้านสินเชื่อที่เพิ่มากขึ้น ก็ส่งผลให้มาตรฐานการใหดสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น และทำให้ความต้องการสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรมในกลุ่มธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ในไตรมาสที่ 3 ลดลง
การอ่านค่าเงินเฟ้อเดือนตุลาคม
กล่าวได้ว่า ค่าเงินเฟ้อคือสิ่งที่จะส่งผลต่อตลาดซื้อขายและการลงทุนโดยตรง ซึ่งเราจะได้ฟังการประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคม ในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเหลือ 8% จากระดับ 8.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY)
และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเป็นตัวชี้วัดที่มีความสำคัญมากสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 6.6% และคาดว่าจะลดลงเป็น 6.5% ในเดือนตุลาคมของทุกปี โดยหากอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นก็อาจมีผลกระทบต่อคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดตั้งราคาด้วยความน่าจะเป็นที่สูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอีกมากจากธนาคารกลางสหรัฐฯ
การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร และผลกระทบต่อ GBP
เมื่อพูดถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง USD จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในรายการจับตามอง จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์การซื้อขายที่ติดธงแดง ที่อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของ GBP และ USD
และจากรายงานอัตราการเติบโตเบื้องต้นของสหราชอาณาจักรในไตรมาสที่ 3 มีรายงานว่าคาดการณ์ GDP ของสหราชอาณาจักรจะลดลงเหลือ 2.1% จาก 4.4% ในไตรมาสที่ 3 ส่วนรายงานประจำเดือนนี้คาดว่า GDP จะหดตัวลง -0.4% ในเดือนกันยายน ซึ่งลดลงจาก 0.3% ในเดือนสิงหาคม
และเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ก็คาดว่า GDP ของสหราชอาณาจักรจะลดลงมาอยู่ที่ -0.5% ในไตรมาสที่ 3 ลดลงจาก 0.2% ในไตรมาสที่ 2 และหากการรายงานในวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้จะทำให้เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรเข้าใกล้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคอีกก้าวหนึ่ง และ GBP ก็อาจอ่อนค่าลง และหากผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด ก็อาจช่วยให้ให้สกุลเงิน GBP ปรับขึ้นได้
หากคุณสนใจเรียนรู้การเทรดและการลงทุน Admiral Markets จัดทำสัมมนาการเทรดออนไลน์สำหรับคุณทุกคนทุกสัปดาห์ พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ ที่พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิดและกลกลยุทธ์การเทรดไปกับคุณ คลิกแบนเนอร์ด้านล่าง เพื่อดูกำหนดการที่จะมาถึง ห้ามพลาด!
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน